'เปรม-มหาเธร์'


เพิ่มเพื่อน    


    "มหาเธร์" เป็นที่รู้จักของโลกตะวันตกว่า จอมเผด็จการประชาธิปไตย 
    เป็นนายกรัฐมนตรีมาเลเซียยาวนานตั้งแต่ปี ๒๕๒๔ ถึง ๒๕๔๖ 
    รวม ๒๒ ปีเต็ม
    ถ้าเป็นคนก็จบมหาวิทยาลัยพอดิบพอดี 
    ขณะที่ "ป๋าเปรม" เป็นนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ปี ๒๕๒๓ ถึง ๒๕๓๑ 
    ภาพ "มหาเธร์" เจอกับ "ป๋าเปรม" จึงเหมือนเพื่อนเก่าได้เจอกัน 
    จอมเผด็จการประชาธิปไตยของมาเลเซีย กลับเข้าสู่เก้าอี้นายกรัฐมนตรีอีกครั้ง เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา 
    ในวัย ๙๓ ปี 
    เป็นการกลับมา เพราะมาเลเซียต้องหยุดชะงักงันจากการคอร์รัปชัน
    ยุคมหาเธร์ มาเลเซียพัฒนาแบบก้าวกระโดด เพราะวิสัยทัศน์ ๒๐๒๐ ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี ๒๕๓๔ 
    มาเลเซียจะเป็นประเทศอุตสาหกรรมในปี ๒๕๖๓ ซึ่งนับว่าใกล้เคียงอย่างมาก
    ๘ ปีของรัฐบาล "ป๋าเปรม" ได้วางรากฐานทางเศรษฐกิจ ให้กำเนิดเขตอุตสาหกรรมภาคตะวันออก 
    ภายใต้คำขวัญ "โชติช่วงชัชวาล" 
    แต่น่าเสียดาย แค่เปลี่ยนรัฐบาลก็กลายเป็น "บุฟเฟต์คาบิเนต"
    ไทยจึงตกอยู่ในวังวนคอร์รัปชัน และรัฐประหารมาโดยตลอด 
    เผด็จการ คสช. กำหนดยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี เพื่อให้ประเทศพัฒนาแบบไร้รอยต่อ อุดช่วงว่าง เปลี่ยนรัฐบาล เปลี่ยนนโยบาย ที่สุดท้ายเป็นได้แค่พายเรือในอ่าง 
    ทรัพยากรของชาติหมดไปกับนโยบายหาเสียง ลด แลก แจก แถม 
    แต่นักการเมืองพากันต่อต้าน อ้างว่าเป็นการสืบทอดอำนาจ 
    อย่าถามว่า มาเลเซีย นำไทยไปกี่ก้าว 
    มาเลเซียต้องเผชิญกับนักการเมืองโกงกินเหมือนไทย 
    รัฐบาลนาจิบ ราซัค ไม่ต่างจากรัฐบาลระบอบทักษิณ
    แต่ที่ต่างคือ มาเลเซียหยุดเลือดได้เร็ว 
    เพราะชาวมาเลเซียไม่ปล่อยให้คนโกงกลับมามีอำนาจ 
    "ป๋าเปรม" บอกมาตลอดว่าอย่านับถือคนโกง  
    แต่นักการเมืองไทยจำนวนมากกลับขายตัว ยอมเป็นทาสโกง 
    และยังมีคนไทยจำนวนไม่น้อยเสพติดนโยบายประชานิยม หลงเชื่อประชาธิปไตยเทียม 
    กวักมือเรียกคนโกง ให้เข้าสู่อำนาจ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"