ติดใจครม.สัญจร!ภาคเอกชนขอ'บิ๊กตู่'ซ้ำที่เชียงใหม่อีกรอบ


เพิ่มเพื่อน    

30 ต.ค.61-   นายวิโรจน์ จิรัฐิติกาลโชติ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคเหนือ กล่าวภายหลังการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 (เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน) ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า ภาคเอกชนพอใจกับผลการประชุมร่วมกับนายกฯ และคณะรัฐมนตรี เพราะนายกฯ จะได้รับฟังปัญหาและข้อเสนอของภาคเอกชนในพื้นที่ ส่วนใครจะมองว่าเป็นเรื่องของการหวังผลทางการเมืองหรือไม่ ภาคเอกชนไม่อยากให้น้ำหนักกับเรื่องนี้มากนัก เพราะเห็นว่า เมื่อนายกฯ มาประชุมทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้ประโยชน์จากโครงการต่างๆ ที่ถูกผลักดันออกมา และถูกบรรจุในแผนของกระทรวงต่างๆ เพื่อนำไปดำเนินการแล้ว หากไม่มีนายกฯ มาประชุมภาคเอกชนก็ไม่รู้ว่าจะเสนอการพัฒนาพื้นที่กับรัฐบาลผ่านทางช่องทางไหน  โดยผลที่เกิดขึ้นจากการเดินทางมาประชุมร่วมกัน หลายโครงการถูกผลักดันออกมา บรรจุในแผนของกระทรวง และบางโครงการก็ร่นเวลาให้เร็วขึ้น นับเป็นประโยชน์ทั้งสิ้น

"เรื่องที่อยากให้นายกฯ ทำต่อคือ อยากให้ไปประชุมกลุ่มจังหวัดที่จังหวัดเชียงใหม่สักครั้ง เพราะที่ผ่านมานายกฯ ยังไม่เคยไปประชุมรูปแบบนี้เลย ไม่เหมือนที่เชียงราย นายกฯ มาประชุมแล้ว 2 ครั้ง รวมทั้งนครสวรรค์ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก เนื่องจากเชียงใหม่เป็นคนละกลุ่มจังหวัดกัน เพราะอยู่ในกลุ่มเหนือตอนบน 1 มีเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง และแม่ฮ่องสอน ซึ่งตัวเองคิดว่า ถ้านายกฯไม่ไป อาจจะเป็นประเด็นทำให้คนคิดกันได้ว่า ทำไม ครม.ชุดนี้ไม่ไป”นายวิโรจน์ กล่าว

นายวิโรจน์ กล่าวว่า การประชุมร่วมกับภาคเอกชนครั้งนี้ นายกฯ ยังได้ขอความร่วมมือภาคเอกชนได้ไปร่วมทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ โดยไม่อยากให้สนใจถึงเรื่องของการจัดสรรงบประมาณในการทำโครงการเพียงอย่างเดียว แต่ต้องการให้รู้ถึงตัวโครงการที่ประชาชนจะได้รับประโยชน์ ซึ่งตลอดรัฐบาลนี้ได้เดินทางมายังพื้นที่ภาคเหนือแล้วหลายครั้ง แต่ละครั้งก็อนุมัติโครงการไปแล้วหลายโครงการ ส่วนการประชุม ครม.สัญจรแต่ละจังหวัดในช่วงนับจากนี้ แม้ถึงช่วงเวลาที่กฎหมายเลือกตั้งได้ประกาศออกมาแล้ว ภาคเอกชนก็อยากให้มีการประชุม ครม.เหมือนเดิม หรือปรับเปลี่ยนเป็นรูปแบบอื่นก็ได้ตามความเหมาะสม เพราะต้องการให้นายกฯ ลงมารับทราบปัญหาต่างๆจากในพื้นที่ด้วยหูของนายกฯ เอง

นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า สำหรับการประชุมครั้งนี้ที่ประชุมได้เห็นชอบข้อเสนอของภาคเอกชนทั้งหมด โดยเฉพาะเรื่องการพัฒนาถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ซึ่งเกิดเหตุการณ์นักฟุตบอลทีมหมูป่าอะคาเดมี่ จำนวน 13 คน พลัดหลงภายในถ้ำหลวง จนเป็นเหตุการณ์ที่ทั่วโลกให้ความสนใจและจดบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ ดังนั้น เพื่อให้การพัฒนาถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ในเหตุการณ์ดังกล่าว และเป็นสถานที่ท่องเที่ยว จึงขอรับการสนับสนุนการศึกษาออกแบบสิ่งอำนวยความสะดวกบริเวณถ้า การศึกษาความเหมาะสมการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวถ้าหลวง-ขุนน้ำนางนอนและชุมชนโดยรอบ การจัดทำแผนการบริหารจัดการ และขอรับการสนับสนุนการปรับปรุงส่วนที่มีความจำเป็นเร่งด่วน เช่น ถนนทางเข้า ที่จอดรถ และห้องสุขา 

นอกจากนี้ ยังเห็นชอบให้สนับสนุนการพัฒนาเพื่อการท่องเที่ยวเวียงหนองหล่ม อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีตำนานเมืองล่ม พื้นที่กว่า 20,000 ไร่ มีความหลากหลายทางธรรมชาติ สถาปัตยกรรมโบราณล้านนา และวัฒนธรรมชาติพันธุ์ เชื่อมโยงการท่องเที่ยวถ้าหลวง-ขุนน้ำนางนอน แม่สาย-เชียงแสน และการท่องเที่ยวชายแดน เส้นทางอาร์3เอ (ไทย-ลาว-เมียนมาร์)โดยนายกฯ ได้มอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับไปดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความเชื่อมโยงด้านการท่องเที่ยวต่อไป

เขากล่าวด้วยว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบข้อเสนอด้านอื่น ทั้งการพัฒนากว๊านพะเยาอย่างยั่งยืน การส่งเสริมการค้าและการลงทุน เช่น การขอรับการสนับสนุนขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหาร และเกษตรแปรรูปของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน2ขอให้มีการศึกษาความเหมาะสมการขยายระบบการขนส่งน้ามันทางท่อเชื่อมต่อจากจังหวัดลาปาง-จังหวัดแพร่ ระยะทาง 120 กิโลเมตร เช่นเดียวกับโครงการการพัมนาเส้นทางถนน และทางราง และการพัฒนาเกษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์ เป็นต้น


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"