'ตู่'เตือนล้มเลือกตั้ง วอนอย่ากวน'กำนัน'อ้างจัดฉาก/พท.ทาบ'ปานปรีย์'คุมนอมินี


เพิ่มเพื่อน    

    "จตุพร" ห่วงใยการเดินคารวะแผ่นดินของ "กำนัน" เรียกร้องอย่าขัดขวาง เพราะการแสดงออกซึ่งการต่อต้านนั้น บางเรื่องก็เป็นเรื่องจริง แต่ต่อมาจะมีวิวัฒนาการจัดฉาก นำไปสู่ความขัดแย้งรอบใหม่ เป็นเหตุให้เลื่อนเลือกตั้ง ขณะที่เพื่อไทยพล่านจัดระเบียบพรรคนอมินี สะพัดทาบ "ปานปรีย์" นั่งหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ หวังเพิ่มเก้าอี้ปาร์ตี้ลิสต์ทดแทน
    เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ให้สัมภาษณ์ก่อนเปิดสาขาพรรคภาคกลาง และสถาบันพัฒนาการเมืองพรรคเพื่อชาติ ที่ศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง ว่าวันนี้ห่วงใยสถานการณ์ในประเทศ ซึ่งพรรคสนับสนุนแนวทางที่เป็นกลาง เพราะบ้านเมืองต้องการความสงบสุข ซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการ พร้อมกับความเป็นประชาธิปไตย มีการเลือกตั้ง และได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ที่สามารถแก้ไขปัญหาของชาติได้ ไม่ว่าจะปัญหาเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ทั้งนี้ พรรคเพื่อชาติได้ดำเนินการอย่างถูกต้องตามรัฐธรรมนูญครบถ้วนสมบูรณ์ และห่วงใยสถานการณ์บ้านเมืองเป็นอย่างมาก
    นายจตุพรกล่าวถึงการเดินคารวะแผ่นดินของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ว่าการเดินของพรรคการเมืองหนึ่ง ถือเป็นสิทธิเสรีภาพ แต่เราต่างมีบทเรียนเรื่องของการกระทบกระทั่ง ซึ่งจะก่อให้เกิดการขยายความและการต่อต้านพรรคการเมืองอื่นด้วย สุดท้ายก็จะนำไปสู่ความขัดแย้งรอบใหม่ จนเป็นเหตุไม่ให้ประเทศไทยมีการเลือกตั้ง 
    "ผมจึงรู้สึกห่วงใยต่อการเดินของพรรค รปช. และอยากเรียกร้องให้ประชาชนอย่าขัดขวาง เพราะการแสดงออกซึ่งการต่อต้านนั้น บางเรื่องก็เป็นเรื่องจริง แต่ต่อมาจะมีวิวัฒนาการจัดฉาก ซึ่งเราต้องเป็นประชาธิปไตยที่สามารถพูดคุยกันได้ แม้จะมีความคิดแตกต่างกัน มิฉะนั้นบ้านเมืองจะเดินต่อไปไม่ได้"
    เขากล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุถ้าบ้านเมืองไม่สงบก็จะไม่มีการเลือกตั้ง และวันนี้ก็มีการต่อต้านพรรคการเมืองที่ไปเดินหาสมาชิก จึงเกรงว่าจะนำไปสู่กระบวนการจัดการจนล้มการเลือกตั้งในที่สุด ดังนั้นทุกคนควรหลีกเลี่ยง ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องไปฟัง เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าไปได้
    นายจตุพรบอกว่า ตนเองและนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภา เห็นว่าการจะได้มาซึ่งนายกรัฐมนตรี และการจัดตั้งรัฐบาลนั้น ควรจะมีการพูดคุยกันทุกฝ่าย เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีปัญหา ซึ่งจะก่อให้เกิดวิกฤติได้ทุกเมื่อ ดังนั้นทุกฝ่ายควรหันหน้ามาคุยกัน ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมือง ผู้มีอำนาจ และภาคประชาชน ขอให้ตกลงเป็นสัญญาประชาคมกันก่อน
    ขณะที่นายยงยุทธกล่าวว่า วันนี้ทุกคนเป็นห่วงว่าจะมีการเลือกตั้งหรือไม่ แต่สิ่งที่เป็นห่วงมากที่สุดคือความขัดแย้ง การแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ไม่เห็นด้วยกับการบังคับประชาชนให้เลือกข้าง ดังนั้น ทุกฝ่ายควรร่วมมือกัน เพราะทุกคนต่างมีศักยภาพในตัวเอง ขอให้มายืนอยู่ในเกาะกลางแล้วร่วมมือกันพัฒนาประเทศ เพื่อมอบมรดกดีๆ ไว้ให้ลูกหลานในวันข้างหน้า เราเป็นห่วงอย่างยิ่งต่อการเผชิญหน้าของประชาชน ไม่อยากให้มีการยั่วยุระหว่างที่พรรคการเมืองเดินหาสมาชิก เพราะอาจจะก่อให้เกิดความพลิกผันจนทำให้ไม่มีการเลือกตั้งได้
ทาบนอมินี"ปานปรีย์"
    มีรายงานความเคลื่อนไหวทางการเมืองของฝ่าย นายทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย ต่อการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น โดยเฉพาะแนวทางการทำพรรคพันธมิตร พรรคเครือข่ายกับพรรคเพื่อไทย เพื่อให้ได้เสียง ส.ส.เกิน  เสียงในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นว่า ขณะนี้แกนนำพรรคเพื่อไทยหลายส่วน โดยเฉพาะสายที่ใกล้ชิดกับนายทักษิณ เห็นว่าแม้ที่ผ่านมาจะมีการเปิดตัวทำพรรคการเมืองที่ถูกมองว่าเป็นพรรคเครือข่ายเพื่อไทยมาแล้วหลายพรรคเช่น พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อธรรม พรรคเพื่อชาติ 
    แต่ล่าสุดแกนนำเพื่อไทยเห็นว่า พรรคที่ทางคนของเพื่อไทย-หัวคะแนนควรให้การสนับสนุนคือพรรคไทยรักษาชาติ เพื่อให้เป็นพรรคที่ไปเก็บคะแนนเสียงการเลือกตั้งในแต่ละพื้นที่ให้มากที่สุด เพื่อจะได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ เพราะแกนนำเพื่อไทยประเมินกันว่ามีโอกาสที่เพื่อไทยจะได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ลดน้อยลงจากเดิมที่เคยได้ร่วม 30-40 เก้าอี้
    แหล่งข่าวระบุว่า แกนนำพรรคเพื่อไทยได้ติดต่อทาบทามนายปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีตประธานบอร์ดบริษัท ปตท. สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร, อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย, อดีตผู้แทนการค้าไทยในยุครัฐบาลไทยรักไทย, อดีต ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ไทยรักไทย, หลานเขยพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ให้มาเป็นหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ โดยมีการคุยกันมาแล้วหลายรอบ แต่ยังไม่ได้ข้อยุติ และอยู่ระหว่างการรอคำตอบสุดท้ายในช่วงต้นสัปดาห์นี้ คืออาจไม่เกินวันจันทร์ที่ 5 พ.ย. เพราะทางพรรคได้นัดประชุมแกนนำพรรคที่จะขับเคลื่อนพรรคไทยรักษาชาติในวันที่ 7 พ.ย. ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์  
    “พรรคไทยรักษาชาติ เป็นพรรคที่คนของเจ๊แจ๋น พวงเพชร ชุนละเอียด แกนนำเพื่อไทยสายอีสาน ไปยื่นจดจัดตั้งพรรคกับสำนักงาน กกต.ไว้หลายปีแล้ว กกต.รับรองแล้ว เท่ากับว่าหัวพรรคเรียบร้อยหมดแล้ว เหลือแค่จัดทัพเอาตัวจริงไปไว้ในตำแหน่งต่างๆ เช่น หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรคเท่านั้น ที่ผ่านมามีการคุยเรื่องนี้มานานแล้ว แต่เริ่มชัดเจนมากขึ้นหลังเพื่อไทยมีการจัดทัพเลือกกรรมการบริหารพรรคไปเมื่อ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คนเพื่อไทยที่จะไปอยู่ พรรคไทยรักษาชาติ เลยต้องเร่งคุยและหาข้อสรุป ซึ่งถึงตอนนี้ขั้นตอนทุกอย่างเสร็จเกือบหมดแล้ว เหลือแค่รอคำตอบจากคนที่จะมาเป็นคีย์แมนพรรคตัวจริงตอนเลือกตั้งเท่านั้น ก็คาดว่าภายในวันจันทร์นี้น่าจะได้ข้อสรุปว่าใครจะเป็นหัวหน้าพรรค จะใช่ ดร.ปานปรีย์หรือไม่ รวมถึงเลขาธิการพรรคด้วย ซึ่งเบื้องต้นเท่าที่แกนนำฝ่ายทำพรรคไทยรักษาชาติวางกันไว้ก็คือ จะไม่เน้นผล ส.ส.เขตมากนัก แต่จะเน้นปาร์ตี้ลิสต์ โดยตั้งเป้าไว้ที่ 20-30  เก้าอี้ เพื่อมาแทนส่วนที่พรรคเพื่อไทยจะไม่ได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์” แหล่งข่าวกล่าว  
ซัด"ดอน"อ่อนหัด
    นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระบุทำนองไม่อยากให้ต่างชาติเข้ามาดูการเลือกตั้งไทยว่า นายดอนท่านไม่เข้าใจการเมือง และความโปร่งใสของการเมืองว่ามีความสำคัญอย่างไร วันนี้ทั่วโลกต่างอยากให้นานาชาติเห็น และยอมรับว่าประเทศของตัวเองมีการจัดการเลือกตั้งที่โปร่งใสทั้งสิ้น แต่วันนี้ผู้ที่กุมอำนาจกลับแสดงตัวชัดเจนว่าไม่เปิดโอกาสให้ใครมาตรวจสอบดูแลการเลือกตั้ง 
    อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่าการเปิดโอกาสให้ต่างชาติมาดูมีผลดีมากกว่าผลเสีย เพราะจะทำให้ภาพความโปร่งใสของผู้มีอำนาจดีขึ้นว่าอย่างน้อยก็พยายามให้คนเข้ามาสังเกตการณ์ และดูเรื่องความโปร่งใสได้
    “การที่นายดอนออกมาพูดในลักษณะนี้ สะท้อนให้เห็นว่านายดอนยังไม่ตระหนักถึงความสำคัญของความโปร่งใสที่นานาชาติให้ความสำคัญ และเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ต่างชาติเชื่อมั่นต่อประเทศไทย” นายภูมิธรรม กล่าว
    ด้านนายสามารถ แก้วมีชัย อดีต ส.ส.เชียงราย และคณะทำงานติดตามการร่างรัฐธรรมนูญพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า วันนี้ในหลายพื้นที่เริ่มแล้ว นัดผู้นำแจกเงิน หลอกล่อด้วยผลประโยชน์ พากินพาเที่ยว ขอให้พี่น้องประชาชนทั้งหลายพึงระวังและตระหนักถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้นกับตัวท่าน ลูกหลานและบ้านเมือง ถ้าได้บุคคลเหล่านี้เข้าไปเป็นผู้ใช้อำนาจแทนท่าน
    ที่ จ.ตราด เช้าวันเดียวกันนี้ ก่อนเดินทางไปพบปะประชาชนชาวตราดในชุมชน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และนายกิตติธัช ไชยอรรถ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย พร้อมกรรมการพรรค ได้ทำการถวายสักการะพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 หน้าศาลากลาง จ.ตราด
    จากนั้น คณะของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้เริ่มเดินทางพบปะประชาชนชาวตราด ที่หน้าโรงพยาบาลตราด ไปยังตลาดสดเทศบาลเมืองตราด ตลาดซอยไร่รั้ง ตลาดเทพอุดร ซึ่งระหว่างทางได้พบปะและร่วมถ่ายรูปและเชิญชวนให้สมัครสมาชิกของพรรครวมพลังประชาชาติไทยด้วย ซึ่งมีจำนวนหนึ่งที่ร่วมลงสมัคร หลายคนได้ร่วมถ่ายรูปและพูดคุยถึงเหตุการณ์เมื่อครั้งเดินทางไปร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ ของกลุ่มมวลมหาประชาชนในนามกลุ่ม กปปส. โดยประชาชนชาวตราดให้ความสนใจในการเดินทางมาของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ จำนวนมาก และบางส่วนยังได้มอบของ มอบอาหาร และมอบขนมให้ด้วย
พวกรับจ้างด่า
    นายสุเทพให้สัมภาษณ์ว่า การเดินทางมา จ.จันทบุรีและ จ.ตราดในครั้งนี้ ได้รับการต้อนรับจากประชาชนทั้งสองจังหวัดเป็นอันมาก โดยเฉพาะที่ จ.ตราด ให้การต้อนรับดีมาก และร่วมสมัครเป็นสมาชิกแล้ว 14 คน ในจำนวนนี้ 2 คนสมาชิกตลอดชีพ ที่ จ.ตราดต้อนรับดีมาก บางคนให้ขนม ให้ดอกไม้ ให้อาหารซึ่งแสดงถึงการมีน้ำใจของชาวตราด เพราะว่าคนตราดส่วนหนึ่งได้เข้าร่วมในเหตุการณ์การต่อสู้ของ กปปส. ซึ่งเมื่อเรามาชวนให้ร่วมเป็นสมาชิกพรรค เขาจึงพร้อมและร่วมงานแบบไหนไปด้วย อีกทั้งเรายังมั่นใจว่าที่ จ.ตราดจะมีผู้เข้ามาร่วมเป็นสมาชิกพรรคจำนวนมาก ซึ่งเมื่อครบ 500 คนแล้ว จะจัดตั้งสาขาพรรคที่บ้านของคุณกิตติธัช ไชยอรรถ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคการเมืองของเราด้วย
    เขากล่าวว่า การเดินทางมาที่ จ.ตราดในครั้งนี้ ยังได้เดินทางไปเยี่ยมญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งถูกคนร้ายใช้เอ็ม 16 กราดยิง และขว้างระเบิดในเวทีปราศรัยที่ไม่ได้ก้าวร้าวหรือด่าพ่อแม่ใคร แต่กลุ่มอำนาจเก่ากลัวที่จะสูญเสียอำนาจ จึงส่งคนร้ายมาทำร้าย ซึ่งเป็นกระทำที่อำมหิตมาก เพราะว่ามีเด็กเสียชีวิตไป 2 คน คนสูงอายุ 1 คน และผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 30 คน ซึ่งครอบครัวของเขาบอกภาคภูมิใจในการต่อสู้เพื่อประเทศชาติ ตนเองเศร้าใจและเห็นใจเขามาก
    นายสุเทพยังกล่าวอีกว่า การที่มีผู้ออกมาด่า ออกมาคัดค้านหรือแนะนำว่าไม่ควรจะออกมาตั้งพรรคการเมืองเพราะไม่เห็นด้วยนั้น เป็นผู้ที่รับจ้างมาด่า เพราะจะพูดจาด้วยข้อความเดียวกัน และจะอยู่ห่างๆ กัน เพื่อสร้างข่าว ที่จันทบุรีก็มี แต่เห็นว่ามีประชาชนสนับสนุนมาก จึงยืนเป็นกลุ่ม เรื่องนี้ไม่สนใจ เพราะเมื่อเดินทางมาถึงวันนี้แล้วจะไม่กลัว และจะมีเหตุการณ์เช่นนี้อีกมาก เพราะนี่เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น ซึ่งขอบอกไปเลยว่าจะไม่หยุดเดินพบประชาชน และไม่ห่วงว่าจะเจ็บป่วย แต่จะอยู่ถึงวันเลือกตั้ง
    วันเดียวกันนี้ พรรคพลังธรรมใหม่ได้จัดการประชุมเปิดตัว ส.ส. 150 เขตทั่วประเทศของพรรค โดย นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวว่า พรรคพลังธรรมใหม่พร้อมแล้วสำหรับการเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ.62 อย่างแน่นอน ซึ่งการประชุมในวันนี้เป็นการพูดคุยของ ส.ส.กลุ่มแรก และในวันที่ 20 พ.ย.นี้ พรรคจะทำการปฐมนิเทศผู้สมัคร ส.ส.เขต 350 คน และ ส.ส.สัดส่วน 150 คน และมีสมาชิกพรรคครบ 80,000 คนก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งจะเป็นการพิสูจน์ให้ประชาชนทั่วประเทศเห็นว่าพรรคพลังธรรมใหม่คือพรรคที่ประชาชนเป็นเจ้าของอย่างแท้จริง 
เป้าหมายเปลี่ยนประเทศ
    "เราเป็นพรรคที่ประชาชนมาร่วมกันเสียสละเวลา เงินทอง เพื่อที่จะสร้างพรรคของปรระชาชนจริงๆ โดยเราไม่ได้มีเงินทองมากมายที่จะไปสู้กับพรรคอื่น แต่เราจะใช้อุดมการณ์ ความมุ่งมั่น พยายามของสมาชิกทั่วทั้งประเทศ ที่จะทำการสู้ศึกเลือกตั้งในครั้งนี้ โดยมีเป้าหมายหลักคือ เราต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นดินแดนที่ปราศจากคอร์รัปชัน และต้องการปฏิรูปพลังงานไทยให้สมบัติ ทรัพยากรของคนไทยกลับมาเป็นของคนไทยอีกครั้งหนึ่ง"
    นพ.ระวีกล่าวว่า หลังการเลือกตั้ง หากเราได้ ส.ส. 25 คน เราจะเสนอคนของพรรคขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคได้มีการเตรียม 3 รายชื่อแคนดิเดตไว้แล้ว 1 ใน 3 ของคนมีหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ แต่อีก 2 รายชื่อจะขอเปิดเผยในช่วงเดือน ธ.ค.นี้ แต่หากเราไม่ประสบความสำเร็จได้คะเนนเสียงตามที่วางเป้าหมายไว้ เราจะให้สมาชิกในพรรคทั่วประเทศลงประชามติเลือกรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรคอื่นๆ ที่พวกเราเห็นว่ามีความเหมาะสมมากที่สุดในขณะนั้น เพื่อที่จะให้บ้านเมืองเดินได้และมีความสงบเรียบร้อย พลังธรรมใหม่ไม่ได้เป็นศัตรูหรือมิตรกับใครอย่างแท้จริง และเราไม่ได้เป็นนอมินีของใครอย่างแน่นอน
    ที่โรงแรมปทุมธานีเพลส จ.ปทุมธานี มีการประชุมพรรคพลังท้องถิ่นไท เพื่อเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ จำนวน 29 คน โดยที่ประชุมมีมติเลือกนายชัชวาลย์ คงอุดม อดีต ส.ว. เป็นหัวหน้าพรรค, นายเกรียงไกร ภูมิเหล่าแจ้ง อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปประเทศ(สปช.) เป็นรองหัวหน้าพรรค, นายธีรศักดิ์ พานิชวิทย์  อดีต สปช. เป็นเลขาธิการพรรค, นายชื่นชอบ คงอุดม อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ เป็นโฆษกพรรค, นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ศิลปินชื่อดัง เป็นรองโฆษกพรรค 
    โดยจะมีการเปิดตัวกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่อย่างเป็นทางการในวันที่ 3 พ.ย. ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี พร้อมเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.เขตต่างๆ ของพรรค อาทิ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ อดีต ส.ส.ขอนแก่น, นายวิทยา ภูมิเหล่าแจ้ง อดีต ส.ส.กาฬสินธุ์, นายเกษม มาลัยศรี อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด รวมถึง “ฟิลม์ รัฐภูมิ” ที่จะลงสนามเปิดตัวเป็นผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตดินแดง โดยตั้งเป้าส่งผู้สมัครครบทั้ง 350 เขต
     นายชัชวาลย์กล่าวต่อว่า แนวคิดที่จะหนุนใครมาเป็นนายกรัฐมนตรียังไม่คิด ซึ่งต้องให้มีคนเลือกตนเยอะๆ จะได้เป็นเอง โดยไม่คิดที่จะเป็นนายกฯ ส่วนรายชื่อที่เสนอเป็นนายกรัฐมนตรีมี 3 รายชื่อ เป็นคนในพรรคหมดเลย ไม่มีคนนอก ซึ่งตอนนี้ต้องเสนอตนคนเดียวก่อน อีก 2 คนค่อยเปิดตัว ซึ่งในการเลือกตั้ง หากพรรคพลังประชารัฐเป็นรัฐบาล ถ้ามีนโยบายมีใกล้เคียงกันกับพรรคพลังท้องถิ่นไท ก็สามารถร่วมงานกันได้ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน เพราะเราเป็นคนไทย ไม่เลือกข้างอยู่แล้วคิดว่าทำอย่างไรให้ประเทศชาติเดินหน้าไปได้มากกว่า ทั้งนี้ สถานการณ์การเมืองไม่วุ่นวาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของประเทศคุ้มครอง เชื่อว่ามีการเลือกตั้งวันที่ 24 ก.พ.62 แน่นอน
    ขณะที่ นพ.เปรมศักดิ์กล่าวถึงการตัดสินใจร่วมงานการเมืองกับพรรคว่า เป็นพรรคที่มีนโยบายเน้นเรื่องท้องถิ่น กระจายอำนาจ และจากที่ตนมีประสบการณ์ทำงานในท้องถิ่นพบข้อเท็จจริงคือ การพัฒนาประเทศได้ ต้องเริ่มจากท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อมั่นว่าจากการทำงานในพื้นที่ ฐานะคนในพื้นที่จะได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. อย่างแน่นอน ขณะที่คู่แข่งจากพรรคการเมืองอื่น ยังไม่พบการเปิดตัวที่ชัดเจน ส่วนคดีความที่ตนถูกฟ้องร้อง และถูกคำสั่งหัวหน้า คสช. ปลดจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่นั้น ไม่ถือว่าเป็นปัญหา เพราะรายละเอียดของคดีไม่ใช่เรื่องทุจริต ดังนั้นการลงพื้นที่หรือหาเสียงในพื้นที่เชื่อว่าจะไม่มีใครนำไปดิสเครดิตได้
    นายเกรียงไกร ภูมิเหล่าแจ้ง รองหัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท กล่าวว่า หลังจากที่พรรคได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครไปก่อนหน้านี้ มีพรรคการเมืองใหญ่บางพรรค ติดต่อซื้อตัวฟิล์ม-รัฐภูมิ ในราคา 30 ล้านบาท ให้ไปร่วมงานด้วย แต่นายรัฐภูมิยืนยันจะทำงานร่วมกับพรรคพลังท้องถิ่นไท เพราะเชื่อมั่นในอุดมการณ์และนโยบายพรรคที่ผลักดันเรื่องกระจายอำนาจ เพื่อพัฒนาท้องถิ่น.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"