ประมูลรถไฟเชื่อม 3 สนามบินหนุนหุ้นอีอีซี คึกคัก


เพิ่มเพื่อน    

 

อานิสงส์เปิดประมูลรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน-เมืองการบินภาคตะวันออก หนุนอมตะ-ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น คึกคัก จับตาเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐ ตัดสินนโยบายทรัมป์ คาดดอกเบี้ยไทยคงที่ 1.5% แน่นอน

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า การที่รัฐบาลเตรียมเดินหน้า 2 โครงการลงทุนขนาดใหญ่ เริ่มจากรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินที่ผู้สนใจจะยื่นซองราคา ในวันที่ 12 พ.ย.61 และในวันเดียวกันจนถึง 26 พ.ย.61 จะเปิดขายซองโครงการเมืองการบินภาคตะวันออก (อู่ตะเภา) มูลค่า 300,000 ล้านบาท ช่วยส่งผลดีต่อราคาหุ้นของบริษัทที่มีสินทรัพย์รวมถึงฐานธุรกิจอยู่ใน 3 จังหวัด โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) เริ่มจากผู้ประกอบการในธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม เพราะถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินอยู่ 10,000 ไร่ ทั้ง 2 บริษัท ได้แก่ บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชัน และบมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น รวมถึง บมจ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก (อีสวอเตอร์) ที่เป็นผู้จําหน่ายน้ำให้กับผู้ใช้ภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่อีอีซี เป็นต้น

สำหรับแนวโน้มหุ้นสัปดาห์นี้ ยังต้องติดตามปัจจัยจากต่างประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐ วันนี้ 6 พ.ย.นี้ ซึ่งจะเป็นการเลือกตั้ง สส. 435 ที่นั่ง และ สว. 35 ที่นั่ง  หากเดโมแครตสามารถครองเสียงข้างมากได้ในสภาใดสภาหนึ่ง เชื่อว่าจะมีผลต่อการผลักดันนโยบายสําคัญของรัฐบาลทรัมป์ในอนาคต แต่หากรีพับลิกันยังครองเสียงส่วนใหญ่ ทั้ง 2 สภา มาตรการต่าง ๆ ก็ยังดําเนินต่อไป โดยเฉพาะมาตรการทางภาษีกับจีน ถือเป็นปัจจัยที่มีผลภาวะการลงทุนในระยะถัดไป แม้ระยะสั้นจะมีความคาดหวังเชิงบวกจากความเป็นไปได้ที่ผู้นําทั้ง 2 ประเทศจะเจรจากันนอกรอบก่อนการประชุม จี20 ในวันที่ 30 พ.ย.-1 ธ.ค.ก็ตาม รวมถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ วันที่ 7-8 พ.ย. คาดยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ย แต่น่าจะปรับขึ้นในเดือน ธ.ค. นี้

สำหรับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยไทย คาดว่าการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 14 พ.ย.นี้่ ยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย  แต่อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยยังคงอยู่ที่ 1.5% ต่อเนื่อง โดยที่มี 2 ปัจจัยเป็นตัวชี้นําเริ่มจากผลกระทบที่เป็นรูปธรรมของสงครามการค้าต่อเศรษฐกิจ จากตัวเลขการส่งออกเดือน ก.ย. หดตัว 5.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 1 ปี 7 เดือน ตามด้วยการชะลอตัวของอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งเดือน ต.ค. อยู่ที่ 1.23% เทียบกับ 1.33% ในเดือน ก.ย. และยังต่ำกว่าดอกเบี้ยนโยบาย ภาวะดังกล่าวทําให้ยังสามารถคงอัตราดอกเบี้ยไว้ได้อีกระยะ
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"