24ก.พ.62เลื่อนได้ วิษณุชี้กกต.ต้องคิดหากพรรคไม่พร้อม/‘จตุพร’ฟันธงไร้หย่อนบัตรแน่


เพิ่มเพื่อน    

 "วิษณุ" พูดแปลกหากหลายพรรคการเมืองไม่พร้อมเลือกตั้ง 24 ก.พ.62 กกต.สามารถเลื่อนออกไปได้ ยัน คสช.ไม่มีอำนาจ "โภคิน" เตือนรอมา 7 ปี 24 ก.พ.ไม่เลือกตั้งมีปัญหาแน่ "จตุพร" ปูด 24 ก.พ.ไม่เกิด 100% เหตุรับรอง 31 พรรคการเมืองไม่ทัน จี้ คสช.-กกต.พูดความจริงเลือกตั้งได้วันไหน ด้านเลขาฯ กกต.ยันมีความพร้อมแน่ "เพื่อแม้ว" ซุ่มทำโพล ฟุ้งรวมกับพรรคอะไหล่กวาด 290 ส.ส.จับมือจัดตั้งรัฐบาลได้ "กำนันสุเทพ" ลุยพื้นที่ด้ามขวาน มั่นใจคนใต้ร่วมเป็นร่วมตายกันมาจะไม่ทิ้งกัน 

    เมื่อวันอาทิตย์ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ  (คสช.) จะนัดหารือกับพรรคการเมืองตามข้อ 8 ในคำสั่ง คสช.ที่ 53/2560 ซึ่งหากหลายพรรคการเมืองระบุเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่พร้อมเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ.62 จะเป็นเหตุให้การเลือกตั้งเลื่อนออกไปหรือไม่ ว่าในกรณีดังกล่าวตนไม่ทราบ เนื่องจากคนกำหนดวันเลือกตั้งคือคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)  เมื่อ กกต.ได้รับฟังเสียงสะท้อนจากพรรคการเมืองแล้วก็ต้องคิดเอง 
    "เพราะหาก กกต.ไม่พร้อมจัดการเลือกตั้งก็ยังสามารถเลื่อนวันออกไปได้ แต่เมื่อวันนี้ กกต.บอกว่าพร้อม แต่หากคนอื่นบอกว่าไม่พร้อมก็ต้องไปพิจารณา ไม่ใช่เป็นเรื่อง คสช." นายวิษณุกล่าว
    ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีหาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช.ตอบรับพรรคการเมืองใดที่เสนอชื่อชิงนายกฯ จะสามารถปราศรัยหาเสียงได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ สามารถเดินสายได้ในฐานะนายกฯ คนปัจจุบัน เนื่องจากหน้าที่การบริหารราชการแผ่นดินยังมีอยู่ เพราะเป็นรัฐบาลอำนาจเต็ม พูดเชิญชวนให้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งสามารถทำได้ แต่ไม่สามารถพูดเชิญชวนให้มาเลือกพรรคนั้นๆ และไม่สามารถไปร่วมเวทีปราศรัยพรรคการเมืองที่สนับสนุนได้ นั่นจะเป็นความผิดแม้จะอยู่นอกเวลาราชการแล้วก็ตาม เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้เป็นผู้สมัครของพรรค ยังถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ต้องวางตัวเป็นกลาง และไม่ให้คุณให้โทษต่อพรรคการเมือง ซึ่งใน พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ได้บัญญัติห้ามเอาไว้
    นายโภคิน พลกุล แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายวิษณุเปิดไทม์ไลน์การเลือกตั้งว่า วันนี้เราคิดว่าจะไปสู่ประชาธิปไตย ประชาชนรอวันเลือกตั้ง รอวันจะไปลงคะแนนเพราะไม่ได้ลงมา 7 ปีแล้ว  หาก 24 ก.พ.ไม่เลือกตั้ง ใครทำให้เลื่อนออกไปต้องมีปัญหาแน่เพราะยืนยันไว้แล้ว แต่ก่อนวันที่ 24  ก.พ. การดำเนินการต่างๆ อยากให้ทำด้วยความยุติธรรม เราต้องให้โอกาสประชาชน อย่าไปกลั่นแกล้ง รังแก เพราะประชาชนเขาลำบากอยู่แล้ว อยากให้เริ่มต้นด้วยดีไปสู่จุดนั้นและยอมรับผลการเลือกตั้ง
      ที่ห้างอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แถลงเรียกร้องให้ คสช.และ กกต.ควรจะพูดความจริงกับประชาชนว่าการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 ก.พ.62 นั้นไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เนื่องจากยังมี 31 พรรคการเมืองที่อยู่ระหว่างการพิจารณารับรองของนายทะเบียนพรรคการเมือง ต้องให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 26 พ.ย.61 ซึ่งจะเป็นวันสุดท้าย ทั้งนี้ตนไม่ขัดข้องกับการเลื่อนการเลือกตั้ง แต่ต้องพูดความจริงกับประชาชนว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันที่เท่าไหร่จริงๆ กันแน่ ตนได้เห็นผู้นำให้สัมภาษณ์ที่ประเทศเบลเยียมว่าการเลือกตั้งจะอยู่ระหว่าง ก.พ.ถึง พ.ค.62 นี่คือตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญที่จะมีการประกาศใช้ในวันที่  11 ธ.ค.ที่จะถึงนี้ เพราะฉะนั้นวันสุดท้ายของการเลือกตั้งคือวันที่ 9 พ.ค.62 ถือว่ายังมีระยะเวลาที่จะเดินไปถึงตรงนั้น 
24 ก.พ.62 ไร้เลือกตั้ง 100%
    "มั่นใจว่าต้องเลื่อนร้อยเปอร์เซ็นต์ เอาที่ คสช.และ กกต.สบายใจว่าวันไหนคือวันเลือกตั้งและจะไม่เลื่อนอีกแล้ว ผมไม่อยากให้คนไทยเข้าใจว่าทั้ง กกต.และ คสช.มีการแบ่งงานกันทำหวังเลื่อนการเลือกตั้ง เพราะยิ่งสร้างความขัดแย้ง อยากให้ทุกคนอดทนและรอคอยการเลือกตั้งให้ได้ และต้องมองข้ามความรู้สึกถูกหลอกอีกแล้วหรือรับไม่ได้ เพราะจะทำให้เหตุการณ์ลุกลามบานปลาย มิฉะนั้นเราจะเดินไปไม่ถึงการเลือกตั้ง นอกจากนี้ผู้มีอำนาจในการจัดการเลือกตั้งจะต้องไม่ปล่อยให้การเลือกตั้งทุจริตฉ้อฉลเพราะจะนำไปสู่วิกฤติชาติ" นายจตุพรกล่าว
    ด้าน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง กล่าวถึงกรณีที่นายจตุพรมั่นใจว่าการเลือกตั้งจะเลื่อนออกไปจากวันที่ 24 ก.พ.62 ว่า ได้ลงนามรับรองพรรคการเมืองใหม่ไปแล้ว 25 พรรค จากที่ยื่นเข้ามา 37 พรรคการเมือง เหลือเพียง 12 พรรคการเมืองเท่านั้นที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบความถูกต้อง โดยล่าสุดมีบางพรรคการเมืองเพิ่งยื่นเอกสารเข้ามาในวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยสำนักงาน กกต.จะเร่งทำงานอย่างเต็มที่ 
    "สถานะความเป็นพรรคการเมืองนั้นจะเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่นายทะเบียนพรรคการเมืองลงนามทันที  ไม่จำเป็นต้องรอประกาศในราชกิจจานุเบกษา ขณะที่สถานะสมาชิกพรรคของผู้ร่วมก่อตั้งพรรคนั้น จะมีผลย้อนหลังไปถึงวันที่พรรคการเมืองได้ยื่นเอกสารต่อ กกต. ซึ่งขอยืนยันด้วยว่าสำนักงาน กกต.มีความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ.62 อย่างแน่นอน" พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าว 
    วันเดียวกัน ที่ห้างอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว ที่ทำการพรรคเพื่อชาติ (พช.) ชั่วคราว ได้เปิดตัวว่าที่หัวหน้าพรรค คือ นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ อดีต รมช.พาณิชย์ในรัฐบาลพลังประชาชน พร้อมทีมงานซึ่งประกอบด้วย นายวิโชติ วัณโณ, นายอุสมาน ลูกหยี และ น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง โดยนายสงครามกล่าวว่า ตนได้รับการทาบทามจากคณะผู้บริหารเพื่อชาติ ซึ่งคิดอยู่ว่าจะรับหรือไม่เพราะตนสังกัดพรรคเพื่อไทยก็ดีอยู่แล้ว และถ้าชนะเลือกตั้งมีโอกาสสูงเป็นรัฐบาล แต่เมื่อพิจารณาดูแล้วว่าถึงแม้จะผ่านเลือกตั้งไปแล้ว ฝ่ายไหนที่เป็นรัฐบาลเข้ามาบริหารบ้านเมืองก็จะไม่ราบรื่น เชื่อว่าปัญหาจะตามมาแน่นอน แม้แต่พรรคเพื่อไทยถ้าได้เป็นรัฐบาลจะเป็นรัฐบาลเป็ดง่อย เนื่องจากมีรัฐซ้อนรัฐ มีอีกหลายองค์กรที่สามารถอยู่เหนือกว่ารัฐบาลที่จะเกิดขึ้นในอนาคต 
    "แต่พรรคเพื่อชาติเปรียบเป็นพรรคที่อยู่เกาะกลางเพื่อจับมือกับทุกๆ ฝ่าย หมายถึงว่าพูดคุยกันได้ไม่ว่าจะอยู่ฝั่งไหน สีอะไรที่เป็นประชาธิปไตย ซึ่งไม่ต้องเปลี่ยนจุดยืนเพื่อทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้ ฉะนั้นผมตัดสินใจและรับเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ" นายสงครามกล่าว 
    ด้านนายวิโชติกล่าวว่า การประชุมใหญ่สามัญประจำปีครั้งที่ 3 ของพรรคเพื่อชาติ วันที่ 23 พ.ย. ที่ธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต เพื่อดำเนินการให้ครบตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้เป็นพรรคที่มีความพร้อม  และคาดการณ์ว่าจะมีผู้สมัครทั้ง 350 เขตทั่วประเทศมาพร้อมหน้า และสมาชิกพรรครวมแล้วกว่า 10,000 คน พร้อมทั้งเชิญทูตานุทูตต่างประเทศมาสังเกตการณ์
'ตู่-พุทธะอิสระ' แบบอย่าง ปชต.
    ขณะที่นายจตุพรกล่าวสนับสนุนนายสงครามเป็นหัวหน้าพรรค พช.ว่า "มีความเหมาะสมทั้งปวง  เพราะตลอดสิบกว่าปีนี้คุณสงครามได้เสียสละให้ฝ่ายประชาธิปไตยมาอย่างยาวนาน" พร้อมกับเรียกร้องให้ คสช.ประกาศให้หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค รองเลขาธิการพรรคสามารถลงรับสมัครรับเลือกตั้งได้ หลังถูกจำกัดสิทธิ์ทางการเมือง ทั้งในส่วนของตนที่มีสิทธ์แค่ไปเลือกตั้ง และในส่วนของพรรคพลังประชารัฐจะเป็นเพียงพรรคเดียวที่คณะผู้บริหารทั้งหมดไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้
    นายจตุพรกล่าวถึงนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ "อดีตพระพุทธะอิสระ" อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย  จ.นครปฐม โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุถึงมิตรภาพที่เกิดขึ้นกับตนว่า เป็นตัวอย่างของสังคมไทย แม้เราเคยต่อสู้กัน มีความคิดเห็นแตกต่างกัน แต่เมื่ออยู่ในชะตากรรมเดียวกันในเรือนจำนั้น ก็สามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนในเรื่องชาติบ้านเมืองกันได้ เพราะตลอดระยะเวลาการต่อสู้แต่ละฝ่ายล้วนแต่มีทั้งคนรักและคนชัง เมื่อไม่มีเรื่องส่วนตัวใดๆ เรื่องของชาติบ้านเมืองที่จะต้องแสวงหาทางออกเป็นเรื่องของคนไทยทุกคน อยากให้เป็นแบบอย่างว่าเราไม่ต้องคิดเหมือนกัน ใครจะมีจุดยืนอย่างไรให้ดำรงจุดยืนเช่นนั้น แต่เราต้องอยู่ได้ท่ามกลางความแตกต่าง โดยไม่มีความแตกแยก นี่คือสิ่งที่สวยงามของระบอบประชาธิปไตย 
    ด้านนายอารี ไกรนรา สมาชิกพรรคเพื่อชาติ อดีตหัวหน้าการ์ด นปช.กล่าวว่า นายสงครามดูแล และเป็นที่พึ่งของคนเสื้อแดงมาโดยตลอด เวลาเดือดร้อนมีปัญหาก็ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ มั่นใจว่าคนเสื้อแดงที่มีอยู่ทั่วประเทศจะให้การสนับสนุนพรรคเพื่อชาติ 
    ที่ห้างแพลทินัม แยกประตูน้ำ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วยแกนนำพรรค อาทิ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา, นายโภคิน พลกุล, นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง, นายวัฒนา เมืองสุข, น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ, นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรค เดินทางมารับฟังความคิดเห็นของประชาชนย่านประตูน้ำ พร้อมเชิญชวนให้ประชาชนมาสมัครสมาชิก  โดยมีครอบครัวของคุณหญิงสุดารัตน์ ทั้งสามี ลูกชายและลูกสาวลงพื้นที่ครั้งนี้ด้วย 
      คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวถึงกรณีที่มีอดีต ส.ส.กทม.ของพรรค พท. อาทิ นายวิชาญ มีนชัยนันท์,   นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ, น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ จะย้ายไปสังกัดพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ว่า วันนี้อย่าพยายามจับคนนั้นคนนี้ เพราะในวงการการเมืองมีพรรคการเมืองใหม่ๆ เกิดขึ้น ซึ่งถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล ไม่ว่าใครจะอยากไปตรงไหนอย่างไรเราไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะทุกอย่างย่อมมีเหตุมีผลที่ว่าทุกคนก็ต้องการกลับมาทำงาน เพราะฉะนั้นไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่เป็นสิทธิที่ต่างคนจะหาว่าเขาเองจะเดินทางไหน แล้วแต่จะตัดสินใจ    
    นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค พท.กล่าวว่า ด้วยความเข้าใจและเห็นใจอดีตสมาชิกพรรคเพื่อไทยที่ยังยึดมั่นในจุดยืนประชาธิปไตย และตัดสินใจเดินออกไปเลือกทางเดินใหม่ของตน เพราะรัฐธรรมนูญและกติกาที่ผู้มีอำนาจกำหนดขึ้นมุ่งทำลายความเป็นสถาบันของพรรคการเมืองโดยเฉพาะพรรคใหญ่ ขอเป็นกำลังใจและเข้าใจ เห็นใจยิ่งกับทุกคน ขอให้ก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง และช่วยเป็นพลังสำคัญที่จะทำให้สังคมไทยมีความเป็นประชาธิปไตย และเป็นหัวใจสำคัญในการแก้ปัญหาชีวิตและปากท้องให้พี่น้องประชาชน 
โพลเพื่อแม้วกวาด 290 ส.ส.
         รายงานจากพรรค พท.แจ้งว่า ขณะนี้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้จ้างบริษัททำโพลชื่อดังระดับโลกจากประเทศสหรัฐอเมริกา ลงพื้นที่ทำโพลสำรวจคะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทยและพรรคเครือข่าย อาทิ พรรคไทยรักษาชาติ เพื่อชาติ เพื่อธรรม ประชาชาติ เสรีรวมไทย ปรากฏว่าได้สัดส่วนคะแนนเสียงสูงถึง 58% หรือคิดเป็นจำนวน ส.ส. 290 คน สำหรับสำนักโพลดังกล่าวนายทักษิณเคยว่าจ้างทำโพลมาแล้วหลายครั้ง โดยเฉพาะการเลือกตั้งเมื่อปี 2551 และ 2554 ซึ่งผลสำรวจที่ออกมามีความแม่นยำสูงมาก บวกลบไม่เกิน 10 ที่นั่ง จึงทำให้มั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคเพื่อไทยและพรรคเครือข่ายจะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอย่างแน่นอน เพราะจากคะแนนเสียงที่สำรวจออกมา ขอเพียงรวบรวม ส.ส.จากพรรคขนาดกลางและขนาดเล็กอีกไม่กี่พรรคก็จะสามารถโหวตเลือกนายกฯ ที่ใช้เสียง 376 ส.ส. ได้แล้ว 
         สำหรับโพลดังกล่าวชี้ว่า พรรคเพื่อไทยที่เน้นเป้าหมายใน ส.ส.ระบบเขตเลือกตั้งจะได้ ส.ส. 200 ที่นั่งขึ้นไป โดยขณะนี้จากการใช้ยุทธศาสตร์แยกพรรค แยกเป้าหมายระบบ ส.ส. ส่งผลให้บุคลากรส่วนหนึ่งที่คาดหวังได้รับเลือกเป็น ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อทยอยย้ายไปอยู่ที่พรรคเครือข่าย โดยเฉพาะพรรคไทยรักษาชาติ แต่ทั้งหมดยังไม่ลงตัวดีนักเนื่องจากต้องเกลี่ยคนว่าใครเหมาะสมจะไปอยู่พรรคไหน เพื่อทำหน้าที่อะไร เช่นการปราศรัยหาเสียงที่แต่ละพรรคต้องมีแกนนำหลักในการลงพื้นที่ขึ้นเวที  รวมถึงการวางตัวให้คนที่มีฝีมืออภิปรายจำเป็นต้องได้รับเลือกให้เป็น ส.ส.เพื่อทำหน้าที่ในสภา
        รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ในส่วนของพรรคอนาคตใหม่ที่ถูกมองว่าเป็นเครือข่ายของระบอบทักษิณนั้น ไม่ได้ถูกนับรวมใน 58% ที่ออกมา เนื่องจากคะแนนนิยมของพรรคอนาคตใหม่จากโพลของนายทักษิณอยู่ที่เพียง 1% หรือคำนวณเป็นจำนวน ส.ส.เพียง 5 ที่นั่งเท่านั้น
    ที่ห้องประชุมโรงแรม แอล เจ ดิเอมเมอรัล ต.บุ่ง อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ พรรคพลังไทยรักไทย (พ.ท.ร.ท.) จัดประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 2/2561 โดยมีนายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล หัวหน้าพรรคเป็นประธาน ท่ามกลางสมาชิกจากทั่วประเทศเข้าร่วมประมาณ 1,000 คน โดยมีการแนะนำตัวผู้สมัคร ส.ส.เขต กว่า 300 คน ทุกเขตทั่วประเทศ ส่วนที่เป็นไฮไลต์ของงานและฮือฮามากที่สุด คือการเปิดตัวของนางภัทรสุภางค์ เฉลิมนนท์ (เจ๊เอ็กซ์) ประธานยุทธศาสตร์พรรค พ.ท.ร.ท.ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ และ ร.ต.อ.ทศกัณฑ์ เสริมสำราญ (เสธ.โจ้) ประธานที่ปรึกษาพรรค    ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค กล่าวถึงการดำเนินกิจกรรมของพรรคภายหลัง กกต.ประกาศรับรองว่า จะดำเนินการรับสมัครสมาชิกตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย. ผ่านช่องทางต่างๆ ในวันที่ 15 พ.ย.นี้จะเตรียมเดินสายพบกับคนรุ่นใหม่ที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เวลา 16.30 น. ซึ่งหลายฝ่ายเห็นพ้องกันว่าคนรุ่นใหม่ไม่ต้องการความขัดแย้ง และสามารถทำงานได้กับทุกคน ในสัปดาห์หน้าจะมีข่าวตื่นเต้นออกมาเรื่อยๆ ในการเปิดตัวผู้สมัคร โดยจะมีศิลปิน ดารา นักร้อง ที่ติดต่อขอร่วมงานกับพรรค    
'กำนัน' มั่นใจคนใต้ไม่ทิ้งกัน
    สำหรับความเคลื่อนไหวการเดินคารวะแผ่นดินของพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ที่ จ.นราธิวาส ช่วงเช้านายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค พร้อมด้วยคณะ อาทิ นายสุริยะใส กตะศิลา, นายสำราญ รอดเพชร, นายอุทัย ยอดมณี และนายจอมเดช ตรีเมฆ ได้ร่วมเดินคารวะแผ่นดินที่บริเวณตลาดสดเก็นติ้ง โดยทีมงานของพรรคได้แจกจ่ายใบสมัครสมาชิกพรรคให้ประชาชนที่สนใจ มีผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ของพรรค รปช. เขต จ.นราธิวาส 2 คนเดินแนะนำตัวกับประชาชนด้วย คือ นายสุรเชษฐ์ แวอาแซ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และ ด.ต.มโณ วารีวะนิช ส.จ.นราธิวาส ที่ได้หันมาร่วมอุดมการณ์กับนายสุเทพ 
       ด้านนายสุเทพกล่าวถึงกรณีมีอดีต ส.ส.พรรค ปชป.ที่ย้ายมาอยู่พรรค รปช.เป็นจำนวนมากนั้น ขอแก้ข่าวว่าไม่จริง แต่เป็น ส.ส.พรรค ปชป.ที่เคยทำงานใกล้ชิดกับตน ที่มีอุดมการณ์และจุดยืนทางการเมืองเหมือนกัน เขาก็สมัครใจมาอยู่ที่นี่ อย่างที่ จ.นราธิวาส ซึ่งคนเหล่านี้เป็นเพื่อนรักกับตนมาก่อน  ส่วนเรื่องจำนวน ส.ส.ในพื้นที่ภาคใต้เป็นเรื่องของพี่น้องประชาชนที่จะเลือก แต่ตนมั่นใจว่าจะได้ ส.ส.ในพื้นที่ภาคใต้มากทีเดียว เพราะว่าพี่น้องประชาชนในภาคใต้ส่วนใหญ่เป็นคนที่รักพวกรักพ้อง มีความจริงใจต่อมิตร เคยเป็นคนที่ร่วมเป็นร่วมตายกับตนมาปี 56 และ 57 เพราะฉะนั้นพี่น้องจะไม่ทิ้งกัน
    นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีคณะนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ "จากซุกหุ้นสู่ซุกพรรค" ระบุว่า "ชัดเจนขึ้นมาตามลำดับจนเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าบรรดาพรรคเพื่อ...และแนวร่วมทั้งหลายนั้นอยู่ในแผนการการเมืองเรียกว่า ยุทธการแตกแบงก์พันเป็นแบงก์ร้อย เพื่อเป้าหมายกวาด ส.ส. 300 ที่นั่งจากการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ ที่แน่ชัดแจ่มแจ้งแดงแจ๋คือท่อน้ำเลี้ยงดูเหมือนจะมาจากท่อน้ำเลี้ยงเดียวกัน น่าคิดและน่าห่วง เพราะฮั้วทางธุรกิจก็น่ากลัวอยู่แล้ว ถ้าฮั้วทางการเมืองจะขนาดไหน ใครๆ ก็รู้นี่คือเกมส์ซ้อนเกมส์ แผนซ้อนแผน เพื่อทวงคืนอำนาจ คงจำกันได้เมื่อครั้งปรากฏการณ์ 'ซุกหุ้น' จนเป็นคดีพลิกผันทางการเมืองกลายเป็นสงครามความขัดแย้งเรื้อรัง รอบนี้ 'ซุกพรรค' จะจบและไปต่อยังไง ไม่นานเกินรอผลลัพธ์จะปรากฏ จับตาอย่ากะพริบ"
     ขณะที่นายไทกร พลสุวรรณ อดีตแกนนำกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ "ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง...? วาทกรรมลวงโลก" ระบุว่า "เลือกตั้งก่อนปฏิรูป คือ จุดสลบ จุดตาย ของ คสช. และพรรคการเมืองเครือข่ายเผด็จการ แกนนำการชุมนุมเคยประกาศก้องบนเวที 'ต้องปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง' พร้อมชักชวนผู้ชุมนุมเรือนล้านกู่ร้องตาม จนกลายเป็นฉันทามติ มติมหาชนของมวลมหาประชาชนที่ออกมาชุมนุมขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์หลายล้านคน ความจริงวันนี้ไม่มีการปฏิรูปการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น เผด็จการยังเดินงานการเมืองแบบ 'น้ำเน่า' ไล่ดูดนักการเมืองสีเทาสีดำไปทั่ว มวลมหาประชาชนรู้สึกเหมือนถูกทรยศหักหลัง ยิ่งใกล้วันเลือกตั้ง เรื่องนี้ยิ่งจะถูกโหมกระพือให้กลายเป็นกระแสที่พุ่งเป้าไปที่ คสช.และพรรคการเมืองเครือข่ายเผด็จการ โอกาสได้คะแนนเสียงยิ่งน้อยลงไปเรื่อยๆ ความพ่ายแพ้จึงรออยู่เบื้องหน้า".
        


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"