พรรคอนาคตใหม่ อีกหนึ่งพรรคใหม่แกะกล่อง ซึ่งนับได้ว่าเปิดฉากสำคัญของการเมืองไทย ในการเข้ามาเล่นการเมืองของคนรุ่นใหม่ จากแนวคิดที่พยายามจะพาการเมืองไทยออกจากวังวนเดิมๆ นำโดยคนหนุ่มไฟแรง อย่าง ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ตัดสินใจกระโดดเข้ามาในเวทีการเมืองเป็นครั้งแรก ในวัย 39 ปี แน่นอนทีมงานของพรรคนี้ก็ถือเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรงจากหลากหลายวงการ รวมทั้งคนสื่ออย่าง พรรณิการ์ วาณิช หรือช่อ อดีตนักข่าวสาวแห่งวอยซ์ทีวี ผันตัวเองมาสู่สนามการเมือง ในนามโฆษกพรรค และนี่คือมุมมอง ความคิดเห็นในการก้าวมาทำหน้าที่ในบทบาทการเมืองแบบฉบับคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงสังคมไทย

มอง “คนรุ่นใหม่” และการตื่นตัวทางการเมืองอย่างไร

        หลายปีที่ผ่านมา คนรุ่นใหม่โตขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มอายุ 18-25 ปี มีประมาณ 6.4 ล้านคน ที่ไม่ได้มีโอกาสมีส่วนร่วมทางการเมือง ด้วยความรู้สึกที่ว่าการเมืองไม่ใช่เรื่องของเขาเลย ซึ่งพวกเขาเหล่านี้มีความกระตือรือร้นในการมีส่วนร่วมอยู่ในตัว ต้องการแสดงออกถึงความรู้สึกว่า เป็นเจ้าของประเทศ หรืออารมณ์แบบ ยังมีเราอยู่ตรงนี้นะ กลายเป็นความรู้สึกยิ่งกดยิ่งขยาย เพราะพวกเขารู้ดีว่า มีความผิดปกติอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับประเทศไทย

       “ยิ่งตอนนี้สื่อโชเชียลมีเดียแพร่หลาย รัฐไม่สามารถปิดหูปิดตาประชาชนได้ คนรุ่นใหม่ใช้ช่องทางเหล่านี้ในการหาความรู้อีกทางหนึ่ง หรือดูข่าวประเทศไทยผ่านเว็บไซต์ข่าวต่างประเทศ เมื่อสมองและสายตาของเขาเปิดอยู่ แต่มือถูกมัดไพล่หลัง การเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่จะเกิดขึ้นเมื่อมือที่ไพล่หลังของพวกเขาถูกคลายออก ซึ่งเราเชื่อว่าจุดเปลี่ยนของสังคมไทยอยู่ที่การเลือกตั้งครั้งนี้”

นิยามของความใหม่ ในความหมายของ “อนาคตใหม่"

        การเมืองไม่ได้ตัดสินกันที่อายุคนพูด บางคนอายุน้อย แต่ก็ยังเล่นการเมืองแบบเก่าก็มีให้เห็น ผ่านการใช้ประโยชน์จากโซเชียลมีเดีย อย่างการปล่อยข่าวปลอม ซึ่งสมัยก่อนอาจทำผ่านวิทยุยานเกราะ แต่สมัยนี้ก็ใช้ผ่านเฟซบุ๊ก ซึ่งมันเป็นรูปแบบเดิมๆ นอกจากนี้ เรามองไม่เห็นเลยว่าพรรคการเมืองเดิมๆ จะพาประเทศหลุดจากวังวนเดิมอย่างไร พรรคที่โดนรัฐประหารบ่อยๆ ก็ออกมาบอกว่า เขาโดนรังแก ขณะที่พรรคที่สนับสนุนการรัฐประหาร ก็อ้างเหตุเพราะรัฐบาลคอร์รัปชันอะไรก็ว่าไป

        "กลายเป็นว่าในรอบกว่า 10 ปีของความขัดแย้งทางการเมือง สิ่งที่หายไปคือ การถกเถียงอย่างสร้างสรรค์เกี่ยวกับนโยบายสาธารณะ อย่างที่ผ่านมา เราพยายามนำเสนอเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญทั้งระบบ หรือเสนอไอเดียไฮเปอร์ลูป ซึ่งเรื่องเหล่านี้มันไม่ใช่ข้อสรุปตายตัว แต่สิ่งที่เราต้องการคือ การเกิดการถกเถียงอย่างสร้างสรรค์ เพื่อทำให้สังคมพัฒนาไปข้างหน้าได้ ซึ่งที่ผ่านมามันไม่มี คนที่โตขึ้นเขาไม่อยากฟังเรื่องเดิมๆ แล้ว มันไม่เกี่ยวกับเขา ที่เขาอยากรู้คือ ในอนาคต คนรุ่นเขาเนี่ยจะมีชีวิตอยู่ในประเทศไทยอย่างไร"

        เช่นเดียวกับแนวทางการนำเสนอผ่านโซเชียลมีเดีย หลายคนเข้าใจว่า เราอาจใช้งบประมาณในส่วนนี้เยอะ ต้องบอกเลยว่า จริงๆ แล้วงบประมาณที่ใช้ไปมีจำนวนน้อยมาก รวมทั้งไม่ได้จ้างบริษัทที่ทำสื่อมาจัดการในส่วนนี้เลย แต่ใช้กำลังจากคนในพรรคทำกันเอง สำหรับผลตอบรับทางโซเชียลมีเดียนั้น พบว่า นอกจากกรุงเทพฯ และพื้นที่ปริมณฑลจะได้รับผลการตอบรับที่ดีมากแล้ว ที่น่าสังเกตคือ พื้นที่ภาคใต้เองก็ให้ความสนใจพรรคเราเป็นอย่างดี ตั้งแต่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ขึ้นมาเลย

        หรือตอนที่ไปงานเสวนาตามมหาวิทยาลัย นักศึกษาส่วนใหญ่ดูกระตือรือร้นกับการเลือกตั้งที่จะมาถึง ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี หลายคนเข้ามาพูดกับเราว่าเขาสนับสนุนเรา แต่ก็ไม่ได้ทั้งหมด แต่ภาพรวมพวกเขาดูเหมือนว่าจะให้การสนับสนุนพรรคการเมืองฝั่งประชาธิปไตยมากกว่า

        เราเห็นแบบนี้ก็ดีใจ นอกจากนี้ยังมีการเกิดขึ้นของเพจต่างๆ ที่มีคำว่า อนาคตใหม่ ตามพื้นที่ต่างๆ ขึ้นมาประมาณ 100 เพจ โดยเขาจะคอยแชร์ข่าวจากเพจหลักของเรา ซึ่งเพจเหล่านี้ไม่ใช่ทีมงานของเราทำเอง แต่เกิดมาจากผู้สนับสนุนในพื้นที่ต่างๆ ถือว่าเป็นนิมิตหมายอันดี

มีวิธีการ หรือกระบวนการในการทำงานเจาะพื้นที่อย่างไร

         แม้หลายคนมองว่าเราเป็นพรรคที่ใช้ช่องทางโซเชียลเข้มข้นที่สุด แต่ก็ไม่ได้ทิ้งความสำคัญการเมืองระดับพื้นที่ โดยมีลงพื้นที่รับฟังความเห็นจากชาวบ้าน และเดินหน้าในส่วนนี้อย่างต่อเนื่องผ่านเครือข่ายในพื้นที่ อย่างเดินแจกใบปลิว เคาะประตูบ้าน หรือจัดปราศรัยต่างๆ 

        แต่ต้องยอมรับว่าการทำงานในพื้นที่นั้นยากจริงๆ ไหนเราจะโดนการกดดันจากมือที่มองไม่เห็น ที่อาจหนักกว่าพรรคอื่นด้วยซ้ำ ต้องยอมรับว่าตรงนี้เป็นจุดอ่อนของเรา ด้วยข้อจำกัดในเรื่องของเวลา และความที่เป็นพรรคใหม่ ประมาณ 7 เดือนเท่านั้น ซึ่งเราก็พยายามทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้.