19 พ.ย.61 -  ธงชัย ใจดี  โปรกอล์ฟชื่อดัง เปิดเผยถึงกระแสข่าวจะสมัครเป็นมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.)ว่า มีผู้ใหญ่เขาอยากให้ไปช่วยในงานของพรรคด้วย  เราก็แค่สมัครเป็นสมาชิกพรรคก่อน เรื่องงานอะไรก็ยังไม่ได้คุยกัน อย่างไรก็ตามถ้ามีโอกาส จริงๆแล้วตนอยากทำเรื่องกีฬา เราสายกีฬาอยู่แล้ว ไม่ได้ need ไปสายการเมืองอย่างที่เป็นประเด็น แต่ถ้ามีโอกาสไปช่วยด้านกีฬา  เรายินดี แต่ตอนนี้ก็แค่คุยกันก่อน เป็นปาร์ตี้ลิสต์มากกว่า แต่ยังไม่ได้คุยเนื้องานที่แท้จริงว่าจะทำมาในรูปแบบไหน

 "สิ่งที่สำคัญที่สุด ผมมีความรู้สึกว่า ประเทศไทยเนี่ย ถ้าเรามีโอกาส มีส่วนร่วมในสิ่งที่เราได้ไปเห็นมาในเรื่องของกีฬา เขาไปตรงนั้น เราก็มีโอกาส ก็อยากจะลองทำ"โปรช้างกล่าวและบอกว่า  "ตัดสินใจนานครับ เป็นเดือนอ่ะครับ ก็มีผูใหญ่ท่านอยากให้เราไปช่วย แกบอกให้สมัครไว้ก่อน เป็นบัญชีรายชื่อ ลงชื่อสมัครไว้ก่อน แต่ยังไม่ได้คุยแบบจริงๆจังๆ อย่างน้อยๆ เราก็อยากทำให้ประเทศเรามีอะไรที่มันเปลี่ยนแปลงมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของกีฬา ในความรู้สึกผมนะครับ แต่คนอื่นผมไม่รู้"

ธงชัย กล่าวว่าสิ่งที่สำคัญที่สุด ที่เราตั้งเป้า ก็ยังเล่นกอล์ฟเหมือนเดิม ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเป็น สส.จริงๆ เราแค่อยากเข้าไปช่วยบางอย่าง อยากเห็นวงการกีฬาของเราพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ ให้มันแข็งแรงเท่านั้นเอง มีนักกีฬาที่เป็นระดับโลกมากขึ้น นั่นคือสิ่งที่อยากเห็น แต่มันไม่ใช่ตนคนเดียว ถ้ามีโอกาสมันก็ต้องคุยกันอีกนานพอสมควร เขาก็แค่ให้ไปช่วย ย้ำว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ อยากเข้าไปมีส่วนร่วม เท่านั้นเอง อยากมีส่วนร่วมในการเสนอแนะให้ทางพรรคเขาได้ไปปรับปรุงในเรื่องของกีฬา

"คงไม่ได้วางอะไร ผมยังอยากเล่นกอล์ฟอยู่ ผมยังมีโอกาสที่จะแข่งขันกอล์ฟอยู่ จนกว่าผมจะแข่งไม่หว ถ้าไปทางนั้นจริงๆผมต้องปลดจากการเป็นนักกอล์ฟอาชีพ แต่จริงๆแล้วผมยังเล่นกอล์ฟได้อยู่ ไม่ได้คิดอะไร แค่สมัครเป็นสมาชิกพรรคก่อน ทั้งนี้ทั้งนั้น ยังไม่ใช่อะไรที่จะลงไปเต็มตัว แค่ลองดูตรงนั้นว่าฟีดแบ็กกลับมาเป็นยังไง เราไม่มีอะไรจะเสีย ถ้าเราไม่ได้ เราก็กลับมาเป็นนักกอล์ฟอยู่เหมือนเดิม"

"ยังเล่นกอล์ฟครับ ยังรักที่จะเล่นกอล์ฟอยู่ แต่ที่ผมไปลงรายชื่อไว้เพื่ออยากให้ข้อแนะนำบางสิ่งบางอย่างที่เราเป็นนักกีฬา บางอย่างที่ช่วยให้นำไปพัฒนากีฬ่าได้เนี่ย เราก็ยินดีที่จะช่วยตรงนั้น"

ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นนักกีฬาระดับโลกมาเล่นการเมือง กลัวกระแสไหมครับ โปรช้าง ตอบว่า  "เป็นเรื่องปกติครับ ถ้าเราจะทำอะไร เราต้องยอมรับได้ในสิ่งที่เราทำ เพราะสิ่งที่เราผม ผมมองว่าเราทำให้มันดี ไม่ได้ทำสิ่งใดที่ทำออกมาแล้วมันไม่ดี คือคนเรามีสิทธิคิดทุกคนแหล่ะครับ คิดบวก หรือ คิดลบ แต่สำหรับตัวผมเอง พยายามคิดบวกไว้ ถ้าเราคิดลบแล้ว เราคงไม่เข้าไปยืนอยู่ตรงนั้น คิดว่าเราทำอะไรก็ได้ให้ประเทศชาติเรามีสิ่งดีๆ และก็ตอบแทนสังคม ตอบแทนประเทศชาติ แค่นั้นเอง"