อนาคตอันน่าสยดสยอง


เพิ่มเพื่อน    

      อืมม์ม์ม์...มันจะดุเดือด เลือดพล่าน ไปถึงขั้น โดดถีบ หรือจะ ซอฟต์ ลงมาหน่อย ประมาณ เหมือนมีจังหวะใช้เท้าแหย่กัน อย่างที่อดีตรัฐมนตรี หัวเขียง ท่านได้กล่าวอธิบายถึงความน้อยอก น้อยใจ ระหว่างอดีต ส.ส.เขต กับอดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ แห่งจังหวัดขอนแก่น ของพรรค เผาไทย เมื่อวัน-สองวันมานี้ อันนี้...คงต้องใช้ดุลยพินิจ พิจารณา ใคร่ครวญ กันเอาเอง...

                                                       --------------------------------------------------

      แต่เอาเป็นว่า...ไม่ว่าจะหนักไปทาง โดดถีบ หรือแค่ ขอความกรุณาลองชิมส้นตีนกระผม ก็ตาม คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้ ว่ามันออกจะมิดี มิงาม หรือน่าจะสะท้อนให้เห็นถึง วาสนา ของบรรดาผู้ที่ได้ชื่อว่า .ส. หรือผู้ที่จัดอยู่ในประเภท นักการเมือง ทั้งหลาย ซึ่งคงไม่ได้มีแต่เฉพาะพรรค เผาไทย เขาเท่านั้น เพราะไม่ว่าพรรคอื่นๆ แม้จะไม่ได้มีความถนัดเชี่ยวชาญในเรื่องการเผาอะไรต่อมิอะไรอย่างเป็นพิเศษ แต่ก็คงไม่ได้ผิดแผก แตกต่าง ไปจากกันและกันซักเท่าไหร่ โดยเฉพาะถ้าเกิดความน้อยอก น้อยใจ ขึ้นมาแล้วล่ะก็ โอกาสที่จะ ใช้เท้าแหย่กัน หรือ ขอความกรุณาให้มึงลองชิมส้นตีนกระผมดูซักหน่อย ย่อมมีความเป็นไปได้ไม่ต่างไปจากกันและกันนั่นแล...

                                                          ---------------------------------------------------

      อย่างที่เคยว่าๆ เอาไว้แล้วนั่นแหละว่า...ขึ้นชื่อว่า นักการเมือง ทั้งหลายแล้ว ต้องจัดอยู่ในประเภท พันธุ์พิเศษ ไปด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเดินเหินไปในที่ไหนๆ โอกาสที่พื้นไม้ พื้นกระเบื้อง คอนกรีต จะต้องมีรอยสึก รอยลาก อันเนื่องมาจากปริมาณความยาวของ เขี้ยว ที่ยาวเฟื้อยเลื้อยลากดิน ย่อมถือเป็นเรื่องปกติ ธรรมดา สำหรับสายพันธุ์ชนิดนี้ ส่วนในเรื่องความหนา ความทนทานก็แทบไม่ต้องเสียเวลาพูดถึง ด้วยลักษณะของยีน ของดีเอ็นเอ ที่แตกต่างไปจากปุถุชนคนธรรมดา ส่งผลให้เซลล์ผิวหนังเกิดการแปรสภาพ ไม่ต่างไปจากหนังแรด หนังช้าง เผลอๆ อาจมี เกล็ด ขึ้นมาปกป้อง คุ้มครอง เอาไว้อีกต่างหาก แถมออกไปทาง เกล็ดแตกลายงา พอๆ กับเครื่องลายครามเอาเลยก็ยังมี...

                                                            ------------------------------------------------------

      ยิ่งถ้าหากอยู่ยาว อยู่นาน สั่งสมประสบการณ์ของความเป็น นักการเมือง เอาไว้เต็มที่ อาจถึงขั้นมีปีก มีหาง ทั้งพ่นไฟได้ด้วยอีกต่างหาก การที่จะบังคับ ควบคุม บรรดาพวก พันธุ์พิเศษ เหล่านี้ ให้หันซ้าย-หันขวา ให้เป็นไปตามคำสั่งการ หรือการบังคับบัญชา แบบพวกทหาร หรือพวก ไอ้เณร ทั้งหลาย จึงย่อมไม่ใช่เป็นเรื่องง่ายๆ ด้วยเหตุนี้...บรรดา อดีตทหาร ที่คิดแปรสภาพตัวเองมาเป็น นักการเมือง จะด้วย ความสนใจ หรือ ความจำเป็น บังคับก็แล้วแต่ จึงมัก ตกม้าตาย ซะกลางคัน ไปไม่รอด ไปไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มี กันไปเป็นรายๆ...

                                                             -------------------------------------------------------

      ไม่ว่าจะออกไปทาง สุขุม-ลุ่มลึก หรือออกไปทาง หัวร้อน ก็แล้วแต่...เรียกว่าขนาดผู้ที่ได้ชื่อ ฉายา ว่า อินทรีบางเขน อย่างพลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ที่ชอบคิดอะไรแบบ 2 ชั้น 3 ชั้น หรือ 8 ชั้น แสดงให้เห็นถึงศักยภาพแห่งการ ลับ-ลวง-ครางง์ง์ง์ มาโดยตลอด พอโดดเข้ามาสู่สนามการเมืองเท่านั้น แวบเดียว...ต้องแปลงสภาพกลายเป็น นกกระจอก ไปจนได้ เพียงแค่ไม่กี่น้ำเท่านั้น ต้องกลับไปไปใช้ชีวิตอย่างสงบในบั้นปลายแบบคนธรรมดาโดยทั่วไป ต้องหันไป แกงไก่ใส่บรั่นดี อยู่ที่บ้าน เลิกแล้ว ไม่เอาแล้ว สำหรับการเป็น นักการเมือง อีกต่อไป...

                                                              ------------------------------------------------------

      ส่วนที่อาจไม่ถึงกับ หัวร้อน ซักเท่าไหร่...แต่ก็ เอาเรื่อง พอสมควร คือใครจะมาจุกจิก กวนใจ ไม่ได้กันซักเท่าไหร่นัก อย่างเช่นพลเอก สุจินดา คราประยูร เป็นต้น แต่ก็อีกนั่นแหละ...เจอเข้ากับบรรดา นักการเมือง ทั้งหลายแค่ไม่กี่ยก ก็มีอัน ไปไม่เป็น อีกเหมือนกัน แม้แต่ประเภท หวานเจี๊ยบ-หวานจ๋อย พร้อมที่จะเอา น้ำหวาน ราดหัวใครต่อใครได้เสมอ อย่างเช่น พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ หรือ พ่อใหญ่บิ๊กจิ๋ว ของเราผู้นี้นี่เอง สุดท้าย...ก็ต้องจบลงที่ ร้านกาแฟ ต้องเอา น้ำโขง หรือน้ำอะไรก็แล้วแต่ มาชงขายอยู่จนตราบเท่าทุกวันนี้...

                                                               --------------------------------------------------

      ด้วยเหตุนี้นี่เอง...ไม่ว่าจะขาเชียร์ หรือขาไม่เชียร์ ก็เลยอดห่วงๆ ท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ของเราขึ้นมามิได้ ไม่ว่าถ้ามีอันต้องเจอกับพวก เหมือนมีจังหวะใช้เท้าแหย่กัน ขึ้นมาเมื่อไหร่ จะสามารถสกดกลั้น จับหน้าแข้งตัวเอง ไม่ให้กระตุกไป กระตุกมา ไม่ให้เกิดอาการ เปรี้ยวตีน จนเกินไป หรือจะนอตหลุด นอตหลวม ถึงขึ้นต้อง ยกโพเดียมทุ่มใส่ หรือไม่ อย่างไร หรือแม้แต่เจอกับพวกที่ ซอฟต์ ลงมาหน่อย แต่ก็ยังมีเขี้ยว มีปีก มีหาง แถมพ่นไฟได้ด้วย ที่เลื้อยไป-เลื้อยมาอยู่ภายในพรรค พลังประชารัฐ กันเป็นจำนวนมิใช่น้อย อาจถึงขั้นต้องหันไป โดดน้ำโขงตาย แบบ บิ๊กจิ๋ว กันเลยหรือเปล่า???

                                                                ---------------------------------------------------------

      สรุปรวมความแล้ว...คงต้อง เหนื่อยกับเหนื่อย กันไปอีกนานนั่นแหละทั่น ทำไงได้...เมื่อมาถึงขั้นนี้ เมื่อกลัดกระดุมผิดเม็ดกันมาตั้งแต่แรก โอกาสจะไปรูดซิปให้ทุกสิ่งทุกอย่างมันไหลปรื๊ดๆ คงเป็นไปไม่ได้อีกต่อไปแล้ว มีแต่ต้องอดทน อดกลั้น หันมา เอาชนะตัวเอง ให้มากๆ เข้าไว้นั่นแหละดี อะไรที่มันหนักๆ อาจพอเบาๆ ลงไปได้มั่ง อย่าไปตั้งความหวังว่าจะต้องอยู่ยาวเพื่อประคับประคองยุทธศาสตร์ 4 ปี 8 ปี 10 ปี 20 ปี อะไรเอาเลยถึงขั้นนั้น เอาแค่ 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี ก็ถือว่า...ยอดแล้ว!!!

                                                                  ----------------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก J. Donald Walters...  Leadership is an opportunity to serve. It is not a trumpet call to self-importance. ความเป็นผู้นำ คือการมีโอกาสรับใช้ผู้อื่น มิใช่เสียงแตรที่จะป่าวประกาศความสำคัญของตัวเอง

                                                                   --------------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"