แฉDSIชงเป่าสำนวนชุมนุม53


เพิ่มเพื่อน    

    อัยการแฉ “ดีเอสไอ” ชงสำนวนมุมดำ ยุติคดีสลายการชุมนุมหน้ากระทรวงศึกษาธิการปี 2553 ที่ตายกว่า 20 ศพ อ้างเหตุชุลมุนจับมือใครดมไม่ได้ ส่วน 6 ศพวัดปทุมฯ ก็ขอแบบไม่เป็นทางการ แต่ทำไม่ได้เพราะมีคำสั่งศาลค้ำคอ
    เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. แหล่งข่าวระดับสูงจากสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) เผยถึงกรณีนายวิญญัติ ชาติมนตรี  เลขาธิการสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิเสรีภาพ (สกสส.) เเละทีมทนายญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ 6 ศพวัดปทุมวรารามฯ ในการสลายชุมนุมปี 2553 ยืนยันว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ส่งสำนวนคดีพิเศษที่ศาลมีคำสั่งไต่สวนชันสูตรพลิกศพไปยังอัยการสำนักงานคดีพิเศษแล้วหลายคดี ซึ่งรวมถึงสำนวนการวิสามัญฯ 6 ศพวัดปทุมวนารามฯ ว่าก่อนหน้านี้สำนวนคดีที่ศาลมีคำสั่งไต่สวนชันสูตร 6 ศพวัดปทุมฯ ได้เคยถูกส่งมาเป็นสำนวนประกอบท้ายสำนวนในคดีที่อัยการสำนักงานคดีพิเศษฟ้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เเละนายสุเทพ เทือกสุบรรณ โดยดีเอสไอเเจ้งว่ายังไม่สามารถหาตัวผู้ยิงได้ว่าเป็นใคร และต่อมาศาลฎีกามีคำสั่งยกฟ้อง เนื่องจากเห็นว่าเป็นอำนาจคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) 
    “สำนวน 6 ศพวัดปทุมฯ ภายหลังที่ศาลมีคำสั่งไต่สวนชันสูตรพลิกศพเเล้วมีคำสั่งว่าการตายเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ทหาร ศาลก็คืนสำนวนมาให้อัยการเพื่อให้ส่งต่อไปยังพนักงานสอบสวนเพื่อหาตัวผู้กระทำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 150 ซึ่งอัยการยืนยันว่าดีเอสไอยังไม่มีการส่งสำนวนระบุว่าใครเป็นผู้กระทำผิดส่งมายังอัยการสำนักงานคดีพิเศษเเต่อย่างใด”
    สำหรับสำนวนไต่สวนศพรายอื่นๆ ประมาณกว่า 20 ศพนั้น ดีเอสไอได้ส่งสำนวนมายังพนักงานอัยการคดีพิเศษเเล้วจริง ซึ่งดีเอสไอมีความเห็นว่าไม่สามารถระบุหรือหาตัวผู้กระทำความผิดได้ จึงเห็นควรส่งให้อัยการมีคำสั่งงดสอบสวน ซึ่งอัยการได้พิจารณาสำนวนที่ศาลมีคำสั่งไต่สวนการตายกว่า 20 ศพนั้นเเล้ว พบว่าในเหตุการณ์ที่มีคนตายมีความชุลมุนวุ่นวายในพื้นที่บริเวณหน้ากระทรวงการศึกษาฯ มีการใช้เเก๊สน้ำตา พอคนสลายไปก็พบศพนอนตาย ทางอัยการก็เลยเชื่อ เเละสั่งให้ยุติการสอบสวนเป็นสำนวนมุมดำ
    เมื่อถามว่า สำนวน 6 ศพวัดปทุมฯ เคยมีการขอให้มีการทำสำนวนมุมดำหรือไม่ แหล่งข่าวยอมรับว่า มีแบบไม่เป็นทางการ เเต่อัยการไม่สามารถสั่งให้เป็นสำนวนมุมดำได้ จึงให้พนักงานสอบสวนดีเอสไอไปทำมาใหม่ เพราะมีช่องทางที่จะสามารถสืบได้ว่าผู้กระทำเป็นใคร เพราะในคำสั่งไต่สวนชันสูตรพลิกศพระบุชัดเจนว่ากระสุนมาจากเจ้าหน้าที่ทหารสังกัดกองพันไหน ประจำจุดที่ไหน การบอกไม่รู้เป็นไปไม่ได้ 
    ด้านนายวิญญัติกล่าวว่า ในวันที่ 12 ธ.ค. เวลา 10.00 น. จะเดินทางไปพร้อมกับนางพะเยาว์ อัคฮาด มารดานางกมนเกด อัคฮาด หนึ่งในผู้เสียชีวิตในวัดปทุมฯ ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อไปสอบถามถึงความคืบหน้าคดี 6 ศพ ว่าอยู่ในขั้นตอนใด โดยเฉพาะการนำตัวผู้ต้องหามาแจ้งข้อหาและสอบปากคำแล้วหรือไม่ เพราะจากพยานหลักฐานในสำนวนไต่สวนการตายปรากฏตัวเจ้าพนักงานผู้มีส่วนในการกระทำให้เกิดความตายทั้ง 6 รายอย่างชัดเจน ซึ่งดีเอสไอต้องมีคำตอบในเรื่องนี้ 
    ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 6 ส.ค.2556 ศาลอาญากรุงเทพใต้ได้มีคำสั่งไต่สวนชันสูตรพลิกศพ คดีหมายเลขดำที่ ช.5/2555 หรือคดี 6 ศพวัดปทุมฯ โดยมีคำสั่งว่า ผู้ตายทั้ง 6 รายเสียชีวิตจากการถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด .223 หรือ 5.56 มม. ซึ่งวิถีกระสุนปืนยิงมาจากเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยอยู่บนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส หน้าวัดปทุมวนารามราชวรวิหาร และบริเวณถนนพระรามที่ 1 ซึ่งเข้าควบคุมพื้นที่บริเวณแยกราชประสงค์ตามคำสั่งของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) โดยศาลให้นำคำสั่งนี้ส่งต่อให้พนักงานอัยการ เพื่อดำเนินการต่อไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"