ว่าด้วย...เซียมซีใบที่ 17


เพิ่มเพื่อน    

        ฮื่ออ์อ์อ์...เซียมซีใบที่ 17 ณ วัดโพธาราม อำเภอบึงกาฬ ที่ท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ท่านมาเอง เขย่าเอง แล้วดันหล่นปุ กลายมาเป็นคำทำนาย ทายทัก โชคชะตา อีกทั้งกลายมาเป็นข่าวคราวที่ไม่ว่าสื่อช่องไหน ฉบับไหน ต่างหยิบมานำเสนออย่างมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้เลย คงต้องยอมรับว่า...ถูก-ไม่ถูก จริง-ไม่จริง แต่ออกจะเป็นอะไรที่ เอาเรื่อง และน่าจะหยิบเอามาเป็นข้อคิด สะกิดใจ มิใช่น้อย...

                                    ----------------------------------------------

        เรียกว่า...ไม่ว่าท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ท่านจะมี ธาตุไฟ อยู่ภายในตัว มาก-น้อยเพียงใด หรือจะมีแค่ ยาธาตุน้ำเต้าทอง ก็แล้วแต่ แต่โดยลักษณะอาการแบบ เร่งรีบ-วู่วาม-หงุดหงิด-ขุ่นเคืองใจ ที่เซียมซีใบที่ 17 แห่งวัดโพธารามได้สาธยาย แจกแจงและอรรถาธิบาย เอาไว้โดยละเอียดนั้น ย่อมปฏิเสธไม่ได้ว่า...ท่านนายกฯ “บิ๊กตู่” ท่านแทบจะรวมเอาไว้ครบหมด ประเภท ไอ้ห่า, ไอ้ซังกะบ๊วย หรือประเภทหวิดๆ จะยกโพเดียมมาทุ่มใส่หัวใครต่อใคร ฯลฯ อันนี้...ไม่ว่าจะเป็นเพราะฤทธิ์ของ ธาตุไฟ หรือเพราะผลข้างเคียงของ ยาธาตุน้ำเต้าทอง ก็ตามที แต่ท่านนายกฯ ท่านก็เคยมาหมดแล้ว...

                                    ------------------------------------------------

        ด้วยเหตุนี้...คำชี้แนะ ชี้นำ หรือจะเรียกว่า คำทำนาย ก็แล้วแต่ จากเซียมซีใบที่ 17 ก็ต้องถือว่าเป็นอะไรที่ เข้าท่า มิใช่น้อย ไม่ว่าการหาทางสงบจิต-สงบใจ ค้นหาความสุข ความสงบเย็น อันถือเป็นสิ่งสำคัญ หรือสิ่งซึ่งน่าจะถึงเวลาแล้วที่ คุณควรจะได้ทบทวนชีวิต...แล้วปรับสมดุลใหม่ให้ลงตัว ไม่ว่าจะโดยการประพฤติ ปฏิบัติ ตามที่ คำทำนายแนะนำ...ให้คุณหยุดพัก เพื่อฟังสัญญาณเตือนจากร่างกายและจิตใจ ฟังคำแนะนำจากกัลยาณมิตรรอบตัว โดยจะหันไปฟัง สามมิตร แทน กัลยาณมิตร กันแทนที่หรือไม่ อย่างไร อันนี้...ต้องถือเป็น สิทธิส่วนตัว ที่จะเลือกว่าใครคือมิตร หรือเป็นมิตรประเภทใดกันแน่!!!

                                 ----------------------------------------------------

        ส่วนความหมายของคำว่า หยุดพัก นั้น...จะต้องหยิบมาตีความ แปลความ ขยายความ กันไปถึงขั้นไหน อันนี้...ก็ต้องถือเป็น เรื่องส่วนตัว หรือ ทัศนะส่วนตัว อีกนั่นแหละ คืออาจ พัก แบบกลับไปบ้าน กลับไปที่ทำงาน แล้วแค่สูดลมหายใจเข้าๆ-ออกๆ ซักเฮือก สองเฮือก ค่อยกลับมาสานงานต่อ ก่องานใหม่ สืบอำนาจต่อไปอีกซัก 4 ปี 5 ปี หรือเลยไกลไปถึงระดับ 10 ปี อย่างที่ โหรวารินทร์ ผู้ที่คงไม่ได้ถนัดเชี่ยวชาญ ในเรื่องเซียมซี แต่หนักไปทาง ริว-จิตสัมผัส อะไรประมาณนั้น ได้ออกมาชี้แนะ ชี้นำ เอาไว้เมื่อไม่นานมานี้ หรือจะ พัก ในแบบ พักผ่อนชั่วคราว ทิ้งตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเอาไว้ซักพัก หลังจากที่มีพรรคหนึ่ง พรรคใด เสนอชื่อในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในการเลือกตั้งที่กำลังจะอุบัติขึ้นมานับจากนี้...

                               -----------------------------------------------------

        ซึ่ง พัก ในลักษณะนี้...คงต้องถือเป็นเรื่องใหญ่ หรือต้องเป็นเรื่อง เป็นราว อยู่พอสมควร เพราะมีทั้งเสีย ทั้งได้ ต้องชั่งน้ำหนักเอาไว้ให้ถ้วนถี่ ว่าจะเสียอะไร ได้อะไรติดไม้ ติดมือ เอาไว้มั่ง เหมือนอย่างที่ 4 กุมารแห่งคณะรัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐ ท่านก็ยังต้องชั่งไป-ชั่งมา อยู่ตราบจนทุกวันนี้ ชนิดส่งผลให้การเป็นรัฐมนตรี หรือการเป็น กรรมการ กับการเป็น ผู้เล่น ชักกลายเป็น คนละเรื่องเดียวกัน ไปจนได้...

                               -----------------------------------------------------

        แต่จะถึงขั้น พักยาวว์ว์ว์ ไปเลย...หรือพักแบบผมพอแล้ว ไม่เอาแล้ว แบบผู้ที่สุดแสนจะสงบเย็น อย่าง ป๋าเปรม ท่านเคยประพฤติ ปฏิบัติ เอาไว้ให้แบบอย่างเมื่อครั้งอดีต อันนี้...ท่าทางน่าจะเป็นไปไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เมื่อมาถึงขั้นนี้ หรือมาถึง ณ ขณะนี้ ด้วยเหตุเพราะอะไรต่อมิอะไรมัน ไปไกล เกินกว่าที่จะพักในลักษณะดังกล่าวได้อีก ยิ่งเมื่อได้ป่าวประกาศเอาไว้แบบเต็มปาก-เต็มคำ ว่าไม่ใช่แค่เฉพาะ ผมสนใจการเมือง เท่านั้น แต่ผมได้กลายเป็น นักการเมืองเต็มตัว ไปเรียบโร้ยย์ย์ย์แล้ว โอกาสที่จะ พัก กันในลักษณะที่ว่า จึงน่าจะ เป็ง-ปาย-ม่าย-ล่าย อยู่แล้วแน่ๆ...

                                 -------------------------------------------------------

        แต่ก็นั่นแหละ...ทั้งนั้น ทั้งนี้ คงต้องขึ้นอยู่กับ ธาตุไฟ ภายในตัวของท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ท่านเอง ว่าจะเป็นธาตุในลักษณะไหน มีความร้อน ความแรง ความกระตือรือร้น มีพลังในการเผาผลาญมาก-น้อยเพียงใด เป็นไฟอันที่มาจากพลังงานฟอสซิล หรือพลังงานหมุนเวียนกันแน่ มันถึงจะสามารถ ปรับสมดุล ให้ลงตัวกันได้จริงๆ คือถ้าหากเป็นไฟประเภทที่ทำให้แค่หงุดหงิด เพราะความจุกจิก กวนใจ จากคำถามของพวกนักข่ง นักข่าว อันนี้...อาจจะ พัก แบบแค่สูดลมหายใจเข้าๆ-ออกๆ วันละ 3 เวลาหลังอาหาร หรือก่อนหน้าที่จะแถลงข่าว เท่านี้...ก็น่าจะ ปรับสมดุล ได้บ้าง ไม่ต้องมี ไอ้ห่า หรือ ไอ้ซังกะบ๊วย หลุดรอดออกจากปากอีกต่อไปได้ง่ายๆ...

                                  --------------------------------------------------

        แต่ถ้าหากเป็นไฟประเภทที่ทำให้เกิดอาการดิ้นรน กระวนกระวาย อยากได้-อยากมี-อยากเป็น แบบที่เคยเผาผลาญบรรดานักการเมือง ไปจนถึงทหารการเมือง ชนิดไหม้เกรียม ไหม้เป็นจุณไปเป็นรายๆ อันนี้...แค่สูดลมหายใจเข้าๆ-ออกๆ ตั้งสมาธิ อาณาปานสติ แบบชั่วครั้ง ชั่วคราว เผลอๆ...อาจยัง เอาไม่อยู่ ส่วนจะถึงขั้นต้อง พักผ่อนชั่วคราว หรือ พักยาวว์ว์ว์ หรือไม่ อย่างไร อันนี้...นอกจากตัวของท่านนายกฯ บิ๊กตู่ แล้ว ก็คงมีแต่ พระสยามเทวาธิราช เท่านั้น ที่จะเป็นผู้ให้คำตอบ ว่าควรจะ ปรับสมดุล กันในแบบไหน ลักษณะไหน???

                                 --------------------------------------------------

       ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Demosthenes... “Nothing is so easy as to deceive one’s self ; for what we wish that we readily believe.- ไม่มีอะไรที่จะง่ายเหมือนการหลอกตัวเอง เพราะเราหวังจะได้อะไร เราก็เชื่ออย่างนั้น...”

                                -------------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"