การเมืองกับอากาศ


เพิ่มเพื่อน    

        อากาศบ้านเราช่วงนี้...มันก็น่าล่ะนะทั่น ที่ทำเอาท่านรองนายกฯ บิ๊กป้อม ท่านถึงกับออกอาการ ไข้ขึ้น ต้องลาประชุม ครม.เมื่อวานซืนไปกลางคัน คือมันออกไปทางหนาวแบบแปลกๆ หนาวแบบอบอ้าว หรือบางช่วง บางระยะ หนาวแบบเหงื่อกาฬไหลพลั่กๆ เอาเลยก็ยังมี คล้ายๆ เข้าสู่ช่วง ฤดูหนาวแห่งเดือนเมษาฯ อะไรประมาณนั้น ทั้งๆ ที่ธันวาฯ เข้าไปแล้ว ใกล้จะฉลองปีใหม่อยู่มะรอมมะร่อ...

                                 --------------------------------------------------------

        คือแม้ว่าจะย่างเข้าสู่ฤดูหนาว แบบเต็มเม็ด เต็มสูบ มาพอสมควรแล้ว แต่แทนที่ ลมหนาวก็โชยพัดกระหน่ำ...หึ่มฮึมฮึมฮึ่ม อะไรต่อมิอะไรอย่างที่คุณครู ล้วน ควันธรรม ท่านเคยรจนาเอาไว้เป็นบทเพลง แต่คล้ายๆ ว่าอุณหภูมิความร้อนที่มันเคยร้อนมานาน ร้อนแบบต่อเนื่อง สม่ำเสมอ มันยังไม่ยอมหดหาย คลายจาง ไม่ยังคิดจะระเหยหายไปจาก โดมแห่งความร้อน ที่ครอบกรุงเทพมหานครบวรรัตนโกสินทร์มาโดยตลอด การปะทะกันและกัน การต่อสู้แย่งชิงพื้นที่ ระหว่างความร้อนกับความหนาว มันเลยส่งผลให้เกิดลักษณะอาการหนาวๆ ร้อนๆ หรือหนาวแบบอบอ้าว แบบเหงื่อกาฬไหลพลั่กๆ ไปด้วยประการฉะนี้...

                                --------------------------------------------------------

        จริง-ไม่จริง...คงต้องลองไปถามผู้เชี่ยวชาญด้านสภาวะอากาศ อุณหภูมิอากาศ กันดูอีกที แต่ที่แน่ๆ ก็คือ...มันค่อนข้างส่งผลให้ลักษณะอากาศของบ้านเราทุกวันนี้ ออกจะคล้ายๆ กับลักษณะของการเมืองในช่วงนี้ อย่างชนิดแทบเป็น คนละเรื่องเดียวกัน ไปจนได้ คือเป็นการเมืองที่ออกจะ ไม่ได้เป็นไปตามปกติของฤดูกาล ทั้งๆ ที่น่าจะหนาวไปนานแล้ว แต่กลับดันหนักไปทางหนาวๆ ร้อนๆ หรือว่าจะเรียกว่าหนาวก็ไม่หนาว จะเรียกว่าร้อนก็ไม่ร้อน เผลอๆ...ดัน ฝนตก ขึ้นมาซะอีกต่างหาก ชนิดเล่นเอา คนใต้ ต้องตกน้ำป๋อมแป๋มกันไปไม่น้อย ในช่วงเวลานี้...

                                 -------------------------------------------------------

        คือถ้าทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นไป ตามปกติของฤดูกาล ตลอดช่วงระยะ 4-5 ปีที่ผ่านมาของรัฐบาล คสช.ท่าน อะไรต่อมิอะไรมันน่าจะเรียบโร้ยย์ย์ย์โรงเรียนนายร้อย จรป. หรือเรียบโร้ยย์ย์ย์โรงเรียน คสช.ไปนานแล้ว ไม่ว่าปฏิรูปโน่น ปฏิรูปนี่ ที่ใครต่อใครกู่ร้องปองรัก กู่ก้องเรียกขาน กันมาตั้งแต่กำลังนอนกลิ้ง นอนหงาย อยู่ในถนนราชดำเนินกันเป็นล้านๆ แต่เอาไป-เอามา...ก็คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้ว่า มันออกไปทาง รูดไป-รูดมา กันซะเป็นหลักใหญ่ ดังนั้น...เมื่อ ฤดูกาลเลือกตั้งครั้งใหม่ กำลังย้อนกลับมา แต่ละสิ่ง แต่ละอย่าง มันก็เลยออกอาการแบบเดิมๆ เหมียนเดิมม์ม์ม์ อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้...

                               ---------------------------------------------------------

        เรียกว่า...ไปทะเลเมื่อต้องเจอ ฉลาม มาสภาฯ คงหนีไม่พ้นต้องเจอ เฉลิม อะไรทำนองนั้น บรรยากาศการเมืองมันเลยหนักไปทางหนาวๆ ร้อนๆ อย่างที่ว่า ต้องหันไปดูดกันไป ดูดกันมา ต้องเฉือนเล่ห์ ชิงเหลี่ยม ต้องลับ-ลวง-ครางง์ง์ง์ กันชนิด 3 ชั้น 8 ชั้น ต้องคว้าเครื่องคิดเลขออกมาคำนวณ คณิตศาสตร์การเมือง ไว้ก่อนล่วงหน้า ว่าใครน่าจะได้กันมาซักกี่เก้าอี้ กี่ ส.ส.เขต กี่ ส.ส.สัดส่วน ก่อนจะเอามาบวกรวมกับเก้าอี้เหมาโหลในวุฒิสภา แถมยังต้องผจญเวร ผจญกรรมกันเอาเอง ว่ารัฐบาลใหม่ที่ก่อเกิดมาจากการเลือกตั้งครั้งหน้า จะอยู่ในสภาฯ อย่างเป็นสุข-ไม่เป็นสุข จะมีโอกาสบริหารชาติบ้านเมืองได้อีกซักกี่เดือน กี่ปี???

                             -------------------------------------------------------------

        อันนี้นี่แหละ...ที่มันเลยทำให้ต้องหนาวๆ ร้อนๆ ต้องหวนกลับไปสู่ประชาธิปไตยแบบอบๆ อ้าวๆ ประชาธิปไตยที่อาจส่งผลให้ต้องเหงื่อไหล ไคลย้อย เอาง่ายๆ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่พยายาม มองข้ามช็อต ไปถึงช่วงหลังจากการเลือกตั้งได้ผ่านพ้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็ยังมิอาจสรุปได้ชัดเจนว่า มันจะร้อนกันไปถึงขั้นไหน หรือหนาวกันไปถึงขั้นไหน เพราะโอกาสที่ทุกสิ่งทุกอย่าง จะเป็นไปในแบบ สงบ-เรียบ-นิ่ง หรือสงบอย่างไม่มีใครกล้าที่จะกระโตกกระตาก แบบเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว...มันน่าจะยากซ์ซ์ซ์ที่จะเป็นไปได้ หรือแทบมองไม่เห็นโอกาสความเป็นไปได้เอาเลยทีเดียวเจียว...

                              -------------------------------------------------------------

        ด้วยเหตุนี้นี่เอง...เลยทำให้ใครต่อใคร ต้อง ไข้ขึ้น กันไปเป็นรายๆ เกิดอาการปวดเศียร เวียนเกล้า หน้ามืด วิงเวียน คลื่นเหียน อาเจียน กันไปมิใช่น้อย ยิ่งเมื่อต้องมาเจอกับการไล่ล่า ไล่บี้ ไล่งับ การหันมาออกอาวุธใส่กันแบบชนิดดอกต่อดอก ของบรรดานักการเมืองในแต่ละก๊ก แต่ละพรรค แต่ละค่าย และในแต่ละวัน ต่อให้ควักยาหม่อง ยาดม ยาอม ยี่ห้อไหนต่อยี่ห้อไหน ก็ชักจะเอาไม่อยู่ไปด้วยกันทั้งสิ้น แต่ทำไงได้ล่ะทั่น...ในเมื่อแต่ละสิ่ง แต่ละอย่าง มันคงต้องเป็นไปในแนวนี้อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธ มีแต่ต้องหันมาปรับตัว ปรับใจ หาผ้าห่มหนาๆ มาพันเอาไว้ให้เยอะๆ ในช่วงดึกๆ ดื่นๆ แต่พอสายๆ บ่ายๆ คงต้องหาทางแก้ผ้า โดดลงตุ่มกันให้ทันท่วงที มันถึงพอ อยู่ๆ กันไปได้ ไม่ถึงกับต้อง ลาประชุม ครม. แบบรองนายกฯ บิ๊กป้อม ท่าน...

                              --------------------------------------------------------------

        ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Rabindranath Tagore... “Life’s Journey is along unchartered path, where hills and hollows overtake us unawares.- ชีวิตคือการเดินทางไปบนเส้นทางที่ไม่มีการสำรวจ เราย่อมหนีไม่พ้นที่จะต้องพบกับภูผาและหุบเหวโดยไม่รู้ตัว...

                            --------------------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"