ปมร้อนพรรค 'ส้ม (ไม่) หวาน'! บทพิสูจน์ 'ธนาธร' สู่การเมือง


เพิ่มเพื่อน    

        ดูเหมือน "พรรคส้มหวาน" หรือ "พรรคอนาคตใหม่" ที่มี "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" เป็นหัวหน้าพรรค กำลังจะกลายเป็น "ส้มเปรี้ยว" เสียแล้ว หลังจากช่วงที่ผ่านมาต้องเผชิญปัญหา “ภายใน”

        ทั้งปัญหาเรื่อง "เงินๆ ทองๆ" กรณีมีการกล่าวหา “นานา” วิภาพรรณ วงษ์สว่าง แอคทิวิสต์รุ่นใหม่ ที่ทำหน้าที่เป็นหัวหอกในเครือข่ายเยาวชนคนรุ่นใหม่ของพรรคอนาคตใหม่ จน "นานา” ประกาศลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค

        ตามมาด้วยการรวมตัวกันของว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ที่โดนตัดชื่อไม่ให้เข้าสู่กระบวนการทำไพรมารีโหวต โดยคณะกรรมการสรรหาในพื้นที่ฝั่งธนบุรี จ.สงขลา จ.นครศรีธรรมราช และ จ.เชียงใหม่ แม้จะมีการไกล่เกลี่ยกันจนได้ข้อสรุปไม่เอาความกันต่อ

        จนเริ่มมีคำถามถึง “ประชาธิปไตย” ภายในพรรค ที่ทั้ง “ธนาธร-ปิยบุตร” 2 แกนนำ ต่างประกาศยึดมั่นมาตลอดว่าเรื่องประชาธิปไตยเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของ “อนาคตใหม่” 

        อย่างไรก็ดี แม้จะโดนมรสุมรุมเร้า "พรรคอนาคตใหม่" ก็เดินหน้าแถลงนโยบายพรรค โดยชูนโยบายเรื่องเอาใจผู้ที่ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลง และคนรุ่นใหม่ที่เบื่อหน่ายกับความจำเจของการเมืองไทย เรื่องการปฏิรูปกองทัพ จัดสวัสดิการถ้วนหน้าครบวงจร ผลักดันการเรียนรู้-ใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน การแก้ปัญหากลุ่มทุนผูกขาด 

        จุดยืนที่สำคัญที่สุด ยังเป็น “การต้านการสืบทอดอำนาจของ คสช.-รณรงค์ให้แก้รัฐธรรมนูญ 2560-ยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ”

        พรรคเตรียมตัวจะเปิดรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.ทั้งหมดในวันที่ 21 ธ.ค. ขณะที่เก้าอี้ ส.ส.ในสภาที่พวกเขาคาดการณ์ไว้ว่าจะได้ อยู่ที่ประมาณ 50-75 ที่นั่ง จากการให้สัมภาษณ์ของ "ธนาธร" โดยมีฐานเสียงสำคัญคือ กลุ่มคนช่วงอายุระหว่าง 18-25 ปี ที่ยังไม่เคยมีโอกาสเลือกตั้งนับแต่การรัฐประหารเมื่อปี 2557 กลุ่มที่มีอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ ในวันที่ 24 ก.พ.2562

        ในระดับพื้นที่ นอกจากกรุงเทพฯ และปริมณฑล แล้วภาคใต้ก็เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่พวกเขาหวังจะเข้าไปปักธงให้สำเร็จ จากการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องของผู้บริหารพรรค และความตื่นตัวทางการเมืองของสมาชิกพรรคในพื้นที่เอง แม้พวกเขาจะรู้ดีว่า จุดอ่อนของพรรคการเมืองน้องใหม่คือ การเมืองระดับพื้นที่ที่ไม่มีสายสัมพันธ์ใดกับประชาชนในต่างจังหวัดเลย

        เงื่อนไขสำคัญอีกเรื่องคือ ข้อสรุปของการหาเสียงทางโซเชียล ที่ตอนนี้ยังโดนเบรก อยู่ คาดว่าจะได้ความชัดเจนภายหลังหารือร่วมกับ กกต. ในวันที่ 19 ธ.ค. เมื่อได้ข้อสรุปในเรื่องนี้ คาดว่าประชาชนจะได้เห็นแนวทางการ “รุก” สนามเลือกตั้งของพรรคอย่างเต็มอัตรา

       “ขวากหนาม“ และ “อุปสรรค” ทั้งในและนอกพรรค ที่น้องใหม่รายนี้ต้องเจอได้มอบบทเรียนสำคัญว่า แท้จริงแล้ว การพยายามปลูก “ประชาธิปไตย” ให้ฝังรากไปในสังคมไทย ก่อนออกดอกผลนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และ “อุดมการณ์” อย่างเดียวนั้นไม่เคยพอ หากจะนำมาใช้กับระบบการเมืองบ้านเรา แม้ในจุดเริ่มอย่างพรรคการเมืองของตัวเองก็ตามที.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"