คุณค่าความเป็นมนุษย์กับโลกเสมือนจริง


เพิ่มเพื่อน    

      ต้องสารภาพตรงๆ...ว่าไม่มีโอกาสได้ดู คลิปวิดีโอ เรื่องของบุคคล 2 คน ที่ถูกนำมาเป็นประเด็นพูดจาว่ากล่าวกันในทางการเมือง หรือในทางสังคม อยู่ในทุกวันนี้ และถึงแม้จะมีโอกาส...ก็คงไม่คิดเข้าไปดูโดยเด็ดขาด แม้วันๆ จะใช้เวลาอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์มิใช่น้อย แต่การดูในสิ่งที่เขาอยากจะให้ดู อย่างน้อย...ก็น่าจะถือเป็น มารยาท ที่น่าประพฤติ ปฏิบัติ มากกว่าการดิ้นรน กระวนกระวาย ไปดูในสิ่งที่เขาพยายามปิดๆ บังๆ อันทำให้การดูนั้นๆ อาจกลายเป็นการ แอบดู หรือกลายส่วนหนึ่งของพวก ถ้ำมอง ไปโดยปริยาย...

                                                                  --------------------------------------------------------

      พูดง่ายๆ ว่า...เพราะไม่อยากต้องกลายเป็นส่วนประกอบ องค์ประกอบ ของกระบวนการใดๆ ก็ตาม ที่มันไม่น่าจะถูกเรื่อง ไม่ได้เข้าท่า เข้าทาง แถมออกไปทางสกปรก รกรุงรัง มิใช่น้อย อันเป็นสิ่งซึ่งสามารถพบเห็นอยู่บ่อยๆ ในโลกโซเชียลมีเดีย หรือโลกเสมือนจริง ที่บรรดา ความจริง ทั้งหลาย มักถูกนำมาประหัตประหาร กันได้ง่ายๆ โลกที่ใครต่อใครสามารถปิดบัง อำพราง แม้แต่ตัวตนของตน ให้กลายเป็นตัวตนที่ไม่จริง เป็นตัวตนที่ถูกตกแต่ง สร้างภาพ สร้างความรู้สึกไปตามการ ปรุงแต่ง ที่ตัวเองอยากให้เป็นไปเช่นนั้น หรืออยากให้ผู้อื่นเห็นว่าเป็นไปเช่นนั้น...

                                                                  ----------------------------------------------------------

      โลกชนิดนี้...มันเลยเป็นโลกที่ออกจะสกปรก รกรุงรัง มิใช่น้อย เป็นโลกที่เต็มไปด้วย ขยะ ในทางอารมณ์ ความรู้สึก ที่ใครต่อใครสามารถขนถ่ายขยะในแต่ละชนิด ออกมาทิ้งเรี่ยราด กระจัดกระจาย อยู่ในเว็บไซต์แต่ละเว็บไซต์ ในบล็อก ในเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ หรือในคลิปวิดีโอ ต่างๆ นานา ฯลฯ จนเป็นอะไรที่ รกโลก ไม่ว่าจะโลกเสมือนจริง หรือโลกแห่งความเป็นจริง ยิ่งเข้าไปทุกทีด้วยเหตุนี้...การทำให้ใครคนใดคนหนึ่ง สองคน สามคน หรือกระทั่งชุมชน สังคม องค์กร ไปจนถึงระดับประเทศ ต้องแปดเปื้อนไปกับความสกปรก ไม่ว่าแบบหนึ่ง แบบใด มันจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ง่ายเอามากๆ แถมไม่ต้อง รับผิดชอบ ต่อผลกระทบใดๆ ที่ตามมา ไม่ว่าความเสียหาย ความเจ็บปวด รวดร้าว ความทุกข์ทรมาน ของปัจเจกบุคคล ชุมชน สังคม ประเทศชาติ...

                                                                   -----------------------------------------------------------

      โลกที่ว่า...มันเลยออกจะเป็นโลกที่เหี้ยมเกรียม อำมหิต โหดร้าย ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ใครที่ต้องตกเป็น เหยื่อ ของโลกชนิดนี้ เลยออกจะเป็นอะไรที่น่าสงสาร น่าเวทนา น่าเห็นใจไปด้วยกันทั้งสิ้น ส่วนใครที่ดันนำเอาอารมณ์ ความรู้สึก ที่ตัวเองเป็นผู้ ปรุงแต่ง มันขึ้นมา ไปผสมผสาน ผสมโรง กับสิ่งที่ได้เห็น แม้เป็นสิ่งที่พยายามปิดๆ บังๆ หรือสิ่งที่เปิดเผยก็แล้วแต่ จนรู้สึกเมามันซ์ซ์ซ์ กรี๊ดกร๊าด สะอก สะใจ กับการได้เห็น เหยื่อ ไม่ว่าประเภทไหน ต่อประเภทไหน ก็แล้วแต่ ถูกขยำขยี้ ต่อหน้าต่อตา ไม่เพียงแต่ทำให้ตัวเองต้องกลายเป็น ไอ้เหี้ยม ไปโดยไม่รู้ตัว ยังอาจส่งผลให้ตัวเองมีสภาพไม่ต่างไปจาก ขยะ อีกชิ้นหนึ่งเอาเลยก็ไม่แน่

                                                                     ------------------------------------------------------------

      เรื่องของบุคคล 2 คน...ที่กลายมาเป็น คลิปวิดีโอ ให้ใครต่อใครพูดกันสนั่นเมือง หรือแชร์กันสนั่นเมือง ในช่วงนี้ จึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นเรื่อง แต่ถูกทำให้ต้องกลายเป็นเรื่อง เป็นราว ขึ้นมาจนได้ และที่หนักไปกว่านั้นก็คือ...ดันถูกทำให้กลายเป็นเรื่อง การเมือง ที่มีเสีย-มีได้ มีผลกระทบต่อแต่ละพรรค แต่ละก๊ก แต่ละฝ่าย อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธ หรือทำให้สิ่งที่เรียกว่า การเมือง นั้น ยิ่งเป็นอะไรที่ออกไปทางโหดร้าย เหี้ยมเกรียม อำมหิต แถมยังสกปรก รกรุงรัง ยิ่งขึ้นทุกที ยิ่งโดยเฉพาะถ้าแต่ละพรรค แต่ละก๊ก แต่ละฝ่าย ดันนำเอาอารมณ์ ความรู้สึก ที่ได้รับการ ปรุงแต่ง ขึ้นมาตามแบบฉบับของฝ่ายใคร ฝ่ายมัน เข้าไปผสมผสาน ผสมโรง โดยไม่ได้คำนึงถึง ความเป็นมนุษย์ หรือความเป็น เพื่อนผู้ร่วมวัฏสงสาร ที่มันอยู่นอกเหนือไปจากความเป็นฝ่ายในทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น...

                                                                         -------------------------------------------------------

      เท่าที่ลองติดตามความคิด ความเห็น ที่ใครต่อใครพยายามสะท้อนมุมมองในเรื่องนี้ โดยไม่จำเป็นต้องเข้าไปดูคลิปวิดีโอต้นเหตุให้ต้องเสียเวลาทำมาหารับประทานใดๆ เอาเลยก็ยังได้ ดูเหมือนว่า...ผู้ที่ให้ความเห็นเอาไว้สั้นๆ แต่ตรงไป-ตรงมา และออกจะมี น้ำหนัก มิใช่น้อย น่าจะได้แก่ น้องชายบุญธรรม ของ ท่านขุนน้อย เอง คือผู้ที่มีนามกรว่า สุรวิชช์ วีรวรรณ แห่งหนังสือพิมพ์ ผู้จัดการ ที่ได้โพสต์ข้อความเอาไว้ใน เฟซบุ๊ก ของตัวเองว่า... ผมก็เชื่อว่าเรื่องส่วนตัว...ไม่ผิดอะไร คนแอบบันทึกนั่นแหละผิด แต่อย่าปั่นจนบอกว่านี่คือผลพวงของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย...มันเลี่ยน อันนี้นี่แหละ...อาจถือเป็นข้อสรุปที่น่าจะ เข้าท่า มิใช่น้อย...

                                                                          ----------------------------------------------------------

      คือเอาเป็นว่า...โลกทุกวันนี้มันออกจะเป็นโลกที่โหดร้ายพอสมควรแล้ว ยิ่งโลกเสมือนจริงยิ่งโหดร้ายหนักขึ้นไปใหญ่ ส่วนสิ่งที่เรียกว่า การเมือง ก็ออกจะเป็นอะไรที่ไม่ค่อย สะอาด มาโดยตลอด ด้วยเหตุนี้...ไม่ว่าผู้ที่ต้องตกเป็น เหยื่อ หรือผู้ที่มองเห็นใครต่อใครเป็น เหยื่อ ของตัวเอง ไม่ว่าจะฝ่ายไหน ต่อฝ่ายไหน ก็แล้วแต่ น่าจะหันกลับมาให้ความสำคัญกับสิ่งที่มันมีคุณค่า มีความสูงส่ง ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นความรัก ความเมตตา ความเห็นอก เห็นใจผู้อื่น โดยไม่คิดจะเหยียบย่ำซ้ำเติม ฯลฯ อันถือเป็นการแสดงออกถึง ความรับผิดชอบ ต่อ คุณค่าแห่งความเป็นมนุษย์ ที่อาจหาได้ยากซ์ซ์ซ์เอามากๆ ในโลกเสมือนจริง...

                                                                        --------------------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Jane Addams... The essence of immorality is the tendency to make an exception of myself.- จุดสำคัญของความไร้ศีลธรรม อยู่ที่แนวโน้มซึ่งพยายามหาข้อยกเว้น...ให้กับตัวฉันเอง...

                                                                         --------------------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"