'แอน อังคณา'เผยช่วงชีวิตเดินไม่ได้-ขาดสารอาหาร


เพิ่มเพื่อน    

 

          อดีตนักแสดงชื่อดัง แอน-อังคณา ทิมดี อัพเดทชีวิตหลังป่วยหนัก ซึ่งสาเหตุมาจากรักษารูปร่างด้วยการไม่ทานแป้งมา 20 ปี ทำให้ขาดสารอาหาร จนเกือบเสียชีวิต ผ่านทางรายการคุยแซ่บshow 
          "ตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้วค่ะ แต่ก็ยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ อ้วนขึ้นนิดนึงค่ะ ก็พยายามกินแป้งให้เยอะ ช่วงนี้ก็ยังไปตรวจเลือดอยู่ค่ะ แต่ว่าทุกอย่างมันก็ต้องใช้เวลา เพราะว่าเท้ามันก็ยังชาอยู่นิดหน่อย ป่วยเป็นโรคขาดสารอาหารด้วย เพราะเราไม่ทานแป้งมา 20 กว่าปี ด้วยความที่เรารักษาหุ่น กลัวอ้วนค่ะ เพราะว่าแป้งเวลาที่เราทานเข้าไปมันก็จะเปลี่ยนเป็นน้ำตาล มันก็อาจจะทำให้เราเป็นเบาหวานได้อะไรแบบนี้ คืออันนี้มาจากนักโภชนาการนะคะ แต่ว่าพอเราอายุมากขึ้นแล้วเนี่ย เราต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน จะขาดคาร์โบไฮเดรตไม่ได้ มันเป็นสิ่งจำเป็นมากค่ะ อันนี้คือเจอมากับตัวเลยนะ ที่เป็นแบบนี้เพราะเราขาดแป้งนั่นเอง

 

 

          คุณหมอเขาก็บอกว่า เราเป็นโลหิตจาง ขาดสารอาหารอย่างแรง ถึงขั้นรุนแรงเลยค่ะ คือเราจะไม่ค่อยทานอะไร เป็นคนที่แบบทานข้าววันละมื้อเดียวอะไรแบบนี้ ซึ่งปกติแล้วคนเราเนี่ย เช้ามาก็จะขาดอาหารเช้าไม่ได้ เอาง่ายๆ นมหรือไข่ก็ยังดี แต่เราคือไม่ทานเลย แล้วเราเป็นคนที่ออกกำลังกายแล้วดูแลตัวเองอย่างมาก แต่พอเราอายุมากขึ้นมันก็ต้องปรับเปลี่ยน แต่ทุกวันนี้กลับมาทานข้าวแล้วนะคะ แต่ก็ยังกลัวอ้วนเหมือนเดิม ก็ต้องพยายามกินให้เยอะ เพราะร่างกายอาจจะไม่ไหว เราก็ต้องดูแลตัวเองให้มากขึ้น
          ก่อนที่จะไปหาหมอ สภาพตอนนั้นมันไม่มีแรงค่ะ แล้วก็เวลาเข้าห้องน้ำก็ต้องคลาน เดินไม่ได้ น้ำหนักลงมาเหลือแค่ 42 กิโล ผอมมาก ซึ่งก่อนหน้าที่จะป่วย ก็มีอาการบวม เขาเรียกว่าวัยทองค่ะ บวมทั้งๆที่เราไม่ได้กินอะไรด้วย หลังจากนั้นมาร่างกายก็ซูบเลย ต้องใช้ชีวิตแบบคลานอย่างเดียวเลยเพราะขาไม่มีแรง แล้วมีเลือดอยู่ในตัวแค่ 15 เปอร์เซนต์ ตอนนั้นเราปล่อยชีวิตตัวเองเลย รู้สึกเฟลแบบทุกอย่าง ไม่สนใจแล้ว ถ้าจะตายก็ตายไป แต่ไม่เคยคิดฆ่าตัวตายนะคะ เป็นโรคซึมเศร้าด้วย ไม่ออกไปไหนเลยอยู่แต่ในห้อง เป็นแบบนั้นอยู่ประมาณ 3 ปีได้ คือมันไม่อยากเจอใคร ไม่อยากเจอผู้คน ไม่อยากอะไรเลย แล้วตอนนั้นเรามีงานเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาหลายตัวมาก ตอนหลังก็โดนตัดออกหมดเลย แล้วก็มีลงทุนทําอาหารเสริมอะไรด้วย แต่ว่ามันก็เจ๊งหมดทุกอย่าง เราก็คิดว่าทำไมชีวิตเราเป็นแบบนี้ ก็เครียดมากค่ะ

 

 

          ช่วงที่แย่ที่สุด มีเงินเหลือติดตัว 20 บาท มีแค่นั้นจริงๆ พวกเหรียญอะไรต่างๆก็เก็บไว้เป็นกระปุก ในบ้านมีเยอะมาก แต่เราก็เอาไปแลกเป็นเงินหมดเลย ช่วงแรกๆก็จะมีสมบัติไว้เยอะเพราะว่าก่อนหน้านี้เราทำงาน ก็เก็บสะสมไว้ พอช่วงที่เราตก เราก็เอาสมบัติพวกนี้มาขายเพื่อนบ้าง เพื่อที่จะแลกเป็นเงินมาใช้จ่าย เพราะเราเป็นหัวหน้าครอบครัว มีภาระเยอะ แต่หลังๆก็เริ่มทยอยใช้จนหมด จนเหลือติดตัวแค่ 20 บาทค่ะ แล้วที่บ้านก็โดนตัดน้ำ ตัดไฟ แต่โชคดีที่เรายังมีเพื่อนที่ดีหลายคน พอให้เราได้หยิบยืม ช่วยเหลือบ้าง ทุกวันนี้ก็ใช้หนี้หมดแล้วนะคะ
          หลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล ก็เริ่มดูแลตัวเอง แล้วก็เอาเงินไปใช้หนี้ที่เราเคยยืมมา เพื่อนคนนู้นคนนี้ ก็พยายามใช้เท่าที่เรามีแต่ก็ไม่ได้เยอะมากมายอะไร แล้วก็เอามาซื้อของที่มีประโยชน์เพื่อร่างกายของเราค่ะ ก็ขอขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือแอน ในตอนที่ป่วย ทุกๆคน ทุกๆท่าน ถ้าจะให้เอ่ยทั้งหมดก็คงไม่ไหว เพราะว่าเยอะมากจริงๆ ก็ต้องขอขอบคุณมากๆเลยค่ะ
           คือตอนนั้นคิดว่าเราคงจะตายไปแล้ว อันนี้ที่ผ่านมาคือคิดว่าเราเริ่มต้นชีวิตใหม่ดีกว่า เพราะเราก็เป็นคนทำบุญทำทานเยอะพอสมควร เลยคิดว่าสิ่งเหล่านั้นก็น่าจะย้อนกลับมาหาเราบ้าง หลังจากนี้ก็จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ให้มันดีขึ้น แล้วก็ระวังตัว ดูแลสุขภาพของตัวเองให้มันดีขึ้น เพื่อจะได้มาอยู่ตรงนี้อีกครั้ง จะกลับมาค่ะ"

 

 

 

 

ขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจากอินเตอร์เน็ต

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"