3วันเซ่น‘182ศพ’ ‘ขอนแก่น’แชมป์ คดีเมาแล้วขับอื้อ


เพิ่มเพื่อน    

 3 วันอันตรายเซ่น 182 ศพ เจ็บ 1,690 ราย เกิดอุบัติเหตุ 1,633 ครั้ง ขอนแก่นแชมป์ตายสูงสุด ผู้ว่าฯ ปรับแผนเพิ่มจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์-สกัดขับรถเร็ว นายกฯ ห่วง 7 วันอันตราย ย้ำเมาอย่าขับ 

    เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562  โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่าย ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 29 ธ.ค.2561 ซึ่งเป็นวันที่สามของการรณรงค์ “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร” เกิดอุบัติเหตุ 643 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 83 ราย ผู้บาดเจ็บ 667 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 40.90, ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 27.22 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ร้อยละ 74.74, รถปิกอัพ 11.66 
    ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,050 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 66,404 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 859,386 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 165,093 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 45,652 ราย ไม่มีใบขับขี่ 42,649 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ บุรีรัมย์ (23 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ขอนแก่น และสกลนคร (จังหวัดละ 6 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ บุรีรัมย์ และลำปาง (จังหวัดละ 25 คน) 
    สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 3 วัน (27-29 ธ.ค.61) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,633 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 182 ราย ผู้บาดเจ็บ รวม 1,690 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 16 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (55 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ ขอนแก่น (11 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (60 คน)
    พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์กล่าวว่า ประชาชนส่วนใหญ่เฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ เดินทางท่องเที่ยว และทำบุญตามสถานที่ต่างๆ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) ได้สั่งการจังหวัดดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างเข้มข้น กำชับเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจดูแลเส้นทางสายหลัก-สายรองอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงเวลา 16.01-20.00 น.  ซึ่งเป็นช่วงที่มีสถิติอุบัติเหตุสูง ส่วนเส้นทางโดยรอบสถานที่จัดงานรื่นเริงและสถานบันเทิง ให้จัดชุดสายตรวจดูแลความปลอดภัยของประชาชนในช่วงเวลา 23.00-02.00 น. เป็นพิเศษ โดยเฉพาะผู้ที่ดื่มแล้วขับ ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามมาตรการ “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” 
    อีกทั้งเข้มงวดการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่ทุกรายกรณีเกิดอุบัติเหตุที่มีผู้บาดเจ็บรุนแรงหรือเสียชีวิต ตลอดจนเน้นย้ำเจ้าหน้าที่ตรวจสอบความปลอดภัยเส้นทางสัญจรทางน้ำ ท่าเทียบเรือ และเรือโดยสาร รวมถึงสถานที่จัดงานริมน้ำ และแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำ เพื่อป้องกันอุบัติภัยที่อาจเกิดขึ้น
    นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดี ปภ. ในฐานะเลขานุการ ศปถ. กล่าวว่า ศปถ.ได้เน้นย้ำให้จังหวัดปรับแผนการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนให้สอดคล้องกับสถานการณ์และสภาพปัจจัยเสี่ยงในพื้นที่ รวมถึงประชาสัมพันธ์มาตรการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนผ่านทุกช่องทาง นอกจากนี้ให้ทุกจังหวัด กรุงเทพมหานคร ร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาและกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีผ่านช่องทางสื่อต่างๆ เพื่อความเป็นสิริมงคลต้อนรับพุทธศักราชใหม่ 2562 และเป็นแนวทางหนึ่งในการร่วมกันลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน
    วันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha" ว่า เรื่อง 7 วันอันตราย ที่เฝ้าระวังกันทุกปี และปีนี้ยังมีการเฝ้าระวังเพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน โดยผู้ใช้รถใช้ถนนต้องมีความพร้อม พักผ่อนให้เพียงพอ ขับรถอย่าดื่มเด็ดขาด นอกจากไม่เมาแล้วก็ต้องไม่ประมาท และระมัดระวังทุกวินาทีที่อยู่บนท้องถนน โดยเฉพาะคนหนุ่มสาววัยทำงานที่จะเป็นพลังสำคัญของชาติ ปีหน้ายังมีอะไรที่ต้องทำอีกมาก จึงขอให้ข้ามผ่านปีนี้ไปด้วยดีทุกคน
    พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า การป้องกันและลดอุบัติเหตุช่วงปีใหม่ ด้วยมาตรการ “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” วันที่ 29 ธ.ค.  คสช. โดยกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ตรวจพบผู้กระทำผิดในลักษณะที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ดังนี้ รถจักรยานยนต์ 26,520 ครั้ง เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องยึดรถไว้ 722 คัน และส่งผู้กระทำผิดดำเนินคดี 21,028 คน สำหรับรถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคคล 17,731 ครั้ง ยึดใบขับขี่ไว้ 535 คน ยึดรถยนต์ 274 คัน ส่งผู้กระทำความผิดดำเนินคดี 13,638 คน
    โดย 3 วัน ที่ผ่านมา ( 27-29 ธ.ค.61) เจ้าหน้าที่ได้เก็บรักษารถที่ฝ่าฝืนมาตรการ ดื่มไม่ขับไว้แล้ว 1,748 คัน (แยกเป็นรถจักรยานยนต์ 1,236 คัน และรถยนต์  512 คัน) และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด 60,492 คน (แยกเป็นรถจักรยานยนต์  35,474 คน รถโดยสารสาธารณะ/รถยนต์ส่วนบุคคล 25,018 คน) หลังช่วงเทศกาลไปแล้ว เจ้าของรถสามารถติดต่อขอรับรถคืนได้ตามที่เจ้าหน้าที่นัดหมาย สำหรับการตั้งจุดบริการประชาชนตามหน้าค่ายทหารและเส้นทางคมนาคมของกองทัพบก มีประชาชนเข้าใช้บริการต่อเนื่องถึง 31,298 คน 
    นายประสาร มหาลี้ตระกูล อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า เข้าสู่วันที่ 3 ในช่วง 7 วันที่มีการควบคุมเข้มงวด ยังคงมีคดีที่เข้าสู่กระบวนการคุมประพฤติ รวมยอดสะสม 3 วัน จำนวน 3,323 คดี และศาลสั่งติด EM (เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว) จำนวน 33 คดี ส่วนจังหวัดที่มีสถิติคดีขับรถขณะเมาสุราสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จำนวน  136 คดี, จังหวัดสกลนคร จำนวน 124 คดี, จังหวัดมหาสารคาม จำนวน  93 คดี 
    ขณะที่ นายนิกร จำนง ในฐานะประธานคณะกรรมการมูลนิธิประชาปลอดภัย กล่าวว่า? จาก 3 วันที่ผ่านมา การเสียชีวิตเพิ่มขึ้น ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้ ระยะเวลาที่เหลือก็จะเพิ่มมากขึ้นกว่าปีที่แล้วได้? ซึ่งกรณีนี้อาจบริหารจัดการได้ โดยให้รัฐจัดที่พักริมทางชั่วคราวที่มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัยให้ผู้เดินทางได้นอนพักสักระยะหนึ่งก่อนเดินทางต่อไป ?และที่สำคัญมากคือ ขอให้ทุกฝ่าย โดยเฉพาะผู้ใหญ่ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นระดับรัฐมนตรีหรืออธิบดี ลงไปกำกับดูแลฝ่ายปฏิบัติอย่างใกล้ชิด ให้มีความเคร่งครัดรัดกุมมากขึ้น 
    ทางด้านศูนย์อำนวยป้องกันการอุบัติเหตุทางถนน จ.ขอนแก่น ได้สรุปสถิติของการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ผ่านไป 3 วันแรก ภาพรวมทั้ง 26 อำเภอของจังหวัด มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นทั้งหมด 33 ครั้ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 31 ราย และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 11 ราย โดยเฉพาะเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.  มีผู้เสียชีวิตมากถึง 6 ราย นับเป็นจำนวนที่สูงที่สุดในประวัติการณ์ของการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยสาเหตุเกิดจากการขับขี่รถขณะเมาสุรา ขับรถเร็ว และขับรถโดยประมาท
    นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ยังคงเน้นย้ำและกำชับแนวทางการปฏิบัติให้กับผู้ปฏิบัติงานทุกคนในการบังคับใช้กฎหมายและคุมเข้มการเกิดอุบัติเหตุอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในเส้นทางถนนสายรอง ซึ่งพบว่ามีการเกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นอย่างมาก จึงได้มีคำสั่งในการขยายจุดตรวจและจุดสกัด เน้นหนักไปที่การตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์และการขับรถเร็ว โดยตั้งจุดตรวจแบบใยแมงมุมครอบคลุมทุกพื้นที่และตั้งจุดตรวจแบบเหลื่อมล้ำเวลา รวมทั้งการปิดจุดกลับรถหรือการนำป้ายสัญญาณแจ้งเตือนไปติดตั้งในพื้นที่จุดเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอุบัติเหตุ เพื่อคุมเข้มการเกิดอุบัติเหตุตลอดทั้งช่วงเทศกาลปีใหม่นี้อย่างเต็มที่.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"