storage.thaipost.net หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ “อิสรภาพแห่งความคิด” และติดตามข่าวสารทุกความเคลื่อนไหวได้อีกหนึ่งช่องทาง Line Id “@thaipost” สวัสดีปีใหม่ ต้อนรับสู่พุทธศักราช 2562 ขอคุณพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกปักรักษาท่านผู้อ่านไทยโพสต์ทุกคนให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ประสบแต่ความโชคดี คิดอ่านสิ่งใดสมดั่งปรารถนา ทำอะไรก็ให้หมูๆ สมกับที่ปีนี้เป็นปีกุน หรือปีหมู นั่นเอง

                แต่มีอยู่เรื่องหนึ่ง ไม่เคยจะง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก เพราะทุกความเคลื่อนไหวของการเมืองล้วนเต็มไปด้วยเสียงติติง ซึ่งก็คงเป็นของธรรมดาเสียแล้ว จะให้ถูกใจคนทุกคนในประเทศคงจะไม่ได้ ในทางกลับกันก็มีกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) มีมติ 5:3 ตีตกสำนวน “บิ๊กป้อม”-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ไม่ผิดฐานจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินเป็นเท็จ หลังพบว่านาฬิกาข้อมูลสุดหรูหลักล้านบาทหลายเรือนและแหวนเพชรเม็ดมหึมาไม่ได้อยู่ในบัญชีที่แสดงต่อ ป.ป.ช. นี่แหละ ที่รู้สึกว่าจะขัดหูขัดตา ค้านสายตาคนส่วนใหญ่ 

                วันนี้แม้พี่ใหญ่แห่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) และพี่รักของ “บิ๊กตู่”-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะพ้นน้ำมือของ ป.ป.ช. ชุด พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ลูกน้องคนสนิท “บิ๊กป้อม” ไปได้ แต่อย่าลืมว่าความจริงก็คือความจริงอยู่วันยังค่ำ และแม้องค์กรอิสระจะชี้ไม่ผิด ก็ไม่ได้หมายความว่าสังคมต้องเชื่อแบบนั้น เพราะทุกอย่างมันฟ้อง วันใดวันหนึ่งมีคนติดใจหยิบฟ้องต่อศาลคดีทุจริต หรือหยิบสำนวนมาปัดฝุ่นก็ย่อมได้ ที่สำคัญ ยังไม่นับรวมช่วงเลือกตั้ง เมื่อ “บิ๊กตู่” ลงสนามเลือกตั้ง ส.ส.เต็มตัว เหตุการณ์ดังกล่าวจะกลายเป็นเงาตามตัวและตามหลอนอย่างแน่นอน 

                ส่วนความเคลื่อนไหวพรรคการเมืองต่างๆ ตอนนี้จัดทัพเกือบแล้วเสร็จทั้งคนและนโยบาย รอเพียงคำตอบที่ชัดเจนจากปากคณะกรรมการการเลือกตั้ง จะเลื่อนหรือไม่เลื่อนเลือกตั้งอีกกันแน่ เพราะเมื่อปลายปีหนาหูว่า กกต.อาจตัดสินใจเลื่อนเลือกตั้งออกไปจากเดิมวันที่ 24 ก.พ.2562 เพราะพิมพ์บัตรเลือกตั้งไม่ทันนั้น แต่คงฟังไม่ขึ้น เพราะก่อนหน้านี้ กกต.บอกเองว่าพิมพ์บัตรทันแน่นอน ฉะนั้น คงต้องจับตาให้ดีจะเลื่อนจริงและมีเหตุผลสมควรแก่เหตุหรือไม่ หรือเลื่อนเพื่อเอื้อประโยชน์แก่พรรคการเมืองบางพรรคหรือไม่ เพราะขณะนี้แว่วว่าหัวหน้าพรรคดังกล่าวขาดคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนด อันจะนำไปสู่การร้องเรียนยุบพรรคได้เลย

                เอาเถอะ จะใช้มาตรา 44 จะเอื้อ จะแก้ไขอีกกี่ครั้งกี่รอบอย่างไร สุดท้ายต้องยกให้ประชาชนเป็นคนตัดสิน โดยการกระทำของทุกคนทุกฝ่ายในขณะนี้ล้วนอยู่ในสายตาของชาวบ้านเรียบร้อยแล้ว เมื่อถึงเวลาจะรู้เอง เจ้าของประเทศชอบใจพรรคประเภทใด

                ในส่วนของการเตรียมความพร้อมทั้งเพื่อไทย ประชาธิปัตย์ ถือจังหวะส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ สั่งผู้สมัครลงพื้นที่เกาะติดรับฟังปัญหาทุกข์ยาก พร้อมประชาสัมพันธ์นโยบายหาเสียงพรรค เล็กๆ น้อยๆ ให้ชาวบ้านรับรู้เป็นเบื้องต้น

                ด้านพรรคภูมิใจไทยของ “เสี่ยหนู”-อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ขับเครื่องบินส่วนตัวขึ้นเหนือ ล่องใต้ ตะลุยอีสาน พบปะพี่น้องประชาชน พร้อมเปิดตัวนโยบายแก้ปัญหาปากท้องภายใต้สโลแกน “ลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน” อาทิ ยกสถานะ อสม.มีเงินเดือนตามขั้นบันได 2,500-10,000 บาท, ระบบแบ่งปันผลกำไร ข้าว 70%:15%:15% โดยชาวนาได้เงิน 70%, พักหนี้ กยศ. 5 ปี และทำแกร็บคาร์ให้ถูกกฎหมาย ซึ่งได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี และสอดคล้องกับผลโพลสำนักต่างๆ ที่ชาวบ้านต้องการให้แก้ปัญหาความยากจน ก่อนเรื่องการเมืองและแก้รัฐธรรมนูญ จึงทำให้ “หัวหน้าอนุทิน” กล้าประกาศ “ถ้าหากพรรคภูมิใจไทยได้ทำงาน ขอให้มั่นใจได้ว่าสามารถทำนโยบายให้เกิดเป็นรูปธรรมภายใน 1 ปี หาก 1 ปี ไม่เกิดความเปลี่ยนแปลงเราอยู่ไม่ได้แน่นอน... เตรียมมารดน้ำได้เลย"

                เห็นความรับผิดชอบและความตั้งใจจริงของ “เสี่ยหนู”  ถึงเวลาจะเปิดใจทดลองให้พรรคสายกลางได้ทำงานแก่บ้านเมือง ขณะเดียวกันยังเป็นทางออกของปัญหาในอดีตอีกด้วย ...0   

 

ปราชญ์ศรี