นายกฯบิ๊กตู่หนักใจรับมือ'ปาบึก'สั่งทุกหน่วยงานช่วยเหลือปชช.เต็มที่


เพิ่มเพื่อน    

3 ม.ค.62 - เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมติดตามสถานการณ์พายุโซนร้อนปาบึก ผ่านระบบคอนเฟอเรนซ์ ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด 14 จังหวัดภาคใต้ และอีก 2 จังหวัด ที่อาจได้รับผลกระทบ คือ จ.เพชรบุรี และจ.ประจวบคีรีขันธ์  โดยใช้เวลา 30 นาที  ทั้งนี้ นายกฯให้แต่ละหน่วยงานรายงานสถานการณ์ ชี้แจงความความพร้อมในการเตรียมรับมือช่วยเหลือประชาชน

จากนั้นนายกฯ กล่าวว่า วันนี้ต้องร่วมมือกัน ซึ่งทราบว่าแต่ละหน่วยงานได้มีการเตรียมแผนกันไว้อย่างดี ทั้งหมดต้องการให้ประชาชนคลายความวิตกกังวล ยืนยันเราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ซึ่งวันนี้เราใช้ทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร เตรียมรับมือ 24 ชั่วโมง นายกฯในฐานะผู้รับผิดชอบการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหลักในการดำเนินการ และเป็นผู้บัญชาป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยครั้งนี้ และจากการรับฟังรายงานของแต่ละหน่วยงาน ค่อนข้างครอบคลุมอยู่แล้วในการเตรียมรับมือ ตอนนี้สถานการณ์ยังไม่เกิดขึ้นรุนแรง แต่ขอให้ทุกหน่วยเตรียมความพร้อม ส่วนเรื่องการสื่อสาร ตนกังวลตรงนี้ต้องใช้ส่วนทหารไปช่วยบ้าง ซึ่งแต่ละหน่วยงานมีการสื่อสารทางวิทยุ บางทีโทรศัพท์อาจใช้ไม่ได้ ประชาชนไม่รู้จะติดต่อทางไหน กรณีที่โทรทัศน์ไฟดับดูไม่ได้ ดังนั้นควรมีการสื่อสารผ่านช่องทางวิทยุได้ด้วย

นายกฯ กล่าวอีกว่า รัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องนี้มาหลายวัน หลังทราบว่าจะมีสถานการณ์นี้เกิดขึ้นในประเทศไทย เราคาดหวังว่าจะไม่รุนแรงมากนัก อย่างไรก็ตาม เราประมาทไม่ได้ ต้องมีการเตรียมความพร้อม ขอขอบคุณทุกคนและขอให้ยึดแนวทางหรือพระราโชบายของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงรับสั่งไว้ว่า การทำงานใดๆก็ตาม จะต้องมีการจัดทำแผนงาน แผนเผชิญเหตุต่างๆให้ครบถ้วน เมื่อถึงเวลาเราจะสามารถแก้ปัญหาได้ทันท่วงที ต้องมีแผนหลัก แผนรอง ทำให้ครบ ขณะนี้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ทรงพระราชทานความห่วงใยมายังทุกคน

นายกฯ กล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญทุกคนต้องปลอดภัยเป็นอันดับแรก ชีวิตทรัพย์สินก็ดูแลให้มากที่สุด สำคัญศูนย์ประชาสัมพันธ์ระดับพื้นที่ ขอให้ทุกจังหวัดจัดเตรียมประสานสัมพันธ์ให้ดี ไม่ใช่พูดคนละทางสองทาง จะทำให้ประชาชนตื่นตระหนก ขอร้องสื่อช่วยเสนอข่าวอย่างระมัดระวัง ไม่อยากให้ประชาชนมีความตื่นตระหนก หากมีอะไรเกิดขึ้นต้องแจ้งให้เขาทราบ เพื่อเตรียมการต่างๆ ส่วนการสำรวจความเสียหายให้ทำหลังสถานการณ์ เพื่อป้องกันและฟื้นฟู ขอให้ช่วยพี่น้องคนไทยพ้นจากอันตรายต่างๆให้มากที่สุด

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอประชาชน ข้าราชการทุกหน่วยงาน ทั้งส่วนกลาง ภูมิภาค ท้องถิ่น ขอให้ปลอดภัยและดูแลประชาชนให้ดีที่สุด ขอเดชะพระบารมีอันแผ่ไพศาลของสมเด็จพระเจ้าอยู่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ตลอดจนพระสยามเทวาธิราชและ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพนับถือ ปกป้องคุ้มครองให้คนในชาติของเราปลอดภัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 รับสั่งไว้ว่า เราไม่สามารถบังคับธรรมชาติได้ แต่เราต้องรู้เราจะอยู่กับธรรมชาติได้อย่างไร เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ได้ อันนี้เขาเรียกว่า เมื่อสภาวะอากาศเปลี่ยนแปลง โลกเปลี่ยนแปลง หลายอย่างพร้อมที่จะเกิดขึ้นในทุกพื้นที่ จากนั้นนายกฯได้สอบถามผู้ว่าฯมีใครหนักใจหรือไม่ ก่อนกล่าวต่อไปว่า ซึ่งต้องหนักใจ เพราะตนยังหนักใจ เพราะประชาชนคือเป้าหมายของเรา

จากนั้นในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวสรุปว่า ขอให้ทุกหน่วยงานใช้ความระมัดระวัง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ยานพาหนะ การใช้เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ จะต้องไม่เกิดอุบัติเหตุ และเดินอากาศยานในช่วงที่จำเป็นเท่านั้น ส่วนทหารเรือให้ช่วยดูแลเรือท่องเที่ยว ไม่ควรมีเรือหลงเหลืออยู่ตามเกาะต่างๆ เพราะจะเกิดอันตราย ทุกคนต้องใช้ความระมัดระวังอย่างถึงที่สุด เพื่อรักษาทรัพย์สินของรัฐ และดูแลประชาชน ส่วนประชาชนต้องดูแลตัวเอง เก็บข้าวของไว้ในที่ปลอดภัย เพื่อป้องกันความเสียหาย

“อยากให้รู้ว่านายกรัฐมนตรีห่วงใย และขอฝากคนไทยทุกคนให้ช่วยส่งกำลังใจไปยังเจ้าหน้าที่และประชาชนภาคใต้ ให้ผ่านพ้นภัยพิบัติโดยเร็วที่สุด ขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ตรากตรำมาโดยตลอด ตั้งแต่ก่อนปีใหม่มาจนถึงหลังปีใหม่ นี่คือข้าราชการของแผ่นดิน ขอให้ทุกคนทำงานให้ดีที่สุด เพื่อประชาชน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"