หลังจาก ครม.อนุมัติให้แต่งานกับเพศเดียวกันได้ ก็ถือเป็นข่าวดีของเพศที่สาม เช่นเดียวกับนักแสดงมากความสามารถ รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น ที่หมั้นหมายกับแฟนหนุ่ม โจนาส มาสักพักใหญ่ ล่าสุดตอนนี้เจ้าตัวเผยผ่านรายการ คุยแซ่บshow ว่าพร้อมแล้วที่จะจัดงานแต่งงาน

          “คบกันเกือบ 13 ปี เพราะว่าปีแรกที่เจอกันยังไม่ได้ตกลงเป็นแฟนกัน แค่แชทแล้วก็คุยๆกัน หลังจากนั้นก็นัดเจอกัน แล้วเขาก็มาจีบเรา เพราะเราสวยค่ะ คือเมื่อก่อนจะบอกว่าตอนที่เราคุยกันมันไม่มี แอพพลิเคชั่นหรืออะไรแบบนี้ เพราะฉะนั้นเวลาที่เราคุยกันเราก็จะส่งข้อความคุยกัน เขาเป็นคนดีนะ จากที่เราสัมผัสได้ แล้วก็เขามีความเป็นผู้ใหญ่ มันก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน แต่มันใช้ความรู้สึกตัดสินใจ

          ที่ผ่านมาไม่เคยมีความรักเลย เขาเป็นแฟนคนแรก เป็นรักครั้งแรก แน่นอนคนเราทุกคนมันอยากมีแฟนอยู่แล้ว อยากมีความรัก แล้วพอเราเจอคนนี้ เรามีความรู้สึกว่า เราเต็มที่ไปกับเขามาก มันมีทั้งความรู้สึกดี แล้วก็ความรู้สึกไม่แน่ใจอะไรหลายๆอย่าง แต่สุดท้ายแล้วเรารู้สึกว่าเรารักเขา ทุกวันนี้เราก็ยังถามตัวเองอยู่นะ แล้วก็ได้คำตอบว่าเรายังรักเขา แต่อีกด้านนึง การมีความรักเมื่อถึงวันที่มันเหนื่อย มันถึงจุดที่ทุกอย่างมันไม่ใช่ตามที่เราคิด มันแย่ มันทรมานมาก เราบอกกับตัวเองว่า ก็เรารักคนนี้อยู่แล้ว ถ้าจะให้ไปเริ่มนับหนึ่งกับคนอื่น เราก็ไม่เอา

          เวลาอยู่ด้วยกันสองคนก็จะมีไปดูหนัง ดูอินสตาแกรมไปเรื่อยเปื่อย แต่ว่าสิ่งหนึ่งที่แขชอบทำมาก อันนี้คือแนะนำให้หลายๆคู่ไปทำเลย คือชอบเปิดคลิปตลกก่อนนอน แล้วก็ดูเราก็จะหัวเราะกันก่อนนอน คือมันแบบจะมีความสุขมาก เวลาอยู่ด้วยกันก็จะมีแต่เสียงหัวเราะอะไรแบบนี้ แล้วก็มีอีกเรื่องนึงที่ทำด้วยกันคือ แขจะมีหลานเยอะมากอยู่ที่สวีเดน เพราะฉะนั้นแขจะใช้เวลาครึ่งนึงของแขกับหลานๆเลย แล้วก็จะพยายามเอาหลานๆเนี่ยมาอยู่ด้วยกัน เพราะเราชอบอยู่กับเด็กๆ แขคิดว่ามีหลานเยอะแล้ว คือถ้าแขอยากมีลูก เขาจะต้องอยู่สวีเดน เพราะคุณภาพชีวิตดีที่สุด แล้วแขคงไม่สามารถเอาลูกไปอยู่สวีเดนได้ แล้วเราทำงานอยู่ที่นี่มันไม่ได้อะไรแบบนี้ แต่ถ้าอนาคตเราก็กะว่าจะทำงานในวงการอีกสัก 10 ปี อาจจะมีลูกเป็นของตัวเองก็ได้ มันไม่แน่

 

 

          อะไรทำให้ เรามุ่งมั่นที่จะทำงานในวงการบันเทิงเหรอ คือต้องบอกว่า "ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง" หลอกมาค่ะ พี่แท่งแนะนำมาค่ะ เขาบอกว่าเรามีคาแรคเตอร์ลองมาดูไหม เขาพูดจนหนูเชื่อในตัวเขา บวกกับว่าเราเคยมาเมืองไทยตอนอายุ 18 แล้วเราก็ค้นหาตัวเองไม่เจอ แล้วเราก็กลับไป ครั้งนี้มันเหมือนว่าคนๆนึง ทำไมถึงมั่นใจในตัวเราขนาดนี้ เราก็เลยลองมาอีกครั้งหนึ่ง แล้วทุกวันนี้ก็ไม่ได้ติดต่อหรือโทรหาเขามาปีนึงแล้ว วันนี้ก็ฝากขอบคุณพี่แท่งมากนะคะ ที่ทำให้มีแบบทุกวันนี้ได้

          พอเข้าวงการบันเทิงมา ก็เจอกระแสด้านลบค่อนข้างเยอะ ก็ตกใจ แล้วก็ช็อคเกือบทุกคอมเม้นท์ ทุกวันนี้คือรู้สึกขอบคุณพวกคุณมากที่มาเม้นท์อะไรแย่ๆแบบนี้ มันคือ Good energy สำหรับเรา เอาไว้พัฒนาตัวเอง คุณเขียนมาเถอะ อีดำ อีตุ๊ด หรืออะไร แบบนี้ฉันยิ่งต้องพัฒนาตัวเอง ทำยังไงก็ได้ให้วันหนึ่งคนพวกนี้ หยุดเรียกเราว่าแบบนั้น ทุกวันนี้คำด่าที่ผ่านเข้ามา เราก็ได้แต่ยิ้มใส่ ถือว่าทำบุญให้แล้วกัน ที่ได้ให้พวกคุณเป็นที่ระบาย ไม่ใช่เฉพาะของหนูนะ ของดาราคนอื่นๆหรืออะไรก็เหมือนกัน

 

 

 

          เรื่องแต่งงาน วางแพลนไว้แล้ว 5 มิถุนายน ปีนี้ค่ะ ได้ฤกษ์มาจากต้นหอมค่ะ ทั้งงานหมั้นและงานแต่ง เขาก็นั่งดูปุ๊บๆ แล้วก็จิ้มเลยค่ะ "วันนี้! กูสะดวกวันนี้" (หัวเราะ) เราก็เอาตามนั้นค่ะ แขว่าเอาสะดวกเพื่อนฝูงดีกว่า เพราะว่าคนที่เรารักเนี่ยจะได้มาอยู่รวมกัน แต่ว่ายังไม่ได้จัดที่เมืองไทยนะ เพราะว่าด้วยกำลังทรัพย์อาจจะยังไม่พร้อม เพราะเราอยู่ในวงการด้วย เราอาจจะต้องเชิญเยอะ ก็เลยไม่พร้อม

          ตอนนี้กำลังจะมี พรบ.คู่ชีวิต แต่งงานเพศเดียวกันในไทย สำหรับแขแล้ว มองว่าการจดทะเบียนสมรสเนี่ย คือสิทธิ์ที่เรามอบให้คนคนหนึ่ง ซึ่งนอกเหนือจาก พ่อแม่ พี่น้อง หรือญาติของเรา เข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ในทรัพย์สินมรดก หรือว่าตัดสินใจบนเอกสารทางราชการทุกอย่าง ในฐานะเขาเป็นคู่ชีวิตของเรา ตัดสินใจในทุกๆเรื่องแทนเราในวันนึงที่เราป่วยหรืออาจจะตายอะไรแบบนี้ คนคนนั้นก็จะมีสิทธิ์ในส่วนของเราค่ะ

          แต่เราตัดสินใจจะเลือกใช้กฎหมายของสวีเดน เพราะอันนี้คือเราคุยกันแล้วอย่างแรกที่เราจดเลย ก็คือเรื่องของทรัพย์สิน อันนี้ต้องขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่าจดแยก เพราะเราก็ไม่อยากยุ่งของเขา แล้วเขาก็ไม่อยากยุ่งของเรา ส่วนเรื่องทะเบียนสมรสเดี๋ยวเราค่อยจด แล้วส่วนของคนไทย อย่างที่บอกไปว่าแขเป็นคนไทย แต่บอกว่าต้องรับรองเฉพาะคนไทยกับคนไทย ซึ่งอันนี้ก็ฝากไปคิดด้วย แต่สำหรับที่ต่างประเทศนั้นถึงแม้ว่าคุณเป็นคนไทย หรือฝรั่งแต่งงานกับคนไทย เขาก็เชื่อในความรักนั้น เขาก็อนุญาตให้ไปจดทะเบียนกันในหลายๆประเทศ ซึ่งตรงนี้มันก็แล้วแต่มุมมอง แล้วแต่ดุลยพินิจก็แล้วกัน แต่ถ้าในอนาคตถ้าเปลี่ยนแปลงเราก็จะกลับมาจดแน่นอน ที่จดนี้เราก็ไม่ได้หวังว่าแฟนเราจะได้สัญชาติไทยหรืออะไร คือจดเพื่อที่ว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นในเมืองไทย ไม่มีเพื่อนแขคนไหนสามารถที่จะตัดสินใจอะไรได้ อย่างน้อยเราก็จะได้รู้ว่ายังมีเขาที่ยังสามารถตัดสินใจเรื่องทุกอย่างได้แทนเราอะไรแบบนี้

 

 

          อยากให้ฝากถึงเรื่องความรักในเพศเดียวกันเหรอ แขก็ใช้ทั้งความพยายาม บางทีอาจจะเห็นแขขี้เล่นหรืออะไรแบบนี้ แต่ว่าท้ายสุดแล้ว เราก็มั่นใจนะ ความรักมันดูเหมือนจะง่ายแต่เอาเข้าจริงๆแล้วมันยากมาก กับการที่เราจะเจอใครคนนึงแล้วทุกสิ่งทุกอย่างมันใช่ แล้วแขก็ถามตัวเองตลอดแหละว่า ยังรักเขาไหม? ลึกๆในหัวใจก็บอกว่าเรายังรักผู้ชายคนนี้อยู่ อุปสรรคทุกๆอย่างที่ผ่านมาได้ เราใช้ความอดทน คิดหน้าคิดหลังให้ดีๆ เราจะแลกอารมณ์โมโหแค่ตรงนี้กับคำว่าเลิกไหม ก็คิดได้ว่าเราไม่แลก เรายอมตรงนั้น แล้วก็เอามาคิดใหม่ พยายามวิเคราะห์ดู แล้วสุดท้ายก็พบว่า เรามีเขามันดีที่สุดในชีวิตแล้ว และมันก็คุ้มที่สุดด้วย”

 

 

 

 

 

ขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจากอินสตาแกรม @rusameekae