‘นัท มีเรีย’ชู‘แม่จินดา’ต้นแบบหญิงแกร่ง


เพิ่มเพื่อน    

 

          หลังดารา-นักร้องสาว นัท-มีเรีย เบเนเดดตี้ (ชุมนานนท์) ได้สูญเสีย คุณแม่จินดา เต็งมีศรี ที่ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลศิริราชมานานกว่า 11 ปี โดยเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาก็ได้มีการเคลื่อนศพคุณแม่จินดา มาบำเพ็ญกุศลที่วัดพระศรีมหาธาตุวรวิหาร บางเขน ศาลาทักษิณาประดิษฐ์  พร้อมกันนี้ นัท มีเรีย ได้เปิดใจเป็นครั้งแรก

          "วันนี้เป็นวันรดน้ำและสวดคืนแรกนะคะ จะสวดทั้งหมด 5 คืนจนถึงคืนวันเสาร์ และวันอาทิตย์ที่ 13 ก็จะฌาปนกิจค่ะ คุณแม่ก็ป่วยมานานนะคะ 11 ปี เป็นกล้ามเนื้ออ่อนแรง และติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ก็ใช้สายเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะมานานหลายปี ก็คงจะมีอาการติดเชื้อค่ะ ไข้ขึ้นสูง ก็ไปอย่างสงบค่ะ เป็นช่วงกลางคืน เพราะช่วงเช้านัทจะไลน์คอลคุยกันอยู่ ก็ยังเห็นคุณแม่ยังลืมตานิดๆ เหมือนพยายามจะบอก หรือพยายามจะสื่อสารกับเรานะคะ พอตอนกลางคืนสัก 4 ทุ่มกว่าๆ คุณแม่ก็ไม่อยู่แล้ว แต่ว่าเราก็ไปหาเขาและไปดูแลตามปกติ อาบน้ำสระผมเปลี่ยนชุดให้

          ก็ได้คุยกันทางโทรศัพท์ตลอดค่ะ ช่วงที่ทางโรงพยาบาลโทรมาก็คุยทางโทรศัพท์ด้วยค่ะ ก็พูดกับคุณแม่เยอะค่ะ พูดไปหมดแล้ว  พูดทุกวัน พูดเหมือนที่เคยพูดค่ะ มันไม่ได้มีอะไรที่ต้องพูดเป็นพิเศษ เพราะเราก็พูดกันทุกวันอยู่แล้ว คุยกันเกือบจะทุกวันค่ะ 11  ปีที่คุณแม่ป่วยมันเหมือนเป็นประโยคที่เราเจอคุณพ่อคุณแม่เราทุกวัน ถามว่าเตรียมใจไว้ก่อนไหม เตรียมไว้ตลอดค่ะ คิดว่ามันต้องมีวันนี้อยู่แล้วสักวันนึง แต่ก็พยายามจะมีสติให้มาก และโชคดีที่มีญาติพี่น้องเพื่อนๆ พี่ๆ อยู่ในวันนั้นพอดี ทุกคนก็เลยร่วมแรงร่วมใจแยกย้ายทำหน้าที่แต่ละคนไปโดยที่ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีจริงๆ ค่ะ ขอบคุณจริงๆ ขอบคุณสถานการณ์ทุกอย่าง ขอบคุณอั้มด้วย

 

 

          ต้องบอกเลยว่าที่นัทเป็นได้อย่างทุกวันนี้ อย่างที่ทุกคนเห็นว่านัทเป็นยังไง ก็ต้องขอบคุณคุณแม่จริงๆ ขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ที่ปลูกฝังเลี้ยงดูนัทมาอย่างดี คุณแม่เป็นคนเข้มแข็ง เป็นคนรักครอบครัว เป็นคนดูแลคนอื่น เราก็เห็นตรงนี้มาตลอด ก็เลยทำให้รู้สึกว่าที่เราเข้มแข็งได้วันนี้มันก็มาจากที่คุณแม่เขาทำให้เราเรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน จากที่เราเข้มแข็งน้อย เราก็ค่อยๆ เข้มแข็งมากขึ้น จริงๆ เราเข้มแข็งมากกว่าเขาอีก เพราะว่าเขาป่วยเนอะ เขาค่อนข้างจะทนทุกข์ทรมานกว่าเราเยอะ แต่เราก็มีหน้าที่ของเราที่เป็นลูกให้ดีที่สุด ตัวเขาก็ดำรงชีวิตของเขาและชีวิตของเราให้ไปด้วยกันแบบเรียนรู้ชีวิตซึ่งกันและกันค่ะ

          ถามว่าคุณแม่มีห่วงอะไรอีกไหม จริงๆ นัทไม่ทราบนะคะ แต่นัทเชื่อว่าที่ได้เห็นภาพเมื่อวาน สถานการณ์ต่างๆ นัทเชื่อว่าคุณแม่น่าจะหลับสบาย เพราะว่าคุณแม่สวยงามมาก ตาปิดสนิท เหมือนคนนอนหลับไปเฉยๆ เลยค่ะ นัทก็อาบน้ำสระผมแต่งตัวให้ อยู่ด้วยกันหลายชั่วโมงมากเลยค่ะ รู้สึกเหมือนเขานอนไปเฉยๆ เหมือนเขาแพลนทุกอย่างไว้ให้เราดีหมดแล้ว ทุกอย่างของคุณแม่อยู่ในใจเราตลอดมา มันเป็นอะไรที่เราแค่คิดเราก็มีความสุขแล้ว บางอย่างเราได้ปฎิบัติในขณะที่เขายังปกติดี และตอนที่เขาอาจจะดูแลตัวเองไม่ได้ และเราก็ดูแลทำหน้าที่ของเรา เราก็เดินหน้าต่อไปค่ะ
          วันนี้ก็ได้ทุกๆ คนช่วยเยอะนะคะ ตั้งแต่คนในครอบครัว รวมไปจนถึงเพื่อนสนิท เพื่อนทุกๆ คน เพื่อนทั้งในวงการ นอกวงการ คือแทบจะไม่ต้องทำอะไรมากเลยค่ะ ทุกคนทำหน้าที่ให้นัทหมดเลย จนนัทรู้สึกปลื้มใจ และอยากจะขอบคุณจากใจจริงๆ สำหรับทุกๆ ท่านที่ให้การช่วยเหลือนะคะ และดูแลนัทเสมอมา และที่สำคัญก็เป็นพระมหากรุณาธิคุณสำหรับครอบครัวนัทที่สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถท่านทรงเมตตาอนุเคราะห์ ท่านทรงดูแลและให้ความเมตตาอย่างยิ่งกับครอบครัวของนัทนะคะ อันนี้เป็นพระมหากรุณาอย่างหาที่สุดไม่ได้จริงๆ ค่ะ เหนือเกล้าเหนือกระหม่อมจริงๆ ค่ะ เป็นอะไรที่ครอบครัวเราทุกคนปลื้มใจค่ะ"

 

 

 

 

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"