ต้องบอกว่า “ทอล์กออฟเดอะทาวน์” ยามนี้ ไม่มีเรื่องใดร้อนฉ่าไปกว่า “เจ้าสัวเปรมชัย กรรณสูต” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) กับพวกรวม 4 คน ที่ไปล่า “เสือดำ” ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรทิศตะวันตก เพราะ ไล่ตั้งแต่ชาวบ้านจนถึงระดับนักการเมือง ต่างก็ต้องเมาธ์มอยเรื่องนี้กันทั้งสิ้น ...๐ ที่สำคัญประเด็นใหญ่ที่มัก ถกเถียงกันตั้งแต่ “วงกาแฟ” ชาวบ้านร้านถิ่นไปถึงวงประชุมของทั่นผู้นำไฮคลาส ทั้งหลายก็คือ “เปรมชัย” จะรอดคุกหรือไม่อย่างไร แล้วที่ขำไม่ออกแบบมิได้นัดหมายคือ เกินกว่า 80% แม้ไม่ใช่ “โหรฟันธง” ต่างก็เชื่อแน่ว่า “หลุด” แม้จะมีแรงกดดันจากสังคมโดยเฉพาะจาก “สื่อสังคมออนไลน์” ในการล่าชื่อ หรือแม้กระทั่งบอยคอต “อิตาเลียนไทย” ก็ตามที เพราะ ไทยแลนด์โอนลี่นั่นแล ถ้ามีเงินมีทองระดับพันหมื่นล้านก็ “จ้างผีโม่แป้ง” ได้นะเออ ...๐ แล้วก็แปลกอย่างยิ่งจริงๆ ที่บรรดา สื่อทีวีที่มักเชิญ “ดำรงค์ พิเดช” อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช มาให้ความเห็นในเรื่องดังกล่าว โดยมิได้มี ใครสนใจที่จะไต่ถาม “ปลอดประสพ สุรัสวดี” อดีตอธิบดีกรมป่าไม้ และอดีตปลัดกระทรวงกระทรวงทรัพย์เลย ทั้งที่น่าจะเป็น “สเปเชียล” ในเรื่องเหล่านี้มากกว่า “ดำรงค์” หลายเท่านัก และยิ่งพรานไฮโซมีการเอ่ยอ้างถึงนายเหนือของ “ปลอด” อย่าง “ทักษิณ ชินวัตร” ขึ้นมา ก็ยิ่งน่าจะเสวนาสอบถามมากขึ้นไปอีก ...๐ ต้องบอกว่าเป็น “อานิสงส์” ล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่เสียจริงๆ เพราะทำให้ “นาฬิกาหรู” ของนายพลโรเล็กซ์อย่าง “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกฯ และ รมว.กลาโหมแทบจะเป็นข่าวตกขอบ กันเลยทีเดียว งานนี้จึงไม่แปลกที่ “บิ๊กป้อม” จะหน้าตาสดใส พร้อมยืนยันไม่มีแรงกดดันใดๆ ถ้าจะมีก็แต่สื่อมวลชนที่คิดไปเองนั่นแล ...๐ แหม! พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์จะมีแรงกดดันได้อย่างไร ก็ขนาด “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยังวิเคราะห์คำกล่าวของ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช.ที่ไปพูดในระหว่างการประชุม ครม.สัญจร กับประชาชนว่า “หากรักนายกฯ ขอให้รักคณะรัฐบาลทั้งหมด เพราะไม่สามารถทำงานคนเดียวได้” นั้น แทบต้องตีความว่าอุ้มสมพี่ป้อมขนาดไหน แล้วอย่างนี้“พล.อ.ประวิตร” จะไปมีแรงกดดันอะไร เพราะน้องรักการันตีซะขนาดนั้น ...๐ ที่น่าสนใจคือ “พี่มาร์ค” บอกว่าในเมื่อ “นายกฯ ตู่” เลือกอุ้มค่อมแล้ว ก็ต้องรับผิดชอบผลที่จะตามมา ซึ่งน่าสนใจว่าลุงตู่จะใช้ตำราเล่มใดพลิกความน่าเชื่อถือ และกองหนุนที่นับวันเริ่มร่อยหรอลง โดยเฉพาะจากกรณี “นาฬิกายืมเพื่อน” ให้กระเตื้องขึ้นมาได้ เพราะนับวันแรงกระเพื่อมทั้งเรื่องอยากเลือกตั้งและความเคลื่อนไหวของภาคประชาชนจะเพิ่มเติมมากขึ้น หรือไปๆ มาๆ หมัดเด็ดว่าด้วยการ ปล่อยผีให้ทำกิจกรรมทางการเมืองอาจคลอดก่อนกำหนดก็ไม่รู้ได้ และหากทำจริงนี่อาจเป็น “อาวุธลับ” ที่อาจทำให้ใครต่อใครที่วางแผนใต้ดินหงายเงิบกันเลยทีเดียว ...๐ พูดถึงเรื่อง “ล่าสัตว์ทุ่งใหญ่” แล้ว ไม่เอ่ยพูดถึง “หวยอลวน 30 ล้าน” ก็ไม่ได้ เพราะสถานที่เกิดเหตุก็จังหวัดเดียวกันนั่นเอง คือ “กาญจนบุรี” เรียกว่าช่วงนี้เมืองกาญจน์มีแต่เรื่องร้อนฉ่าระดับประเทศทั้งนั้น ที่สำคัญไม่ใช่ข่าวทางบวกเสียเท่าไหร่ ก็ไม่รู้ว่า “จีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์” ผู้ว่าฯ กาญจนบุรี มีแนวคิดที่จะทำบุญจังหวัดเพื่อให้เรื่องดีๆ เข้ามาบ้างไหม หรือหากมองอีกด้านช่วงนี้ก็ทำให้ “เมืองกาญจน์” คึกคัก มีการจับจ่ายใช้สอยพอๆ กับ “งานสะพานข้ามแม่น้ำแคว” เหมือนกันนะ เรียกว่า เหรียญมีสองด้านเสมอ ...๐ แปลกแต่จริง เรื่องหวยอลวนข้ามปีข้ามภพข้ามชาติมาแล้ว เพราะต่างฝ่ายต่างมั่นใจในข้อมูลและความเป็นเจ้าของ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องน่าพิศวง เพราะรางวัลตั้ง 30 ล้านบาท แต่ที่ชาวบ้านเขาข้องใจกันอย่างมากคือ ทำไมจนป่านนี้ทั้ง “สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล” หรือแม้แต่ตำรวจ ไม่มีการลงดาบ “แม่ค้าขายหวย” เกินราคาแต่ประการใดเลย เพราะความผิดสำเร็จไปแล้วไม่ว่าหวยจะไปออกที่ใคร เวลามีกรณีหวยเกินราคาที่ใด ก็มักขึงขังว่าจะลงดาบทั้งคุกทั้งตะราง รวมทั้งตัดโควตาสลาก แต่จนถึงทุกวันนี้ก็เห็นแม่ค้ายังอยู่ดีมีสุข ไม่มีการไล่เบี้ยเรื่องหวยชุด 5 ใบที่ขายกัน 700 บาทแต่ประการใด งานนี้คง ต้องฝากถาม “วิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ” รมช.การคลังในฐานะดูแล “สำนักงานสลากฯ” ด้วยว่ามันเกิดอะไรขึ้นจ๊ะ ...๐ ทิ้งท้ายด้วยข่าวน่ารักน่าลุ้นด้วยใจระทึก เมื่อ “จิสด้า” ได้ระบุถึง “สถานีอวกาศเทียนกง 1” ของจีนที่สูญเสียการควบคุมตั้งแต่ มี.ค.2559 กำลังโหม่งโลกนั้น ก็เริ่มชัดแล้วว่าจะ ตกสู่โลกในช่วงวันที่ 12 มี.ค.นี้ ส่วนหวยจะไปลงในพื้นที่ใดในโลกนั้น เชื่อว่าใกล้ๆ เวลาเมื่อใดก็คงได้รู้กัน ...๐