ดูเหมือน “พรรคพลังประชารัฐ” ของลุงป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะ อยู่ในช่วง “ขาก่ายหน้าผาก” เสียจริงๆ เพราะมีแต่เรื่องทางลบมากกว่าทางบวกนับตั้งแต่สิ้นสุดศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา และมีการปลดฟ้าผ่า “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” และ “นฤมล ภิญโญสินวัฒน์” ออกจากการเก้าอี้รัฐมนตรี แม้ล่าสุด “ธรรมนัส” จะยืดอกประกาศว่ายังอยู่ที่บ้านพลังประชารัฐไม่เสื่อมคลาย แต่ ดูเหมือน “พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล” หรือผู้การสุชาติ อดีตประธานยุทธศาสตร์ภาคใต้พรรค พปชร. และผู้ร่วมก่อตั้งพรรคก็ประกาศโบกมือลาแล้ว และเตรียมเข้าพรรคใหม่ของ “นายฉัตรชัย พรหมเลิศ” ปลัดกระทรวงมหาดไทยที่จะเกษียณอายุราชการในเดือน ก.ย.นี้...0

งานนี้แม้ “ผู้การสุชาติ” เพื่อน ตท.12 ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากนัก เพราะมักทำตัวโลว์โปรไฟล์ แต่ต้องบอกว่าเป็น “ตัวกลั่น” ในศึกเลือกตั้งทั้งสนามเล็กและสนามใหญ่เลยทีเดียว และการเลือกย้ายไปอยู่กับพรรคใหม่ของ “ปลัดฉิ่ง” โดยยืนยันว่ามีการเปิดตัวหัวหน้าพรรคและผู้บริหารพรรคคนจะตอบรับ พ่วงการวิเคราะห์ว่าหากใช้บัตร 2 ใบเปิดตัวเป็นพรรคเล็กก็มีแต่ตายกับตาย จึงการันตีว่าเปิดตัวจ้องเป็นพรรคใหญ่แน่นอนๆ...๐

งานนี้เมื่อ ส่องดูรายชื่อของ “บิ๊กเนม” ที่ยังไม่มีที่สิ่งสถิตนอกจาก “คนหน้าเหลี่ยม” และน้องสาวแคตวอล์กที่อยู่ดูไบแล้ว ก็เหลือเพียงทีมของ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” และ 4 ยอดกุมารเท่านั้น และหากดูจากปลัดฉิ่งและผู้การสุชาติ ก็อาจเป็นได้ที่เราจะได้เห็นการคัมแบ็กของใครหลายคน...๐

ไม่ใช่แค่ “พลังประชารัฐ” เท่านั้นที่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดในช่วงนี้ ดูเหมือน “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เองก็ไม่ใช่ย่อย หลังจากได้ประสานรอยร้าวกับพี่ป้อมว่าด้วยการเขี่ย “น้องธรรมนัส” ไปแล้ว ยังต้องมาเจอกับเดดล็อกว่าด้วยการดำรงตำแหน่ง 8 ปีตามรัฐธรรมนูญที่พรรคฝ่ายค้านพยายามจุดให้ติดเสียอีก...๐

แล้วที่สำคัญดูเหมือน “พรรคเพื่อไทย” และ “พรรคก้าวไกล” ต่างมั่นอกมั่นใจว่าต้องนับตั้งแต่ปี 2557 ที่ทำรัฐประหาร พิโธ่! ถังนี่บอกเลยว่า 2 พรรคนี้ควรจะต้องปรับปรุงทีมกฎหมายกันยกใหญ่นะจ๊ะจะบอกให้ แค่คำว่า “รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560” ก็ชัดแจ้งแดงแจ๋แล้วว่าจะนับย้อนหลงปี 2557 ได้อย่างไร ที่สำคัญหลักกฎหมายหากย้อนหลังเป็นคุณทำได้ ย้อนหลังเป็นโทษทำไม่ได้ “นิติศาสตร์ 101” บรรดาทั่นผู้ทรงเกียรติไม่ได้มาหรืออย่างไร แต่หากดูประวัติทั้งกว่าจะเป็นเพื่อไทยและก้าวไกลก็เข้าใจได้ เพราะตีความกฎหมายแบบเอาตัวเองเป็นหลักว่าทำถูกจนถูกยุบพรรคมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งนั่นแล...๐

“ชำนาญ จันทร์เรือง” กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ซึ่งแตกหน่อจากอนาคตใหม่เหมือนก้าวไกลยังทวีตแบบไม่เห็นหัวคนพรรคก้าวไกล ที่จะส่งเรื่องนี้ให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความเลยว่า “ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องไว้วินิจฉัยไม่ได้ เพราะปัญหายังไม่เกิด ศาลไม่ใช่ที่ปรึกษากฎหมาย” ซึ่งที่มือกฎหมายของก้าวหน้ามองอย่างนี้ ก็เพราะรู้เต็มอกหากศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องขึ้นมา แล้ววินิจฉัยว่าให้นับการดำรงตำแหน่งตั้งแต่หลังการเลือกตั้งปี 2562 ก็บอกได้คำเดียวกับ “ฉิบหาย” กันยกพวง เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้นผูกพันทุกองค์กร...๐

พูดถึงเรื่อง “ศาลรัฐธรรมนูญ” แล้ว ไม่เอ่ยอ้างถึงกรณียุบพรรคอนาคตใหม่ และตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคไม่ได้ เพราะจำได้ยังมีเรื่องคดีต่อเนื่องที่ยังไม่จบ ค้างเติ่งอยู่ที่ “คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)” หรือไม่อย่างไร สังคมก็ได้แต่กังขาว่าทำไมเรื่องดังกล่าวยังไม่สะเด็ดน้ำเสียที เรียกว่างานหลักว่าด้วยการเลือกตั้งทั้งระดับประเทศและท้องถิ่นก็แทบไม่มีอยู่แล้ว แต่ทำไมถึง “ดองเรื่อง” ได้ข้ามเดือนข้ามปีขนาดนี้...๐

หันมาเรื่องโควิด-19 กันบ้าง ต้องบอกว่าพี่ไทยดีใจได้แค่วันเดียวที่ผู้ติดเชื้อต่ำกว่าหลักหมื่น แต่แล้วในวันพุธ การติดเชื้อก็ดีดกลับไปที่หลักหมื่นอีกครั้ง ทำให้ “ไทยแลนด์” ยังเกาะติดในอันดับที่ 28 ของจำนวนผู้ติดเชื้อโลกอย่างเหนียวแน่น แต่หากขยับไปมองอันดับที่ 27 แล้วก็ต้อง บอกคำเดียวว่าสิ้นสัปดาห์นี้พี่ไทยอาจจะแซงแคนาดา เพราะจำนวนผู้ติดเชื้อของไทยตอนนี้อยู่ที่ 1,591,829 ราย ในขณะที่แคนาดาอยู่ที่ 1,615,859 ราย หรือห่างกันแค่ 24,030 คนเท่านั้นเอง...๐

พูดถึงเรื่องโควิดไม่พูดเรื่องเยียวยาไม่ได้ เพราะใกล้วันที่ 1 ต.ค.ที่รัฐบาลจะจ่ายเงินให้ประชาชนในโครงการคนละครึ่งอีกครั้ง 1,500 บาทแล้ว งานนี้ อยากจะสะกิดสะเกา “ลุงตู่” เสียเหลือเกินว่าให้อยู่บนโลกความเป็นจริงบ้าง เพราะการให้ 1,500 บาทใช้ใน 3 เดือนนั้นเป็นไปได้ที่ไหนกัน ที่สำคัญ “คนละครึ่ง” ก็เป็นโครงการที่เวิร์กที่สุดแล้วในมือ ในขณะที่ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” เหลวไม่เป็นท่า จากที่ตั้งเป้าไว้ 4 ล้านราย และล่าสุดปรับลดมาเหลือ 1 ล้านแล้วก็ตาม แต่กลับมีผู้ใช้ไม่ถึง 8 หมื่นคนด้วยซ้ำ งานนี้ก็น่าจะโยกงบในส่วนนี้ไปโปะคนละครึ่งไม่ดีกว่าเหรอ ไม่ใช่ดันทุรังทำโครงการที่ไม่เวิร์กต่อไป...๐.

ท.ศักดิ์