'จัดอีกช็อปช่วยชาติ!' เสียงจากคนทำหนังสือ ช่วยธุรกิจเลือดหยุดไหล


เพิ่มเพื่อน    

 

 

     มาตรการช็อปหนังสือช่วยชาติส่งท้ายปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.61 ถึง 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ตลอด 1  เดือนเต็ม มาตรการนี้กระตุ้นให้เกิดการช็อปหนังสือ แสดงว่าคนไทยยังอ่านหนังสือและซื้อหนังสือ ส่งผลให้วงการหนังสือกลับมาคึกคัก    

      สำหรับนโยบายซื้อหนังสือรับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีสูงสุด 15,000 บาท ตามมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ เป็นครั้งแรกของมาตรการภาษีช่วยส่งเสริมการอ่าน อันเป็นพื้นฐานสำคัญของการสร้างชาติและพัฒนามนุษย์ ผลักดันโดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม  กระทรวงการคลัง และสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT)

      หลังใช้มาตรการนี้กับสินค้าหนังสือ สุชาดา สหัสกุล นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) กล่าวว่า ประชาชนจำนวนมากเห็นด้วยกับนโยบายช็อปหนังสือช่วยชาตินี้  มีการเข้าร้านหนังสือเชนใหญ่ ร้านหนังสืออิสระ รวมถึงสั่งซื้อหนังสือออนไลน์ นอกจากทำให้คนไทยสนใจการอ่านเพิ่มขึ้นแล้ว ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและธุรกิจหนังสือให้ดีขึ้น หลังเสร็จสิ้นมาตรการช็อปหนังสือช่วยชาติ สมาคมฯ มีข้อมูลเบื้องต้นว่าส่งผลให้ยอดขายหนังสือในร้านหนังสือเชนเพิ่มขึ้นกว่า   20% ซึ่งต้องรอสรุปยอดขายจากร้านหนังสืออิสระเพิ่มเติม สมาคมฯ เห็นว่ารัฐควรดำเนินการจัดโครงการช็อปหนังสือช่วยชาติให้ต่อเนื่องตลอดทั้งปี

      "พฤติกรรมคนอ่านไม่ซื้อหนังสืออ่านครั้งเดียว 15,000 บาท เพราะไม่ไหว เกินกำลัง แต่จะทยอยซื้อแต่ละเดือน 500 บาทบ้าง 1,000 บาทบ้าง ถ้าภาครัฐเปิดช่องช่วยชาติทั้งปีจะส่งเสริมการอ่านให้มากขึ้นอย่างแน่นอน" สุชาดา เสนอ

สุชาดา สหัสกุล นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT)     

 

  นายก PUBAT เน้นว่า นโยบายซื้อหนังสือลดหย่อนภาษีจำเป็นอย่างยิ่งกับการเพิ่มวัฒนธรรมการอ่านในสังคมไทย นอกจากช่วยผู้อ่านให้เข้าถึงหนังสือเพิ่มขึ้นแล้ว ยังช่วยธุรกิจร้านหนังสือและวงการวรรณกรรม ซึ่งปัจจุบันต้องปรับตัวอย่างมาก ซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์-หนึ่งในร้านหนังสือที่ร่วมขานรับนโยบาย มีการจัดชุดหนังสือของขวัญและมอบส่วนลดพิเศษตลอดเดือน ได้พูดคุยกับตัวแทนร้านถึงกับบอกว่าทำให้เลือดหยุดไหล เพราะตอนนี้ธุรกิจหนังสือวิกฤติ ประสบภาวะขาดทุนต่อเนื่อง การมียอดซื้อมาโปะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นได้ นอกจากนี้ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาสมาคมฯ ร่วมเป็นเครือข่ายรณรงค์กับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) นอกจากรณรงค์ให้เหล้าเท่ากับแช่งแล้ว เสนอทางออกให้หนังสือคือปัญญา หนุนให้คนไทยซื้อหนังสือแทนกระเช้าเหล้า ดีต่อปัญญา ดีต่อสุขภาพ

      ส่วนการขับเคลื่อนสร้างวัฒนธรรมการอ่านเชิงรุกในปี 2562 สุชาดายืนยันว่าจะเดินหน้าต่อไป โดยจับมือกับภาคีเครือข่ายส่งเสริมการอ่านทั่วประเทศ อยากจะแสดงให้เห็นว่าการอ่านสร้างคุณภาพชีวิต และเพิ่มศักยภาพให้ชีวิตของทุกคน โดยเตรียมรวบรวมงานวิจัยที่เกี่ยวกับการอ่านสร้างคุณภาพคน เพื่อสะท้อนความคุ้มทุนในการใช้การอ่านพัฒนาคน โดยขณะนี้ทีมนักวิชาการในวงการหนังสือช่วยรวบรวม และค้นหาโมเดลต่างๆ ที่สามารถเป็นต้นแบบเพื่อนำมาขยายผลต่อไป โดยจะจัดเวทีแลกเปลี่ยนในงานหนังสือที่จะเกิดขึ้นช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนนี้ 

 

      ในโอกาสนี้ นายก PUBAT ยังฝากถึงโครงการ "พวงหรีดหนังสือ" แทนพวงหรีดดอกไม้ด้วยว่า จะต้องสร้างการรับรู้แก่สังคม และทำงานเชื่อมกับเครือข่ายมากขึ้น โดยจะจัดส่งรายชื่อหนังสือดีให้มูลนิธิ  องค์กร หน่วยงานรัฐ และเอกชนได้เลือก หัวใจของโครงการที่ต้องการสื่อสารกับสังคม คือพวงหรีดหนังสือลดขยะจากดอกไม้สด และหนังสือจะเข้าไปสู่เยาวชนในพื้นที่ขาดแคลนมากขึ้น โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ไม่มีหนังสืออ่าน ถ้าทำสำเร็จจะส่งผลให้มีหนังสือ 6 แสนเล่มเข้าสู่ระบบ

      " ปัจจุบันมีร้านพวงหรีดหนังสือในกรุงเทพฯ เป็นเครือข่าย เน้นหรีดหนังสือสู่วัด ขอแค่วัดละ 2 พวง  ใน กทม.มี 400 วัด ขณะนี้เริ่มเดินสายร้านพวงหรีดย่านวัดดัง 10 แห่ง เช่น วัดธาตุทอง, วัดเทพศิรินทร์,  วัดมกุฏฯ, วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน ฯลฯ เพื่อทำความเข้าใจ ทั้งยังมีแผนจะเพิ่มเครือข่ายส่วนภูมิภาคบุกเบิกที่ จ.เชียงใหม่ เพราะมีเสียงเรียกร้องเข้ามา ส่วนจังหวัดต่างๆ จะสร้างทีมงานผลักดันเรื่องนี้โดยเฉพาะ ทั้งความต้องการซื้อและขายต้องมีมากพอ ขอเชิญชวนให้ร่วมกันส่งพวงหรีดหนังสือ เพื่อแสดงความอาลัยและสร้างสติปัญญา" สุชาดา กล่าว

  สมชัย ถาวรรุ่งโรจน์ กรรมการผู้จัดการบ.นานมีบุ๊คส์ จำกัด เสนอให้รัฐจัดช็อปหนังสือช่วยชาติอีก

   ด้าน สมชัย ถาวรรุ่งโรจน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท นานมีบุ๊คส์ จำกัด กล่าวว่า ช็อปหนังสือช่วยชาติเป็นมาตรการที่ช่วยกระตุ้นการอ่านได้ดี เพราะถือเป็นการมอบของขวัญให้คนไทยในช่วงเทศกาลปีใหม่  ด้วยการซื้อหนังสือให้ตัวเองและครอบครัว รวมไปถึงการซื้อเพื่อบริจาค ได้รับเสียงตอบรับที่ดี ส่งผลให้ภาพรวมช่วยเพิ่มยอดขายประมาณ 30%

      " นานมีบุ๊คส์จะสานต่อนโยบายนี้ โดยมีการออกโปรโมชันเพื่อกระตุ้นการอ่านอย่างต่อเนื่อง เน้นที่หนังสือกลุ่มนิทาน เสริมความรู้เด็กเล็ก วรรณกรรมเยาวชน อีกทั้งยังมีกิจกรรมค่ายสำหรับเด็กและครอบครัวเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยมีการจัดโปรโมชันแนวบูรณาการทั้งในส่วนหนังสือและค่ายร่วมกัน เพื่อกระตุ้นการอ่านของเด็กและครอบครัวอย่างต่อเนื่อง รวมถึงโปรโมชันสำหรับการซื้อเพื่อบริจาคให้น้องๆ ในโรงเรียนที่ยากไร้ ช่วยสร้างโอกาสในการอ่านผ่านช่องทางร้านค้าและออนไลน์อีกด้วย" สมชัย กล่าว และฝากทิ้งท้ายว่า อยากให้รัฐบาลจัดช็อปหนังสือช่วยชาติอีก แต่ควรขยับระยะเวลาให้ยาวขึ้น เพื่อให้การสื่อสารทั้งในส่วนร้านค้าและในร้านเชนสโตร์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในแง่ของการสร้างการรับรู้


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"