การเมืองของปุถุชนคนธรรมดา


เพิ่มเพื่อน    

      เห็นข่าวแวบๆ...ว่าพรรคของบรรดาเด็กๆ อย่างพรรค อนาคตใหม่ ที่ฝ่ายข่าว ไทยโพสต์ เขาชอบเรียกว่า ส้มหวาน อะไรทำนองนั้น (ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหมายถึงอะไร) ได้ออกมาป่าวประกาศแสดงความมั่นอก-มั่นใจ ว่าเลือกตั้งคราวนี้...พรรคของเขาจะกวาดเก้าอี้ ส.ส.เขต ส.ส.สัดส่วน ไม่ใช่แค่ระดับ 50-60 เก้าอี้เท่านั้น แต่จะทะลุถึง 100 เสียง 100 เก้าอี้ให้จงได้...

                                                             ----------------------------------------------

      จริง-ไม่จริง...เป็นไปได้-เป็นไปไม่ได้ อันนั้น...คงต้องคอยดูอีกที แต่ถ้าลองไล่เรียง เป้าหมาย ในแต่ละพรรค พรรคอันดับหนึ่งอย่าง เผาไทย และเครือข่ายเผาๆ ทั้งหลาย ถ้าว่ากันตามสมมุติฐานของ มังกือการเมือง อย่าง ดอกเตอร์เหลิม ที่ท่านได้วิเคราะห์ ทำนาย และป่าวประกาศล่วงหน้ามาโดยตลอด ก็น่าจะกวาดเสียง กวาดเก้าอี้ เป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 300 ส.ส.ขึ้นไป ส่วนคู่แข่ง คู่ฟัด คู่เหวี่ยง อย่างพรรค พลังประชารัฐ ถ้าว่ากันตามคำปลุกจิต ปลุกใจ ของแกนนำอย่างท่านรัฐมนตรี กุมารสนธิรัตน์ ก็น่าจะกวาดเก้าอี้มาได้ถึง 375 เก้าอี้ เป็นอย่างน้อย...

                                                              ------------------------------------------------

      ส่วนผู้ที่ไม่พยายามแข่งกับใครโดยตรง เพื่อรักษามาตรฐานตามแบบฉบับ เอาก็ไม่ใช่-ไม่เอาก็ไม่เชิง ไว้โดยตลอด คือพรรค ประชาธิกัด ของท่านอดีตนายกฯ  อภิสิทธิ์ ท่านก็ได้ตั้ง ราคาต่อรอง เอาไว้ก่อนหน้านั้น ว่า ถ้าได้ ส.ส.เขต ส.ส.สัดส่วน ต่ำลงไปกว่า 100 ท่าน คงอำลา-อาลัย ความเป็น หัวหน้าพรรค ค่อนข้างแน่ หรือโดยเป้าหมายของประชาธิกัดคราวนี้ ก็ไม่น่าที่จะหวังการได้มาของ ส.ส.คราวนี้ ต่ำกว่า 100 เก้าอี้ลงไป...

                                                                -----------------------------------------------

      สรุปรวมความแล้ว...เฉพาะแค่ 4 พรรคการเมือง เท่าที่ไล่เรียงให้เห็นตั้งแต่ต้น ถ้าจะให้ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นไปตามเป้าหมาย ตามที่แต่ละพรรคหวังและปรารถนา จำนวน ส.ส.ในสภาฯ มันปาเข้าไปถึง 875 เก้าอี้เข้าไปแล้วเป็นอย่างน้อย เกินกว่าจำนวน ข้อเท็จจริง ที่จำกัดจำนวนเก้าอี้ ส.ส.เอาไว้แค่ 500 เก้าอี้ หรือเกินกว่าปริมาณความเป็นจริงไปถึง 375 เก้าอี้ นั่นยังไม่นับรวมถึงบรรดาพรรคการเมืองอีกเกือบร่วมร้อยพรรค ที่ตัดสินใจลงสนามแข่งขัน ชิงชัย ในการเลือกตั้งคราวนี้ ดังนั้น...ถ้าจะให้สมหวัง สมปรารถนา สมเกียรติโอสถสภา สำหรับบรรดาพรรคการเมืองทั้งหลาย จำนวนเก้าอี้ ส.ส.ในสภาฯ อาจต้องขยับขยายไปถึงระดับร่วมพันๆ เก้าอี้เอาเลยโน่นแหละ...

                                                                ------------------------------------------------------

      แต่ในเมื่อ ข้อเท็จจริง หรือโดย โลกแห่งความเป็นจริง...มันมีอยู่แค่ 500 เก้าอี้ ใครจริง-ใครไม่จริง ใครคุย-ใครโม้ ใครโอเวอร์-ไม่โอเวอร์ เอสติเมต อันนั้น...คงต้องอาศัย สติ และ ปัญญา ไปบวก-ลบ-คูณ-หารกันเอาเอง ส่วนที่ไม่ต้องเสียเวลาคุยโม้ คุยโต ไม่ต้องเสียเวลาวาดฝัน วาดหวัง อะไรต่อมิอะไรให้ต้องเมื่อยเนื้อ เมื่อยตัว โดยใช่เหตุ เพราะมีถึง 250 เสียงอยู่ในกระเป๋าเอกสารตัวเองอยู่แล้วแน่ๆ ก็คงหนีไม่พ้นไปจากท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ของเราผู้นี้นี่เอง!!! ที่แม้แต่ทุกวันนี้...ก็ยังไม่สามารถ ฟันธง ไม่สามารถหาข้อสรุปกันได้แบบชัดๆ จะจะ ว่าจะหันไปเอากับ พรรค ไหนกันแน่???

                                                                  -----------------------------------------------------

      แม้แต่พรรค พลังประชารัฐ ที่ท่านรองนายกฯ ป๋าดัน ท่านออกแรงดันมาโดยตลอดตั้งแต่ต้น แถมยังมี 4 กุมาร 4 รัฐมนตรีร่วมรับประกัน การันตี เอาไว้อีกต่างหาก ก็ยัง ไม่ถึงกับแน่ ว่าท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ท่านจะเจาะช่อง แหวกช่อง ไปในแนวนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างจึงยังคงเป็นไปตามแบบฉบับ ตามสไตล์ ลับ-ลวง-ครางง์ง์ง์ ที่ไม่ว่าใครก็ใคร คงต้องไป อ่านไพ่ กันเอาเอง แต่ไม่ว่าหน้าไพ่ใครต่อใครจะออกมาทางสเตรท ฟลัช, ฟูลเห่า (เฮาส์) ติดตอง หรือได้แค่คู่แปด คู่เก้า ฯลฯ บรรดาเซียนพนันทั้งหลาย ต่างก็เห็นพ้อง ต้องกัน ไปในแนวเดียวกันว่า ยังไงๆ...ก็คง บิ๊กตู่ นั่นแหละ ที่จะต้องผงาดขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่แล้วแน่ๆ เพราะมี เอซตัวที่ห้า อยู่ในมือมาแล้วตั้งแต่แรก...

                                                                    ----------------------------------------------------

      การหาทางกำหนด ปฏิสัมพันธ์ ระหว่างพรรคตัวเองกับ บิ๊กตู่ ภายหลังการเลือกตั้งผ่านพ้นไปแล้ว ว่าจะออกไปในแนวไหนต่อแนวไหนกันดี จึงถือเป็น ข้อเท็จจริง อันมิอาจปฏิเสธ จะใส่เกียร์เดินหน้า ชนให้แหลกลาญกันไปข้าง หรือจะหันไป เชลียร์ แบบชนิดเอาให้ขนติดปาก หรือจะออกไปทางต่อรอง ประนีประนอม จะโดยอาศัยประโยชน์ส่วนตัว หรือประโยชน์ส่วนรวมก็แล้วแต่ มาใช้เป็นบรรทัดฐาน อันนี้นี่แหละ...ที่น่าสนใจยิ่งกว่า เพราะมันเกี่ยวพันกับความสุข ความสงบเรียบร้อย ของบ้านเมืองมากกว่าการที่พรรคไหนจะได้กี่เสียง กี่เก้าอี้ ซึ่งมักไม่ได้เกี่ยวอะไรกับปุถุชนคนธรรมดาอย่างเราๆ-ทั่นๆ โดยทั่วไป...

                                                                   -------------------------------------------------------

      และถ้าหากอาศัยประโยชน์ส่วนรวม หรือ ผลประโยชน์บ้านเมือง เป็นที่ตั้ง...การกำหนด ปฏิสัมพันธ์ ที่ว่า อาจมีความหมายกว้างไกล เกินไปกว่าเรื่องพรรค เรื่องจำนวนเก้าอี้ หรือแม้แต่เรื่องอุดมคติ อุดมการณ์ เรื่องแนวทางแต่ละแนวทาง ฯลฯ เอาเลยก็ไม่แน่!!! เพราะมันอาจต้องขยายขอบเขตไปถึงเรื่องของการพังทลาย ล่มสลาย ของความสุข ความสงบเรียบร้อยในสังคม การนองเลือด-ไม่นองเลือด การปะทะแตกหักของแต่ละฝ่าย ไปจนแม้กระทั่งการแยกรัฐ แยกดินแดน ก็ใช่ว่าจะหมดสิ้น หมดสภาพลงไปซะเลย อันนี้นี่แหละ...ที่คงต้องคอยจับตาเอาไว้ให้จงหนัก!!! เพราะสุดท้าย...มันคงต้องเข้ามาเกี่ยวกับปุถุชนคนธรรมดา อย่างเราๆ-ทั่นๆ อย่างชนิดมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้...

                                                                  ---------------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Sanskrit saying... Rise and fall are properties of the big as wax and wane are of the moon; stars, however, suffer no change.- ความเจริญและความเสื่อม เป็นเรื่องของคนใหญ่ คนโต อุปมาดั่งพระจันทร์ซึ่งมีขึ้น มีแรม ส่วนดวงดาวทั้งหลาย หันได้ผันแปรไม่...

                                                                  ----------------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"