ม.44เลิก'สิทธิบัตรกัญชา' ภท.ดันแคลิฟอร์เนียโมเดล


เพิ่มเพื่อน    

    "บิ๊กตู่" ใช้ ม.44 แก้กฎหมายจดสิทธิบัตรกัญชา เปิดทาง "อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา" สั่งยกเลิกคำขอรับสิทธิบัตรสารสกัดธรรมชาติกัญชาเป็นองค์ประกอบและสารที่มีโครงสร้างทางเคมีเดียวกัน มีผลบังคับใช้ทันที "ภูมิใจไทย" จัดเสวนากัญชาเสรี ย้ำสิทธิบัตรต้องเป็นของคนไทย ชูแคลิฟอร์เนียโมเดลเปลี่ยนหลังบ้านเป็นแปลงสายเขียว มั่นใจช่วยคนจนมีรายได้ 4.2 แสนต่อปี
    เมื่อวันที่ 28 ม.ค. ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 136 ตอนพิเศษ 25 ง เผยแพร่คำสั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 1/2562 เรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยสิทธิบัตรและมาตรการด้านสิทธิบัตรเป็นกรณีพิเศษ โดยเนื้อหาส่วนสำคัญระบุว่า เป็นการสมควรที่จะกำหนดมาตรการด้านสิทธิบัตรเป็นกรณีพิเศษ เพื่อสนับสนุนและรองรับการอนุญาตให้นำกัญชามาวิจัยด้านการแพทย์ ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและสังคมในวงกว้าง อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 265 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 หัวหน้า คสช.โดยความเห็นชอบของ คสช.จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้
    ข้อ 1 เพื่อประโยชน์ในการพิจารณาตรวจสอบคำขอรับสิทธิบัตรตามคำสั่งนี้ การประดิษฐ์ดังต่อไปนี้ หากนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ให้ถือเป็นการประดิษฐ์ ที่ไม่ได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 9 (5)  แห่ง พ.ร.บ.สิทธิบัตร พ.ศ.2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.สิทธิบัตร (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 (1) การประดิษฐ์ที่มีกัญชา หรือสารสกัดธรรมชาติจากกัญชาเป็นองค์ประกอบ (2) สารที่มีโครงสร้างทางเคมีอย่างเดียวกันกับการประดิษฐ์ตาม (1) (3) เกลือ เอสเทอร์ และอีเทอร์ใดๆ ของสารตาม (2)
    ข้อ 2 เมื่อได้ประกาศโฆษณาคำขอรับสิทธิบัตรตามมาตรา 28 แห่ง พ.ร.บ.สิทธิบัตร พ.ศ.2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.สิทธิบัตร (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2542 สำหรับการประดิษฐ์ตามข้อ 1 แล้ว แต่ผู้ขอรับสิทธิบัตรไม่ได้ยื่นคำขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบการประดิษฐ์ ตามมาตรา 29 แห่ง พ.ร.บ.สิทธิบัตร พ.ศ.2522 หากปรากฏว่าคำขอรับสิทธิบัตรไม่ชอบด้วยมาตรา 9 (5) แห่ง พ.ร.บ.สิทธิบัตร พ.ศ.2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสิทธิบัตร (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 ให้อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา สั่งยกคำขอรับสิทธิบัตร หรือสั่งให้ผู้ขอรับสิทธิบัตร ตัดข้อถือสิทธิที่เป็นการประดิษฐ์ดังกล่าวภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งของอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา
    ข้อ 3 สิทธิของผู้ทรงสิทธิบัตรตามมาตรา 36 แห่ง พ.ร.บ.สิทธิบัตร พ.ศ.2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสิทธิบัตร (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 ยังคงอยู่ภายใต้บังคับกฎหมายอื่นใดที่มีข้อกำหนดเกี่ยวกับการควบคุม ผลิต ใช้ จำหน่าย นำเข้า ส่งออก หรือครอบครองซึ่งกัญชา หรือกรรมวิธีใดไว้เป็นการเฉพาะ ต้องได้รับการอนุมัติ หรืออนุญาตตามกฎหมาย 
    ข้อ 4 ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ มีการแก้ไขเพิ่มเติม เพื่อให้นำกัญชาไปทำการศึกษาวิจัยเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ได้ ให้ข้อ 1 และ ข้อ 2 ของคำสั่งนี้เป็นอันยกเลิก นับแต่วันที่กฎหมายดังกล่าวมีผลใช้บังคับ ทั้งนี้ ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบคำขอรับสิทธิบัตรที่ได้ยื่นไว้แล้วตามหลักเกณฑ์ วิธีการและขั้นตอนตามข้อ 1 และ 2 จนกว่าจะเสร็จ
    ข้อ 5 ให้ยกเลิกความในมาตรา 30 แห่ง พ.ร.บ.สิทธิบัตร พ.ศ.2522 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน  "มาตรา 30 เมื่อได้ประกาศโฆษณาตามมาตรา 28 และขอรับสิทธิบัตรได้ยื่นคำขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบการประดิษฐ์ตามมาตรา 29 แล้ว หรือในกรณีที่มีการคัดค้านตามมาตรา 31 ถ้าปรากฏว่าคำขอรับสิทธิบัตรนั้นไม่ชอบด้วยมาตรา 5 มาตรา 9 มาตรา 10 มาตรา 11 หรือมาตรา 14 ให้อธิบดีสั่งยกคำขอรับสิทธิบัตร และให้เจ้าหน้าที่แจ้งคำสั่งไปยังผู้ขอรับสิทธิบัตร รวมทั้งผู้คัดค้านในกรณีที่มีการคัดค้านตามมาตรา 31 และให้ประกาศโฆษณาคำสั่งนั้นตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง"
    ข้อ 6 คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับกับคำขอรับสิทธิบัตร ที่ได้ยื่นไว้ก่อนวันที่คำสั่งนี้มีผลใช้บังคับ และยังอยู่ระหว่างการพิจารณาตามสิทธิบัตร พ.ศ.2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติมด้วย ข้อ 7 ในกรณีที่เห็นสมควร  นายกรัฐมนตรีอาจเสนอให้ คสช.แก้ไขเปลี่ยนแปลงคำสั่งนี้ได้ ข้อ 8 คำสั่งนี้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป สั่งวันที่ 28 ม.ค.2562 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่จะมีคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 1/2562 เรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยสิทธิบัตรและมาตรการด้านสิทธิบัตรเป็นกรณีพิเศษ ประกาศออกมา ในเวลา 13.00 น. พรรคภูมิใจไทย (ภท) จัดการเสวนาในหัวข้อ "โอกาสของกัญชาไทย มิติเศรษฐกิจ และการแพทย์" โดยมีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย, นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ, นพ.สมยศ กิตติมั่นคง ผู้เขียนหนังสือกัญชา คือ ยารักษามะเร็ง และนายบัณฑูร นิยมาภา หรือหมอตู้ ปราชญ์ชาวบ้านด้านกัญชา ร่วมเสวนา
      โดยวงเสวนาเห็นว่า กฎหมายดังกล่าวยังไม่ครอบคลุมศักยภาพด้านอื่นของพืชกัญชา เพราะหากเปิดให้ประชาชนสามารถปลูกกัญชาได้อย่างเสรี กัญชาจะกลายเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่สามารถแก้ปัญหาความยากจนของคนไทย และเชื่อว่าภายในระยะเวลา 5-10 ปีจะทำให้เกษตรกรไทยปลดหนี้  เพราะกัญชาสายพันธุ์ไทยถือว่ามีคุณภาพดีเป็นอันดับ 1 ของโลก และสภาพภูมิประเทศของไทยเอื้ออำนวยต่อการปลูกกัญชา จึงมีความฝันว่าอยากเห็นประเทศไทยเป็นศูนย์กลางกัญชาโลก
    นายศักดิ์สยามกล่าวว่า สิทธิบัตรกัญชาควรเป็นของคนไทยทั้งประเทศ โดยรัฐบาลต้องเป็นผู้รับจดสิทธิบัตร ดังเช่นแคลิฟอร์เนียโมเดล ที่ประชาชนมีสิทธิถือครองกัญชาจำนวน 6 ต้นต่อครอบครัว ในราคาต้นละประมาณ 30 บาท โดยไปขอจากรัฐบาล ซึ่งมีการประเมินว่ากัญชา 1 กิโลกรัมมีราคา  70,000 บาท เมื่อ 1 ครอบครัวปลูก 6 ต้น ก็จะมีรายได้ 420,000 บาทต่อปี แต่หากผู้ใดประสงค์จะดำเนินการในเชิงพาณิชย์ รัฐบาลต้องมีการเปิดประมูลเช่นเดียวกับการประมูลคลื่นสัญญาณโทรศัพท์มือถือเพื่อให้ผลประโยชน์ตกแก่ประเทศ  
    "พรรคภูมิใจไทยได้ร่างกฎหมายแก้ไข พ.ร.บ.ยาเสพติด 2522 เสร็จเรียบร้อยแล้ว มีสาระสำคัญคือให้มีการปลูกกัญชาได้เสรี ซึ่งหากพรรคภูมิใจไทยได้เป็นแกนนำรัฐบาลก็จะผลักดันกฎหมายดังกล่าวทันที หรือหากไม่ได้เป็นแกนนำ พรรคไหนที่จะชวนพรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาลต้องรับนโยบายดังกล่าวด้วย และถ้าไม่รับเราก็ไม่ร่วม" เลขาฯ พรรคภูมิใจไทยระบุ
    เช่นเดียวกับนายชัชวาลย์ คงอุดม หรือชัช เตาปูน หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท กล่าวตอนหนึ่งระหว่างเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคใน 20 จังหวัดภาคอีสาน ที่โรงแรมลายทอง อ.เมืองอุบลราชธานี ว่าพรรคจะผลักดันนโยบายที่ดินของรัฐ 1 ล้านไร่ เพื่อให้รัฐบาลร่วมกับชุมชนจัดทำโครงการเพาะปลูกกัญชาและกระท่อม เพื่อผลิตเป็นอาหารปลอดภัยและสมุนไพร และจัดตั้งบริษัทตำบลฯ 
    "นโยบายนี้จะสามารถสร้างรายได้ และส่งผลให้คนไทยมีอาหารและสมุนไพรปลอดภัยบริโภค พร้อมขยายผลสู่อาหารไทยไปทั่วโลก ที่สำคัญนโยบายนี้มั่นใจว่าจะสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงระดับชุมชน และเชื่อว่าจะสามารถนำคนอีสานกลับบ้านเกิดได้ภายใน 3 ปี จะมีคนอีสานได้กลับบ้านไม่น้อยกว่า 500,000 คน" หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไทกล่าว
    ส่วนนายเกรียงไกร ภูมิเหล่าแจ้ง รองหัวหน้าพรรคท้องถิ่นไท กล่าวว่า พรรคมีแนวทางชัดเจนที่จะนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยแก้ไขปัญหาความยากจน ในอดีตที่ผ่านมาเป็นเพียงการให้ไม่เน้นการสร้างรายได้อย่างจริงจัง และเป็นต้นเหตุที่ทำให้คนไทยส่วนใหญ่ไม่หายจน โดยพรรคจะผลักดันความพร้อม ตั้งแต่ระบบการเพาะปลูก การประกันสินค้า การแปรรูป การตลาด และการเพิ่มกำลังซื้อสินค้าจากชุมชน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"