บิ๊กตู่ป้องนาฬิกาหรูเรื่องเล็ก


เพิ่มเพื่อน    

    "บิ๊กตู่" ป้อง "ป้อม" นาฬิกาหรูเรื่องเล็ก  ไม่เกี่ยวดัชนีโปร่งใสไทยร่วง อ้างมาจากสถานะรัฐบาล  ดีเอสไอล่าตัว "พ่อศิธา" หนีคดีฟอกเงินกรุงไทย ยังไม่พบร่องรอยเลขาฯ หญิงอ้อกับสามี คาดใช้พาสปอร์ตสัญชาติอื่น
     เมื่อวันที่ 31 มกราคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International หรือ TI) ประกาศค่าคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (CPI) ปี 2018 ของประเทศไทยได้ 36 คะแนน อยู่ลำดับที่ 99 จาก 180 ประเทศทั่วโลก ลดลงจากปีก่อนที่ได้ 37 คะแนน อยู่อันดับที่ 96 ของโลก ว่ารัฐบาลไม่ต้องวางมาตรการอะไรเพิ่มเติม เพราะวางไว้หมดแล้ว เพียงแต่มาดูว่าที่อันดับตกลง ตกตรงไหนอย่างไร สิ่งหนึ่งที่เขามองอยู่คือการเป็นรัฐบาลแบบนี้ จะตรวจสอบได้หรือตรวจสอบไม่ได้ แต่ตนเห็นว่าตรวจสอบได้ทุกองค์กร เมื่อเขาตรวจสอบผลออกมา "อย่างไรก็ต้องยอมรับกันบ้าง หากตรวจสอบแล้วไม่ยอมรับกันเลย เพราะผลสอบไม่เข้าข้าง เวลาตรวจสอบตัวเองไม่มีปัญหาก็ชอบ แต่บางอย่างเมื่อตรวจสอบแล้วไม่มีปัญหาก็บอกว่าไม่เป็นธรรม คนที่ตรวจสอบเขาก็ทำงานไม่ได้ สิ่งเหล่านี้ถูกนำไปประเมินอีกทางหนึ่ง ผมเองไม่ได้ทำประโยชน์อะไรของตัวเองสักอย่าง อย่างน้อยคะแนนผมก็เต็มตรงนี้ ให้ผมไหม” นายกฯ ระบุ
    เมื่อถามว่า ส่วนหนึ่งที่อันดับของไทยตกลง เป็นผลมาจากกรณีนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และกลาโหม หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “โอ๊ย มันเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แล้วเขาตัดสินมาหรือยัง เมื่อตัดสินแล้วก็จบ ให้จบๆ ไปเป็นเรื่องๆ บ้าง แล้วคดีใหญ่ๆ บางคดีมันก็จบไม่ใช่หรือ ทั้งๆ ที่ขัดแย้งต่อสายตาประชาชน มันก็จบใช่หรือไม่ ของไอ้คนหนีคดีก็หลายเรื่องก็จบ ทำไมไม่ดูตรงนู้น เชื่อมั่นกันหน่อยสิ ดูหลักฐานแนวทางที่เขาตรวจสอบ”
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “นโยบายรัฐบาลในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากของประเทศไทย” ตอนหนึ่งว่า การแก้ปัญหาทุจริต ทั้งหมดต้องกล้าแสดงออก กล้าแจ้งความ ไม่ต้องกลัว เราจะไปกลัวคนไม่ดีทำไม แต่คนดีๆ กลับไม่กลัว และไม่ต้องมากลัวตนทั้งสิ้น เพราะทำให้พวกท่านคนจน ทั้งนี้ อย่าให้ใครมาใช้ประโยชน์จากความบริสุทธิ์ใสซื่อของท่านไปเป็นประโยชน์ทางการเมืองโดยเด็ดขาด 
    วันเดียวกัน พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีสำนักงานอัยการสูงสุดเตรียมประสานให้ดีเอสไอติดตามตัว นายมานพ ทิวารี ผู้ต้องหาคดีฟอกเงินจากการทุจริตอนุมัติเงินกู้ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ให้กับเครือกฤษดามหานครว่า หลังได้รับหนังสือประสานความร่วมมืออย่างป็นทางการจากสำนักงานอัยการสูงสุด จะส่งเรื่องให้ฝ่ายสืบสวนติดตามตัวนายมานพ ซึ่งได้รับการประกันตัวในชั้นการสอบสวนของอัยการ โดยข้อมูลเบื้องต้นปรากฏว่า นายมานพขออนุญาตเดินทางไปเมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ซึ่งจะต้องตรวจสอบว่าหลังเดินทางออกนอกประเทศแล้ว นายมานพได้กลับเข้ามาในประเทศไทยบ้างหรือไม่ หากไม่เคยกลับเข้าประเทศไทยเลย ดีเอสไอจะร้องขอให้ศาลอนุมัติหมายจับและเริ่มกระบวนการขอตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน
    อธิบดีดีเอสไอยังกล่าวถึงการติดตามตัวนางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขานุการส่วนตัวของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร และนายวันชัย หงษ์เหิน ผู้ต้องหาอีก 2 ราย ในคดีฟอกเงินจากการทุจริตปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทยว่า ดีเอสไอยังอยู่ระหว่างติดตามตัว แต่ปรากฏข้อมูลครั้งสุดท้ายว่านางกาญจนาภาและนายวันชัย ซึ่งได้รับการประกันตัวในชั้นสอบสวนของอัยการได้ออกเดินทางจากไทยไปยังเกาะฮ่องกง จากนั้นก็ไม่ปรากฏร่องรอยใดๆ อีก คาดว่าบุคคลทั้ง 2 เปลี่ยนไปใช้พาสปอร์ตสัญชาติอื่นทำให้ติดตามตัวไม่ได้.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"