ไทยโพสต์ “อิสรภาพแห่งความคิด” www.thaipost.net วันนี้ถือเป็นวันสำคัญที่มีผลต่อทิศทางและอนาคตของประเทศไทย หลังเมื่อวานที่ผ่านมา เกิดกระแสข่าวลือออกมามากมายในหมู่คนเสื้อแดง จนขยายใหญ่โตทำให้ทุกภาคส่วนติดตามดูอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะ “แคนดิเดตนายกฯ” ของพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ที่มีคิวเปิดตัวก่อนเดดไลน์คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่กี่ชั่วโมง รวมถึงในช่วงเช้าที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะคลายคำตอบออกมาว่า จะ “เซย์เยส” หรือ “เซย์โน” กับคำเชิญนั่งบัญชีรายชื่อนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งช่วงเย็นเมื่อวานที่ผ่านมา มีรายงานว่า “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” ออกมาประกาศว่า สนับสนุน “บิ๊กตู่” ทำให้เหลือผู้นำคนเดียวโดด การเปิดตัวผู้นำของ “ทษช.” และ “พปชร.” จึงเป็นไฮไลต์ของวัน แต่จะเป็นข่าวดีของประชาชนหรือเปล่าต้องรอลุ้นกัน วนกลับไปที่พรรค พปชร. สำหรับรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ถือว่าเป็นที่สุดแล้ว หลังก่อนหน้านี้ฝุ่นตลบอบอวล เปลี่ยนไป เปลี่ยนมากันทั้งสัปดาห์ สุดท้ายเป็น “เดอะตั้น” ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรค ปาดหน้า “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” แกนนำพรรค ขึ้นไปอยู่ลำดับที่ 1 ขณะที่รายหลังร่นมาอยู่ลำดับที่ 2 ส่วนลำดับ 3 เป็น “เดอะบี” พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ และลำดับ 4 เป็น “สมศักดิ์ เทพสุทิน” แม้จะอยู่ในลำดับที่ปลอดภัย มีโอกาสได้เป็น ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์สูง จากการคาดคะเนว่า ลำดับที่ 1–30 ถือเป็น “เซฟตี้โซน” แต่อาจกลายเป็นบาดแผลให้ต้องกินแหนงแคลงใจกันภายในพรรค เพราะบรรดาสมาชิกใน “กลุ่มสามมิตร” ก็รู้สึกเสียเซลฟ์ เพราะชื่อชั้น “สุริยะ”ทางการเมืองถือว่าเหนือกว่า “ณัฏฐพล” อีกทั้งโอกาสที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตในกลุ่มสามมิตรจะเข้าสภามีมากกว่ากลุ่มอื่นๆ ถ้าเทียบปริมาณกัน แต่สุดท้ายมาแพ้พลังภายในของ “ผู้มากบารมีนอกพรรค” งานนี้มีโอกาส “สนิมเกิดแต่ในเนื้อ” ในอนาคตแน่ ส่วนลำดับ 1–30 ของพรรค พปชร. ถ้ามองในภาพรวมถือว่าไกล่เกลี่ยกันให้ทุกกลุ่มอย่างเสมอภาค ไม่ว่าจะเป็นสายนายสมคิด, กลุ่มสามมิตร, อดีตแกนนำ กปปส., กลุ่มโคราช, กลุ่มขอนแก่น, กลุ่มกำแพงเพชร, กลุ่มเพชรบูรณ์, กลุ่มชลบุรี, กลุ่มขอนแก่น, กลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เรียกว่า เข้ามาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยกันหมด ...0 แม้จะซาๆ ไป หลังกระแสข่าวแคนดิเดตนายกฯ ของ ทษช.แย่งซีน ได้รับความสนใจกว่า แต่กรณี “ฮาคีม อัล โอไรบี” นักฟุตบอลบาห์เรนที่ถูกคุมตัว ยังถูกจับตามองจากหลายภาคส่วนอยู่ว่า สุดท้ายไทยที่ยืนอยู่กลางเขาควายจะทำอย่างไร ตอนนี้มีแบ่งเป็น 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายที่ “บอยคอตไทยแลนด์” กับ “เซฟไทยแลนด์” โต้เถียงกันทางโซเชียลมีเดียอย่างดุเดือด แม้กระทรวงการต่างประเทศจะชี้แจงอย่างละเอียดยิบ แต่ยังมีบางฝ่ายที่ต้องการให้ไทยปล่อยตัว “ฮาคีม” ให้กับ “ออสเตรเลีย” ทันที เรื่องนี้ถ้าลดเรื่องการเมือง ไม่ใช้อารมณ์ จะเห็นว่า กระทรวงบัวแก้วไม่ได้นิ่งนอนใจ และกำลังรักษานโยบายการต่างประเทศที่ทำกันมานานนมตั้งแต่อดีตไม่ว่ายุคไหนคือ “ไม่เป็นศัตรูกับใคร” ดูจากท่าทีของ “ดอน ปรมัตถ์วินัย” รมว.ต่างประเทศ วันก่อนยิ่งแจ่มชัดว่า เรายังคงคอนเซ็ปต์นั้นอยู่ แม้อาจไม่ทันใจบางฝ่าย คือ ให้ “บาห์เรน” กับ “ออสเตรเลีย” ไปพูดคุยกัน ส่วนเราพร้อมอำนวยความสะดวกทุกอย่าง นั่นแสดงให้เห็นว่า เราจะยังไม่ส่งไปให้ใครทั้งนั้นในตอนนี้หากยังไม่ได้ข้อสรุป เพราะทั้ง “บาห์เรน” และ “ออสเตรเลีย” ถือเป็นเพื่อนของ “ไทย” ทั้งคู่ โดยเมื่อปี 2560 “บิ๊กตู่” เพิ่งจะเดินทางไปเยือนบาห์เรนตามคำเชิญของ “เจ้าชายคอลิฟะห์ บิน ซัลมาน อัล คอลิฟะห์” นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรน ในโอกาสสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและบาห์เรน ครบรอบ 40 ปี ขณะที่เมื่อปี 2561 “บิ๊กตู่” ก็เพิ่งจะเดินทางไปประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย สมัยพิเศษปี 2018 ที่นครซิดนีย์ “ออสเตรเลีย” และได้หารือทวิภาคีกับ “มัลคอล์ม เทิร์นบูล” นายกฯ ของออสเตรเลีย อีกทั้งในช่วงการช่วยเหลือ 13 เยาวชนและโค้ชทีมหมูป่าฯ ออกจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ก็มีนักดำน้ำจากเมืองจิงโจ้มาช่วย ดังนั้น ไทยเราไม่ยอมหักกับใครแน่นอน และที่ผ่านมาเราเอาตัวรอดจากสถานการณ์แบบนี้มาได้เสมอ …๐
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |