บี้ปมหัวหน้าคสช.ชิงนายกฯ


เพิ่มเพื่อน    

    พปชร.ปล่อยรถแห่ปูพรมทั่วกรุง เตรียมใช้รูป "บิ๊กตู่" หาเสียง โวผลงานชัดเจน เชื่อได้คนตอบรับ วอนอย่าเลือกสายพันธุ์โกงบริหารบ้านเมือง "มาร์ค" กระทุ้งวางตัวให้เหมาะสม ทษช.ร้องบ้าง! ยื่น กกต.สอบ "ประยุทธ์" ขาดคุณสมบัติบัญชีนายกฯ "ธีระชัย" ชี้ปมหัวหน้า คสช.เข้าข่ายเจ้าหน้าที่รัฐ 
    ที่บริเวณลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ เวลา 08.00 น. นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.),  นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค, นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรค, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค, นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค, นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ กรรมการบริหารพรรค พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 30 เขต ร่วมปล่อยขบวนรถแห่ในเขตกรุงเทพมหานครทั้ง 30 เขต 
    นายอุตตมกล่าวว่า จากนี้ไปขอให้เดินติดดิน เคาะทุกบ้าน พวกเราขอมาอาสาให้ชาว กทม. เปลี่ยนแปลงชีวิตคนกรุงเทพฯ ให้ดีขึ้นด้วยตัวพวกเราและนโยบาย ที่สำคัญ ยืนยันว่าทุกคนในพรรคยืนข้างความถูกต้อง ไม่ทำในสิ่งไม่บังควรเป็นอันขาด วันนี้เราพร้อมเดินหน้าไปเต็มตัว ให้เราได้รับใช้พี่น้องประชาชนในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านนี้ไปสู่ชีวิตที่ดีกว่า ก้าวหน้า ยั่งยืน โดยการที่เราไปรวมตัวที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อแสดงความมุ่งมั่นว่าเรายืนข้างประชาธิปไตยที่เป็นของคนไทย ไม่ใช่ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง 
    จากนั้นขบวนได้เคลื่อนไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก่อนที่รถแห่แต่ละคันจะแยกย้ายไปตามเขตของตัวเอง ซึ่งนายพุทธิพงษ์กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า วันนี้เรารู้หมดแล้วใครทำไม่ดีกับประเทศ เราขอสู้แทนประชาชน เราเดินมาไกล และจะไม่ถอยหลังแล้ว ขอทุกคนอย่าลังเล และตัดสินใจเดินเคียงข้าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใครทำร้ายประเทศเราสู้ไม่ถอย และจะเดินหน้าประเทศไทยไปด้วยกัน
    ต่อมา หัวหน้าพรรค พปชร.ให้สัมภาษณ์กรณีกรอบการหาเสียงของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าคงต้องพิจารณาว่า พล.อ.ประยุทธ์จะปฏิบัติตัวอย่างไรให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์กติกาของการเลือกตั้ง อะไรทำได้หรือไม่ได้ ซึ่งมีผู้ที่ดูแลในเรื่องนี้อยู่ อะไรที่ไม่สามารถทำได้เราจะไม่ทำ ส่วนการขึ้นภาพ พล.อ.ประยุทธ์บนป้ายหาเสียงสามารถทำได้ และมีผู้สมัครบางส่วนได้เริ่มทำแล้ว
    เมื่อถามว่า ปัจจัยที่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบรับให้เสนอชื่อเป็นนายกฯ ในบัญชี มีปัจจัยอื่นนอกเหนือจากนโยบายพรรคหรือไม่ นายอุตตมกล่าวว่า นายกฯคงพิจารณาจากปัจจัยที่เกี่ยวข้องประกอบกัน นโยบายถือเป็นเรื่องหนึ่ง แต่ยังมีเรื่องของบุคลากรคนของพรรค เชื่อว่าได้พิจารณาในส่วนนี้ด้วย รวมถึงแนวทางการทำงานในการเข้าถึงประชาชน ซึ่งนโยบายพรรคไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ยังคงเป็นแนวทางที่มุ่งไปสู่การคงไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมือง และนำพาประเทศในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้
    อย่างไรก็ตาม พรรคได้ขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ได้กรุณาให้ความไว้วางใจรับคำเชิญของพรรคมาร่วมทำงาน เราเดินหน้าเหมือนเดิมทุกอย่าง พรรคมีเป้าหมาย นโยบาย ยุทธศาสตร์ คนของเราเดินหน้าเต็มที่ ส่วน พล.อ.ประยุทธ์จะนำใครเข้ามาช่วยงานหรือไม่ เป็นเรื่องที่ดี พล.อ.ประยุทธ์จะพิจารณา แต่ในส่วนของพรรค คงจะได้มีโอกาสหารือกับท่านแน่นอน แต่ขณะนี้ยังไม่ได้มีการนัดหมายเข้าไปพูดคุย
อย่าเลือกพันธุ์โกงกลับมา
    นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้อยากวิงวอนพี่น้องประชาชนทั่วประเทศว่า อย่าเลือกกลุ่มการเมืองที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตโกงชาติโกงแผ่นดินให้เข้ามาบริหารประเทศเด็ดขาด เพราะที่ผ่านมาบ้านเมืองเสียหายมามากแล้ว อย่าให้สายพันธุ์การทุจริตเข้ามาบริหารประเทศ ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองจะเกิดความเสียหายเหมือนในอดีต และจะนำไปสู่ความความขัดแย้งอีก พปชร.จะเป็นทางเลือกและทางหลักของพี่น้องประชาชนในการนำพาประเทศเดินไปข้างหน้า ที่สำคัญคือ พล.อ.ประยุทธ์มีผลงานที่ชัดเจน มีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ และไม่เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับจากพี่น้องประชาชนทั่วประเทศและจะทำให้กระแสพรรคดีขึ้นอย่างมาก นำไปสู่ชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างแน่นอน
    ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่เขตลาดกระบัง ช่วยนายอนันต์ ฤกษ์ดี ผู้สมัครสมัคร ส.ส.หมายเลข 9 หาเสียงย่านตลาดบวร ร่มเกล้า และตลาดเกรียงไกร เขตลาดกระบัง โดยกล่าวถึงกรณีการวางตัวของ พล.อ.ประยุทธ์หลังจากตอบรับให้เสนอชื่อในบัญชีนายกฯ ของ พปชร. ว่า พล.อ.ประยุทธ์ต้องทำให้ทุกฝ่ายเกิดความมั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งที่เป็นธรรม เพราะพล.อ.ประยุทธ์ยังดำรงตำแหน่งอยู่ และถืออำนาจพิเศษ เพราะฉะนั้นจึงเป็นภาระของท่านจะต้องทำอย่างไรให้คนมั่นใจว่าจะไม่มีการใช้สถานะต่างๆ ให้เกิดความได้เปรียบ 
    ส่วนการจะใช้เวลาราชการไปหาเสียงได้หรือไม่นั้น ในอดีตนอกเวลาราชการสามารถทำได้ ซึ่งค่อนข้างเป็นปัญหาเล็ก แต่ปัญหาที่ใหญ่กว่าคือทำอย่างไร ไม่ให้การเดินหาเสียง หรืออะไรก็ตามไปเกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจ หรือเกี่ยวข้องกับการใช้ทรัพย์สินบุคลากรของรัฐซึ่งเป็นเรื่องที่ยากกว่า แล้วประเด็นนี้ยังถือว่าเล็กกว่าการถืออำนาจตามมาตรา 44 ซึ่งสามารถใช้ได้โดยไม่มีขอบเขต ในแง่ที่จะกระทบกับการเลือกตั้ง เพราะเคยใช้ไปแล้ว     
    "จึงอยู่ที่เจ้าตัวมากกว่าว่าจะแสดงท่าทีอย่างไรให้เหมาะสม ให้การเลือกตั้งที่เกิดขึ้นทุกฝ่ายเกิดความมั่นใจ เพราะเรื่องนี้เป็นผลประโยชน์ของประเทศ ไม่ใช่ผลประโยชน์ของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด การเลือกตั้งที่จะให้ทั่วโลกและคนไทยทั้งหมดมั่นใจในเรื่องของความเสรีเป็นธรรม จึงจะเป็นการเรียกศรัทธาและความเชื่อมั่นของทุกฝ่ายคืนกลับสู่ระบอบประชาธิปไตย ดังนั้น ท่านก็ควรจะไปพิจารณาว่าควรจะทำอย่างไร" นายอภิสิทธิ์ระบุ
    เมื่อถามย้ำว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์ยังคงใช้ตำแหน่งหน้าที่ความเป็นนายกฯ อาจทำให้ได้เปรียบพรรคการเมืองอื่นได้ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีอะไร แต่การมีสถานะและอำนาจตรงนี้ พล.อ.ประยุทธ์ควรแสดงท่าทีให้ชัดเพื่อให้ทุกฝ่ายมั่นใจ
    นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ยังได้กล่าวถึงข้อเสนอของพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เสนอให้มีรัฐบาลเฉพาะกาลว่า เห็น พล.อ.ชวลิตเสนอมาหลายอย่างแล้ว แต่วันนี้สังคมไทย ประชาชนกำลังเดินหน้าตามกระบวนการตามรัฐธรรมนูญ ทุกฝ่ายยังสามารถเดินหน้าได้ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ทำให้เห็นแล้วว่าเราสามารถตั้งหลักและเดินไปได้ เพราะเรายึดหลักการ
    ขณะที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคไทยรักษาชาติ เปิดเผยว่า ในวันที่ 11 ก.พ. เวลา 13.00 น. จะไปยื่นให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาไม่ประกาศรายชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อจากพรรคพลังประชารัฐให้เป็นนายกฯ เนื่องจากขาดคุณสมบัติ ที่จะเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อ เนื่องจากต้องยื่นเอกสารตามที่ กกต.กำหนด 2 แบบ คือแบบ ส.ส. 4/29 ที่หัวหน้าพรรคต้องลงนามรับรองว่าการคัดเลือกได้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมืองและข้อบังคับของพรรคการเมือง และแบบ ส.ส. 4/30 ที่ พล.อ.ประยุทธ์ต้องลงนามรับรองว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามที่จะเป็นนายกฯตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ
ร้องบิ๊กตู่ขาดคุณสมบัติ
    ทั้งนี้ จากที่ตนตรวจสอบข้อบังคับพรรค พปชร. ข้อ 91 (1)  พบว่า การเสนอชื่อบุคคลคือ พล.อ.ประยุทธ์นั้น จะต้องให้ พล.อ.ประยุทธ์มีหนังสือยินยอมก่อน และข้อ 91 วรรคสอง ระบุไว้ว่า การเสนอชื่อบุคคลใดที่มิได้เป็นไปตามวรรคหนึ่ง ให้ถือว่าไม่มีการเสนอชื่อบุคคลนั้น โดยที่ประชุมพรรค พปชร.เห็นชอบเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์วันที่ 30 ม.ค.2562 ต่อมาพล.อ.ประยุทธ์ได้ยินยอมและตอบรับการเสนอชื่อวันที่ 8 ก.พ.2562 จึงเห็นได้ว่า พปชร.พิจารณาคัดเลือกพล.อ.ประยุทธ์ไปก่อนที่จะมีหนังสือยินยอมจาก พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เป็นไปตามข้อบังคับพรรค พปชร. ข้อ 91 วรรคสอง
         นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังอาจเป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามที่จะเป็นนายกฯ ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) (12) และ (15) ด้วย เนื่องจากมาตรา 98 (3) ห้ามเป็นเจ้าของสื่อมวลชนใดๆ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ถูกร้องว่า เป็นเจ้าของสื่อออนไลน์หลายชนิด และยังมีฐานะเป็นหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มีอำนาจตามมาตรา 44 และได้รับเงินตอบแทนอีกเดือนละ 125,590 บาท จึงอาจเข้าลักษณะเป็นข้าราชการหรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐตามความในมาตรา 98 (12) และ (15) 
    นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้แสดงความเห็นทางเฟซบุ๊กเรื่อง “พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะหัวหน้า คสช. ผิดรัฐธรรมนูญหรือไม่?" โดยระบุถึงประเด็นที่นายเรืองไกรจะร้องให้ กกต.สอบในประเด็นที่ พล.อ.ประยุทธ์พ่วงฐานะหัวหน้า คสช.ว่า การเป็นหัวหน้า คสช.ถือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐหรือไม่ หากเป็นก็อาจจะหมดสิทธิ์ ซึ่งพบว่าศาลรัฐธรรมนูญได้เคยมีคำวินิจฉัยที่ 5/2543 (รัฐธรรมนูญ 2540 มาตรา 109 (11)) หมายความว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เรียกชื่ออย่างอื่น ซึ่งมีสถานะ ตำแหน่งหน้าที่ หรือลักษณะงานทำนองเดียวกันกับพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือของราชการส่วนท้องถิ่น โดยมีลักษณะดังต่อไปนี้
    1.ได้รับแต่งตั้งหรือเลือกตั้งตามกฎหมาย 2.มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการหรือหน้าที่ปฏิบัติการให้เป็นไปตามกฎหมาย หรือปฏิบัติงานประจำ 3.อยู่ในบังคับบัญชาหรือในกำกับดูแลของรัฐ 4.มีเงินเดือน ค่าตอบแทน ค่าจ้าง ตามกฎหมาย ทั้งนี้ คสช.นั้นมีการแต่งตั้งตามประกาศคณะปฏิวัติและยืนยันในรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 และมีอำนาจใช้มาตรา 44 จึงอาจจะเข้าลักษณะเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ เรื่องนี้เป็นปัญหา เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ไม่ต้องการมีช่องว่างในการควบคุมอำนาจ จึงไม่ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้ารัฐบาลและหัวหน้า คสช. แต่เนื่องจากรัฐธรรมนูญยกเว้นเฉพาะกรณีตำแหน่งข้าราชการทางการเมือง ดังนั้น ท่านอาจจะเจอปัญหาขาดคุณสมบัติจากตำแหน่งหัวหน้า คสช.ก็ได้
    พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการรณรงค์หาเสียงของพรรคว่า หากนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ได้มีโอกาสดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หรือพรรคภูมิใจไทยได้เป็นรัฐบาล จะเสนอให้มีการประชุม ครม.สัญจรทุกสัปดาห์ หรือจัดให้บ่อยที่สุด ไม่จำเป็นต้องประชุมที่ทำเนียบรัฐบาลตลอด เพราะการที่นายกฯ ลงไปประชุม ครม.ในต่างจังหวัดจะเกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่ มีโอกาสเข้าไปรับรู้ปัญหาโดยตรงจากพื้นที่ นำงบประมาณลงไปพัฒนาพื้นที่นั้นๆ สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด
    ที่สวนหลวง ร.9 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมนายมณฑล โพธิ์คาย ผู้สมัคร ส.ส.เขต 20 กรุงเทพฯ (สวนหลวง ประเวศ), น.ส.ณิชชา บุญลือ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 13 กรุงเทพฯ (บางกะปิ วังทองหลาง) ชวนประชาชนในพื้นที่วิ่งออกกำลังกาย พร้อมชูนโยบายรัฐสวัสดิการและการดูแลผู้สูงอายุ โดยได้รับการต้อนรับจากประชาชนที่ออกกำลังกายและมาขอถ่ายรูปเป็นจำนวนมาก
    พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวระหว่างขึ้นเวทีปราศรัยช่วยผู้สมัครหาเสียงที่สนามจำปากอ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ว่า มั่นใจว่าผู้สมัคร ส.ส. 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้ง 11 เขตจะได้เป็น ส.ส.ทั้งหมด เพราะไม่ได้เป็นที่นิยมเฉพาะตัวบุคคล แต่นโยบายพรรคตรงกับความต้องการของประชาชนด้วย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"