"รำไท้เก๊กเพื่อการกุศล" ได้บุญแข็งแรงทั้งกาย-ใจ


เพิ่มเพื่อน    

      ได้ทั้งทำบุญและสุขภาพดีในคราวเดียวกัน สำหรับ กิจกรรมรำไท้เก๊กเพื่อการกุศล ที่จัดขึ้นโดยห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ เป็นครั้งแรก ส่วนหนึ่งเพื่อส่งเสริมสุขและการแบ่งปัน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ทว่าก็อุ่นหนาฝาคั่งไปด้วยกลุ่มวัยเก๋ารักสุขภาพที่สนใจมาร่วมกิจกรรมกันไม่น้อย ที่สำคัญแต่ละคนก็ได้เตรียมสิ่งของเพื่อนำมาบริจาคให้กับ มูลนิธิปันกัน เพื่อสนับสนุนการศึกษาของน้องๆ ที่ขาดโอกาส ภายใต้ มูลนิธิยุวพัฒน์ และอย่างที่รู้กันดีว่า ประโยชน์ของท่ากายบริหารดังกล่าวไม่เพียงเหมาะกับผู้สูงวัย แต่ยังช่วยฝึกสมาธิไปในคราวเดียวกัน ไม่รอช้า มีคำบอกเล่าจากวัยเก๋าที่มาร่วมกิจกรรม อธิบายถึงประโยชน์ของการออกกำลังกายด้วย การรำไท้เก๊ก ซึ่งได้จากงานที่จัดขึ้นไว้น่าสนใจ

สุณีย์ วัชรินทร์ธาดา (ซ้าย), อุทุมพร รักษา ทิพย์ (ขวา)

      เริ่มกันที่ คุณป้าสุณีย์ วัชรินทร์ธาดา วัย 73 ปี ที่ปกติเคยออกกำลังกายด้วยไท้เก๊กมาก่อนแล้ว บอกว่า ส่วนตัวก็เคยรำไท้เก๊กมาก่อนแล้ว แต่ปัจจุบันออกกำลังกายด้วยการเต้นแอโรบิกด้วยเช่นกัน อันที่จริงแล้วทุกการออกกำลังกายก็ดีต่อสุขภาพค่ะ แต่ในส่วนความแตกต่างระหว่างไท้เก๊กและแอโรบิกคือ ไท้เก๊กนั้น คนทุกเพศทุกวัยสามารถเล่นได้หมดค่ะ และก็ไม่ได้หนักจนเกินไปสำหรับผู้อายุสูง หรือเป็นกายบริหารที่เบาๆ ช้าๆ แต่ได้เหงื่อ และยังช่วยทำให้ระบบเผาผลาญไขมันทำงานได้ดีค่ะ รวมถึงจากประสบการณ์ส่วนตัวที่ได้ฝึกไท้เก๊กบ่อยๆ ก็ทำให้อาการหายปวดหัวดีขึ้นค่ะ

      เป็นอีกหนึ่งคนรักสุขภาพซึ่งอยู่ย่านรัตนาธิเบศร์ ที่มาเอกเซอร์ไซส์เต้นแอโรบิก ซึ่งจัดโดยห้างเซ็นทรัลเป็นประจำ อย่าง คุณป้าอุทุมพร รักษาทิพย์ บอกว่า กิจกรรมรำไท้เก๊กที่จัดขึ้นได้ทั้งสุขภาพดี และได้ทำบุญในคราวเดียวกัน คิดว่ากิจกรรมรำไท้เก๊กที่จัดขึ้นทำให้เราได้มีสุขภาพที่ดีค่ะ เป็นท่าออกกำลังกายที่เหมาะกับคนสูงวัยมาก แม้ว่าจะเป็นท่ากายบริหารที่ช้า แต่เมื่อออกกำลังแล้วช่วยทำให้หายใจได้โล่งขึ้น ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการฝึกลมหายใจเข้า-ออกได้เป็นอย่างดี และหลังจากฝึกก็ทำให้มีสมาธิมากขึ้นค่ะ ที่สำคัญยังได้พบปะเพื่อนใหม่ๆ ด้วย นอกจากนี้ยังได้ช่วยทำบุญกับน้องๆ ด้อยโอกาสจากมูลนิธิยุวพัฒน์ด้วยค่ะ เพราะได้นำเอาปิ่นโตและแก้วน้ำเป็นชุดมาบริจาคให้กับ มูลนิธิปันกัน ค่ะ

(ป้าติ้ง)

      ด้าน คุณป้าติ้ง วัย 60 ปี เจ้าของธุรกิจร้านเพ็ตช็อป ที่ชื่นชอบการออกกำลังทั้งแอโรบิก ปั่นจักรยาน วิ่ง และมีประสบการณ์ออกกำลังด้วยท่ารำไท้เก๊กมาก่อนหน้า บอกว่า ก่อนหน้านี้เคยรำไท้เก๊กมาก่อนค่ะ จึงมาร่วมกิจกรรมที่จัดขึ้น ส่วนประโยชน์ของท่ากายบริหารนี้ คิดว่าเป็นสิ่งที่เหมาะกับคนสูงวัย เพราะไม่ใช่การออกกำลังกายที่ฮาร์ดคอร์สำหรับคนวัยเก๋า และเท่าที่ศึกษามาเขาบอกว่ามีประโยชน์ในแง่ของการฝึกสมาธิ ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เรียกได้ว่าเป็นความแข็งแรงที่ซ่อนอยู่ในท่วงท่านุ่มนวลค่ะ

      ปิดท้ายกันที่ คุณป้าวัลดา มันไทรทอง ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายอย่าง การรำชี่กง แต่ก็อยากมีความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการรำไท้เก๊ก ว่าจะแตกต่างกันอย่างไร จึงมาร่วมกิจกรรมดังกล่าว ที่สำคัญไม่ลืมนำกระติกน้ำดื่มมาร่วมทำบุญหย่อนกล่องรับบริจาคเช่นเดียวกัน บอกว่า นอกจากประโยชน์ด้านร่างกายจากการรำไท้เก๊กที่ใช้อุปกรณ์น้อย และช่วยให้ร่างกายแข็งแรง มีสมาธิแล้ว ยังพบว่ามันช่วยทำให้ฝึกสมองป้องกันโรคอัลไซเมอร์ จากการจำท่าของการฝึกที่มีอยู่หลายท่าทางค่ะ และยังทำให้เรามีเพื่อนกลุ่มใหม่ๆ ที่ชื่นชอบในการออกกำลังกายเหมือนกันกับเราค่ะ เรียกได้ว่าเป็นการสร้างความสามัคคีในการรวมกลุ่มออกกำลังกาย และการร่วมแบ่งปันสิ่งดีๆ ไปสู่ผู้อื่นค่ะ

(ชนาภา คงสว่าง)

      ด้าน ครูอ๋อง-ชนาภา คงสว่าง ครูสอนออกกำลังกาย บอกว่า ประโยชน์ของการรำไท้เก๊กสำหรับผู้สูงอายุนั้น เนื่องจากเราจะสังเกตได้ว่าการเคลื่อนไหวร่างกายของผู้สูงอายุจะค่อนข้างช้า และกระดูกก็ไม่ค่อยดีแล้ว ดังนั้นการเคลื่อนช้าๆ แบบนี้ก็จะทำให้ข้อต่อต่างๆ ไม่เป็นอันตราย รวมถึงเรื่องลมหายใจที่เราหายใจเข้า-ออกลึกๆ ยาวๆ นั้น ก็จะช่วยทำให้ระบบหายใจของผู้สูงอายุทำงานได้ดีขึ้น ส่วนบางคนอาจจะป่วยโรคความดันโลหิต และโรคต่างๆ การหายใจเข้า-ออกลึกๆ ช้าๆ ก็จะช่วยปรับความดันโลหิต และยังทำให้การทำงานของหัวใจดีขึ้น ปอดดีขึ้น และข้อต่อต่างๆ ดีขึ้น และกล้ามเนื้อที่เคยไม่แข็งแรงก็จะแข็งแรงขึ้น ด้วยการออกกำลังกายแบบเบาๆ โดยที่เราไม่จำเป็นต้องทำท่าออกกำลังกายให้หนักมาก

      ส่วนระยะเวลาที่เหมาะกับการรำไท้เก๊ก คือ 15-20 นาทีก็ได้ ถ้าได้ทุกวันก็จะดี ส่วนข้อจำกัดก็มีอยู่บ้าง เช่น ผู้ที่มีปัญหาข้อเข่าหรือกระดูกยังอักเสบอยู่ หรือพึ่งจะผ่าตัดใหม่ๆ ไม่แนะนำ เพราะไท้เก๊กเป็นการออกกำลังกายที่ต้องขยับข้อต่ออยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ ผู้สูงอายุที่ป่วยโรคดันโลหิตที่รักษามานาน และกินยาโรคประจำตัวอยู่ ไม่แนะนำ เพราะขณะออกกำลังกายจะต้องหายใจเข้า-ออกช้าๆ และต่อเนื่อง ดังนั้นหากเกิดการติดขัดของลมหายใจอาจทำให้ผู้สูงอายุเป็นลมได้ค่ะ”.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"