หนักแผ่นดิน สัญญาณมาคุ "พท.VS บิ๊กแดง"


เพิ่มเพื่อน    

      ร้อนแรงถูกพูดถึงตลอดทั้งวันจันทร์ที่ 18 ก.พ. กับท่าทีของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หลังผู้สื่อข่าวสอบถาม ผบ.ทบ. ถึงสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงหาเสียงขณะนี้ แต่ พล.อ.อภิรัชต์ย้อนถามกลับว่า “เพลงอะไรที่กำลังฮิตตอนนี้ ก็เพลงหนักแผ่นดินไง”

      และเมื่อสื่อถามกรณีที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทยปราศรัยเสนอนโยบายตัดงบกลาโหม 10 เปอร์เซ็นต์ และยกเลิกการเกณฑ์ทหาร พล.อ.อภิรัชต์ ระบุกลับมาว่า

      “ก็ให้ไปฟังเพลงหนักแผ่นดินไง”

      จนต่อมา มีข่าวว่า ผบ.ทบ.สั่งการให้กรมกิจการพลเรือนทหารบก นำเพลงแนวปลุกใจทหาร เช่น เพลงมาร์ชกองทัพบก เพลงหนักแผ่นดิน เพลงความฝันอันสูงสุด เป็นต้น ไปเปิดในสถานีวิทยุกองทัพบกที่มีกว่า 126 สถานีทั่วประเทศทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00 น. ในรายการ “ทบ.เพื่อประชาชน” และเวลา 12.00 น. ในรายการรู้รักสามัคคีทำความดีเพื่อแผ่นดิน พร้อมทั้งเชื่อมต่อกับเสียงตามสายภายในกองทัพบกด้วย

      หลังข่าวนี้แพร่กระจายออกไป ผู้คนต่างเปิดวิทยุหาคลื่นในเครือข่ายกองทัพบกตามมาทันที

      แต่สุดท้ายก็มีข่าวว่า บิ๊กทหาร คงไม่ต้องการให้เรื่องนี้ถูกขยายผลกลายเป็นประเด็นการเมือง โดยเฉพาะในช่วงเลือกตั้ง ที่หัวหน้า คสช. อดีต ผบ.ทบ. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ลงชิงนายกรัฐมนตรีในสีเสื้อพรรคพลังประชารัฐ

      เลยทำให้ต่อมาในช่วงเย็น กรมกิจการพลเรือนทหารบก ได้แจ้งให้ผู้จัดรายการของสถานีวิทยุในเครือ ทบ.งดเปิดเพลงหนักแผ่นดิน มาร์ชกองทัพบก และความฝันอันสูงสุด ในรายการวิทยุของ ทบ.ทั้งหมด

       “เกรงว่าจะทำให้สังคมนำไปตีความในทางที่ผิด เพราะแนวทางของ ผบ.ทบ.ต้องการให้กำลังพลตระหนักในหน้าที่ และสำนึกรับผิดชอบต่อบ้านเมือง” รายงานข่าวจากกองทัพบกระบุ

      การสั่งเบรกดังกล่าว แม้ทำให้อุณหภูมิ–เส้นแบ่งระหว่างกองทัพกับฝ่ายการเมือง โดยเฉพาะฝ่ายการเมืองขั้วตรงข้าม คสช.-รัฐบาลชัดเจนอย่างพรรคเพื่อไทย ที่เป็นพรรคซึ่งถูกทหารทำรัฐประหารเมื่อ 22 พ.ค.57 แม้จะลดทอนความร้อนแรงทางการเมืองลงไป แต่ก็ถือเป็น สัญญาณปะทะการเมือง ระหว่างกองทัพที่นำโดยบิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ กับฝ่ายการเมืองขั้วตรงข้าม คสช. อย่างเพื่อไทย ที่ยิ่งทำให้บิ๊กแดงตกเป็นเป้าถูกจับตามองมากขึ้น แม้จะเป็นที่รู้กันดีทางการเมืองว่า พล.อ.อภิรัชต์ เป็นบิ๊กทหาร ที่อยู่ฝ่าย “ไม่เอาทักษิณ–เสื้อแดง-เพื่อไทย”มาตลอด โดยเฉพาะหลังเหตุการณ์บนดาดฟ้าตึกไทยคม เมื่อช่วงชุมนุมเสื้อแดงปี 53 ที่เป็นรอยแค้นให้บิ๊กแดงไม่เผาผี เป็นศัตรูการเมืองกับฝ่ายทักษิณ-เสื้อแดง มาถึงทุกวันนี้

      ยิ่งเมื่อ บิ๊กแดง คือน้องรักของ พลเอกประยุทธ์ มาตลอด และได้เก้าอี้ ผบ.ทบ. ที่เป็นเลขาธิการ คสช. ในยุคคสช.  อีกทั้งก็เตรียมจะเข้าไปเป็นสมาชิกวุฒิสภาโดยตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญในบทเฉพาะกาล ที่ให้ผู้นำเหล่าทัพและ ผบ.ตร.เป็น ส.ว.โดยตำแหน่ง

      ที่สำคัญยามนี้ บิ๊กตู่ ผู้บังคับบัญชาโดยตรงของ พล.อ.อภิรัชต์ ก็กำลังรอชิงเก้าอี้นายกฯ เพื่อกลับมาเป็นนายกฯ รอบสอง โดยที่การแข่งขันทางการเมืองก็ชัดเจน เมื่อฝ่าย ทักษิณ–เพื่อไทย และพรรคเครือข่าย พยายามชูจุดขาย แคมเปญการเมืองว่า พรรคขั้วตัวเองคือพรรคฝ่ายประชาธิปไตย คัดค้านการสืบทอดอำนาจของ คสช. รวมถึงการพยายามชูนโยบายปฏิรูปกองทัพ ปรับตัดงบประมาณทหาร ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร

      เมื่อเป็นเช่นนี้ ฝ่าย พล.อ.อภิรัตช์-เพื่อไทย และ สุดารัตน์ จึงชัดเจนในเส้นที่ตัวเองยืนอยู่ ดังนั้น ในทางการเมือง ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าย่อมอยู่กันคนละขั้ว 

      อีกทั้งต้องไม่ลืมว่า พล.อ.อภิรัชต์ จะมีอายุราชการถึงปี 2563 ดังนั้น แม้ต่อให้ใน พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551 การปรับย้ายผู้นำทหาร-ขุนพลกองทัพ จะต้องทำผ่านที่ประชุมสภากลาโหม ที่ผู้นำเหล่าทัพเป็นกรรมการโดยตำแหน่งและส่วนใหญ่เป็นบิ๊กทหารที่ตามแผงอำนาจก็ยังเป็นขุมข่าย คสช.อยู่ คือ ต่อให้ พรรคเพื่อไทย และแนวร่วมอย่าง พรรคเพื่อชาติ- อนาคตใหม่ ได้เข้ามาเป็นรัฐบาล เก้าอี้ ผบ.ทบ.ของบิ๊กแดงก็ยังน่าจะมั่นคงอยู่ เว้นเสียแต่ขั้วพรรคการเมืองดังกล่าวจะมีการแก้ไข พ.ร.บ.ดังกล่าวเป็นวาระเร่งด่วนทันทีหลังเลือกตั้ง เพื่อปรับปรุงระบบการแต่งตั้งโยกย้ายทหาร ซึ่งก็มีข่าวว่า พรรคอนาคตใหม่ ตระเตรียมเรื่องนี้ไว้แล้ว เป็นเรื่องที่ต้องทำอันดับแรกๆ หลังเลือกตั้ง โดยใช้กฎหมายมาปฏิรูปกองทัพ ที่จะให้ใช้โมเดล ไม่ให้มีผู้บัญชาการเหล่าทัพ แต่ให้เป็นแบบ คณะเสนาธิการร่วม แบบตะวันตก-จีน ที่ให้ทหารอยู่ใต้รัฐบาลพลเรือน ที่จะทำให้ดุลอำนาจการแต่งตั้งโยกย้ายทหาร จากที่เคยอยู่กับกองทัพส่วนหนึ่ง กลับไปอยู่ที่ฝ่ายการเมืองเหมือนในอดีต ซึ่งถ้าทำจริง บิ๊กทหาร ที่คงไม่ใช่แค่ บิ๊กแดง คงไม่ยอมแน่

      จับทิศทางการเมืองได้ว่า หลังการส่งสัญญาณ "เพลงหนักแผ่นดิน” จาก ผบ.ทบ.ออกมา น่าจะทำให้ ขั้วพรรคการเมืองฝ่ายไม่เอา คสช.จะยิ่งเพิ่มการชูนโยบายแนวเขย่ากองทัพ ปฏิรูปทหาร ให้หนักขึ้นและหนักขึ้น.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"