สศค. จ่อยึดใบอนุญาตพิโกไฟแนนซ์คืน 8 ราย หลังได้ไปไม่ยอมดำเนินการ


เพิ่มเพื่อน    

 

20 ก.พ. 2562 นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ( สศค. ) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สศค. เตรียมลงพื้นที่เพื่อสร้างความเข้าใจและกระตุ้นให้ผู้ประกอบการที่ยื่นขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัด (พิโกไฟแนนซ์) ที่ยังมีใบอนุญาตค้างอีกราว 300 - 400 ราย ซึ่งมีทั้งรายที่ยื่นเอกสารไว้ และรายที่ได้รับอนุญาตแล้วแต่ยังไม่เปิดดำเนินการให้เร่งเปิดดำเนินการ  หากได้รับใบอนุญาตแล้วเกิน 1 ปียังไม่เปิดดำเนินการ ทาง สศค. จะเข้าไปตรวจสอบข้อมูลว่ายังความพร้อมอยู่หรือไม่ ซึ่งขณะนี้คาดว่าจะมีจำนวน 8 ราย ที่จะพิจารณาขอใบอนุญาตคืน 

นอกจากนี้ สศค. ยังเตรียมพัฒนาระบบการยื่นคำขอใบอนุญาตใหม่ โดยจะนำระบบอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาพัฒนาให้ผู้ยื่นคำร้องมีความสะดวกสบายมากขึ้นหากเอกสารครบ คาดว่า สศค. จะใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือนในการให้ใบอนุญาตได้  ส่วนสาเหตุหลักของผู้ประกอบการที่ยื่นคำร้องแล้วแต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติ เนื่องจากเขียนแผนนธุรกิจไม่ได้ ทำให้ สศค. ไม่มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจ   


สำหรับผลดำเนินงานสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ ตั้งแต่ เดือน ธ.ค. 2559 จนถึง ณ สิ้นเดือน ส.ค. 2561 มีนิติบุคคลยื่นคำขออนุญาตทั้งสิ้น 579 ราย ใน 67 จังหวัด โดยจังหวัดที่มีผู้ยื่นคำขออนุญาตมากที่สุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ นครราชสีมา 52 ราย กรุงเทพมหานคร 46 ราย และร้อยเอ็ด 35 ราย 

ทั้งนี้ มีจำนวนที่คืนคำขออนุญาตทั้งสิ้น 92 ราย ใน 45 จังหวัด จึงมีนิติบุคคลที่ยื่นคำขออนุญาตสุทธิ 487 ราย ใน 65 จังหวัด และมีผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจแล้ว 386 ราย ใน 64 จังหวัด ซึ่งในจำนวนนี้ ได้เปิดดำเนินการแล้ว 310 ราย ใน 63 จังหวัด และมีผู้ประกอบการที่ปล่อยสินเชื่อแล้ว 287 ราย ใน 60 จังหวัด โดยผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตสามารถปล่อยสินเชื่อได้ภายในเขตจังหวัดให้แก่ผู้มีภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่ภายในจังหวัดนั้น ๆ วงเงินรายละไม่เกิน 5 หมื่นบาท คิดดอกเบี้ยในอัตราไม่เกิน 36 % ต่อปี

"ในปีนี้จะมากระตุ้นเรื่องพิโก นาโนไฟแนนซ์อีก เพื่อเป็นกลไกในการแก้หนี้นอกระบบ ตอนนี้ในส่วนใบอนุญาติพิโก ขอไปแล้วเปิดดำเนินการได้แล้ว 83 % ที่เหลืออีกแค่ 17 % ยังไม่เปิด ต้องเข้าไปดูว่าติดขัดอะไร" นายลวรณ กล่าว 

ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือน ก.ค. 2561 มียอดสินเชื่ออนุมัติสะสม 3.03 หมื่นบัญชี รวมเป็นเงิน 785.45 ล้านบาท หรือคิดเป็นวงเงินสินเชื่ออนุมัติเฉลี่ย 2.5 หมื่นบาทต่อบัญชี ประกอบด้วย สินเชื่อแบบมีหลักประกัน 1.58 หมื่นบัญชี เป็นเงิน 474.98 ล้านบาท คิดเป็น 60.47 % ของจำนวนสินเชื่อที่อนุมัติ และสินเชื่อแบบไม่มีหลักประกัน 1.44 หมื่นบัญชี เป็นเงิน 310.47 ล้านบาท คิดเป็น 39.53 % ของจำนวนสินเชื่อที่อนุมัติ ขณะที่ยอดสินเชื่อคงค้างรวมมีทั้งสิ้น1.35 หมื่นบัญชี คิดเป็นเงิน 329.41 ล้านบาท สำหรับสินเชื่อที่ค้างชำระไม่เกิน 3 เดือน มีจำนวน 796 บัญชี คิดเป็นเงิน26.51 ล้านบาท หรือ 8.05 % ของยอดสินเชื่อคงค้างรวม และมีสินเชื่อค้างชำระเกินกว่า 3 เดือน หรือ เอ็นพีแอล จำนวน 276 บัญชี คิดเป็นเงิน 8.06 ล้านบาท หรือ 2.45 %ของสินเชื่อคงค้างรวม


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"