จูงใจ‘ยิ่งใช้ยิ่งได้’ ‘อีเวาเชอร์7พัน’ หวังเจาะคนรวย


เพิ่มเพื่อน    

  "คลัง" แจง "ยิ่งใช้ยิ่งได้"   เริ่มลงทะเบียนจันทร์ที่ 21 มิ.ย. ไม่มีวันปิดจนกว่าครบ 4 ล้านสิทธิ์ จูงใจให้อีเวาเชอร์เต็มสูบ 7 พันบาทต่อรายตลอดโครงการ ฟุ้งคนละครึ่งรอบ 3 มียอดลงทะเบียน 27.2 ล้านแล้ว

เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงถึงโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ว่าจะเปิดให้ประชาชนผู้สนใจลงทะเบียนวันแรกในวันจันทร์ที่ 21 มิ.ย.2564 ตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ของทุกวันเป็นต้นไป จนกว่าจะครบ 4 ล้านสิทธิ์ โดยคุณสมบัติของประชาชนที่มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ  ต้องมีสัญชาติไทยที่มีบัตรประจำตัวประชาชน อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือได้รับสิทธิโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ หรือไม่ใช้สิทธิ์โครงการคนละครึ่งระยะที่ 3 ส่วนผู้ที่เคยรับสิทธิ์โครงการของรัฐ อาทิ ชิมช้อปใช้, เราเที่ยวด้วยกัน, คนละครึ่ง, ม33เรารักกัน และเราชนะ สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ w ww.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com หรือผ่าน G-Wallet บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยเข้าร่วมโครงการข้างต้น สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ w ww.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com
    น.ส.กุลยากล่าวต่อว่า เมื่อประชาชนลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว จะได้รับเอสเอ็มเอสแจ้งสิทธิ์ภายใน 3 วัน โดยก่อนการใช้สิทธิ์ครั้งแรก ผู้ได้รับสิทธิตามโครงการต้องยืนยันตัวตนเพื่อใช้ G-Wallet บนแอปพลิเคชันเป๋าตังด้วยบัตรประจำตัวประชาชน โดยผู้ที่ไม่เคยยืนยันตัวตนด้วยบัตรประจำตัวประชาชน สามารถยืนยันตัวตนได้ที่สาขาธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือตู้เอทีเอ็มสีเทาของธนาคารกรุงไทย หรือผู้ที่มีแอปพลิเคชัน KrungthaiNext สามารถยืนยันตัวตนผ่าน KrungthaiNext ได้
    “เมื่อยืนยันตัวตนเรียบร้อยแล้วจะสามารถใช้จ่ายเพื่อชำระค่าสินค้าหรือบริการ ได้แก่ ค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป ค่าบริการนวด สปา ทำผมทำเล็บ ไม่รวมถึงสลากกินแบ่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ บัตรกำนัล บัตรเงินสด และสินค้าหรือบริการที่เป็นการชำระค่าสินค้าหรือบริการล่วงหน้า เพื่อรับบัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์ หรืออีเวาเชอร์ กับร้านค้าที่ติดตั้งแอปพลิเคชันถุงเงินที่เข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.-30 ก.ย.2564 ในเวลา 06.00-23.00 น.” น.ส.กุลยากล่าว
    ทั้งนี้ วงเงินใช้จ่ายที่จะนำมาคำนวณสิทธิ์อีเวาเชอร์ไม่เกิน 60,000 บาทต่อคน ซึ่งยอดใช้จ่ายที่นำมาคำนวณสิทธิต้องไม่เกิน 5,000 บาทต่อคนต่อวัน และจะได้รับสิทธิ์อีเวาเชอร์สะสมสูงสุดไม่เกิน 7,000 บาทต่อคนตลอดเวลาโครงการ โดยยอดใช้จ่ายจริงตั้งแต่ 1- 40,000 บาทแรก ได้รับอีเวาเชอร์ 10% ของยอดใช้จ่าย แต่ไม่เกิน 4,000 บาทต่อคน และยอดใช้จ่ายจริงตั้งแต่ 40,001-60,000 บาท ได้รับอีเวาเชอร์ 15% ของยอดใช้จ่าย แต่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน ซึ่งสิทธิอีเวาเชอร์จะคืนเป็นวงเงินเข้าใน G-Wallet ทุกวันที่ 7 ของเดือนถัดไป ทั้งนี้ และสามารถใช้จ่ายด้วยอีเวาเชอร์ที่ร้านที่เข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค.-31 ธ.ค.2564 โดยไม่สามารถแลกเป็นเงินสดได้
    น.ส.กุลยากล่าวอีกว่า ข้อมูล ณ วันที่ 17 มิ.ย.2564 เวลา 22.00 น. มีจำนวนผู้ประกอบการร้านค้าที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการกว่า 29,734 ราย โดยสำหรับผู้ประกอบการร้านค้าที่สนใจเข้าร่วมโครงการและมีคุณสมบัติเป็นไปตามที่กำหนดสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย.2564 เวลา 06.00-22.00 น. เป็นต้นไป ผ่านเว็บไซต์ w ww.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com หรือสาขาธนาคารกรุงไทย
    น.ส.กุลยายังกล่าวถึงความคืบหน้าของการลงทะเบียนรับสิทธิ์โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 ว่าจากการเปิดลงทะเบียน 4 วันแรก ตั้งแต่ 14 มิ.ย.มีประชาชนลงทะเบียนแล้วจำนวน 27.2 ล้านคน ขณะที่การลงทะเบียนร้านค้าคนละครึ่ง ระยะที่ 3 มีผู้ประกอบการร้านค้าใหม่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วจำนวน 63,281 ราย และร้านค้าเดิมที่เคยเข้าร่วมโครงการระยะที่ 1 และ 2 ที่คาดว่าจะยืนยันเข้าร่วมโครงการครั้งนี้อีก 1.2 ล้านราย
วันเดียวกัน น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ห่วงใยสถานการณ์หนี้ภาคประชาชน จึงสั่งให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งกำหนดแนวทางช่วยบรรเทาภาระหนี้ประชาชน โดยข้อมูลจากกรมบังคับคดีรายงานว่า ในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2564 (ต.ค.63-เม.ย.64) มีคดีแพ่งเข้าสู่การบังคับคดี 138,997 คดี คดีส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้น 80-90% เป็นหนี้ครัวเรือน คือหนี้บัตรเครดิต เช่าซื้อรถ  รวมถึงสินเชื่อส่วนบุคคล แม้คดีที่เข้ามาสู่การบังคับคดีนั้นส่วนใหญ่ปัญหาเริ่มเกิดขึ้นมาก่อนการระบาดของโควิด-19 ก็ตาม
    น.ส.รัชดากล่าวว่า ตามข้อสั่งการนายกฯ ทำให้หลายหน่วยงานได้ร่วมกันออกมาตรการแก้ปัญหามาระยะหนึ่งแล้ว เช่น มหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งประชาชนให้ความสนใจอย่างมาก มีสินเชื่อที่ขอรับความช่วยเหลือแล้วกว่า 7 แสนบัญชี มหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้เช่าซื้อรถยนต์ออนไลน์ มีผู้เช่าซื้อสนใจลงทะเบียนแล้ว 13,450 คัน รวมทั้งสถานธนานุเคราะห์ (สธค.) หรือโรงรับจำนำของรัฐทั้ง 40 แห่ง ได้ออกมาตรการช่วยเหลือ แบ่งเบาภาระรายจ่ายดอกเบี้ย ร่วมฝ่าวิกฤติโควิด-19 แล้ว เป็นการจัดโปรโมชั่นจ่ายคนละครึ่ง ลดดอกเบี้ย 50% แก่ผู้มาใช้บริการที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ วงเงินจำนำไม่เกิน 5,000 บาท
    “ท่านนายกฯ ตั้งใจแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนให้เบ็ดเสร็จ โดยมอบหมายคณะทำงานศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) ที่มีนายสุพัฒนพงศ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯ รับผิดชอบ โดยเน้นการขับเคลื่อน 3 เรื่องควบคู่กัน คือ การให้ความรู้ทางการเงินแก่ประชาชน การกำกับดูแลเจ้าหนี้เพื่อให้สินเชื่ออย่างเป็นธรรม และการปรับโครงสร้างหนี้และการไกล่เกลี่ยปัญหาหนี้สิน” น.ส.รัชดากล่าว.

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"