'หม่อมเต่า'แนะเลิกคลำช้างแก้ปัญหา3จว.ใต้ ชี้วิธีเดียวตั้งโรงงานขนาดใหญ่มีตำแหน่งงานให้คนพื้นที่


เพิ่มเพื่อน    


22 ก.พ.62 - หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล  หรือหม่อมเต่า หัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงการเดินสายหาเสียงว่า

“คลำช้าง”

อาทิตย์ที่แล้วลงไปจังหวัดปัตตานี เพื่อไปช่วยผู้สมัครส.ส.หาคะแนนที่ตำบลมะกรูด อำเภอโคกโพธิ์ และเข้าร่วมการสัมมนาเรื่องปัญหาของ 3 จังหวัดชายแดนใต้ จัดโดยอาจารย์โคทม อารียา จัดมา 41 ครั้งแล้ว ยังไม่ได้ข้อยุติอะไร

เที่ยวนี้มีนักการเมืองไปด้วยแยะ เพราะอยู่ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ทั้งนักการเมือง ประชาชนท้องถิ่น และผู้เชี่ยวชาญที่เข้าร่วมสัมมนามาหลายครั้ง ต่างเสนอข้อคิดเห็น ข้อเสนอต่าง ๆ ก็เข้าใจแหละ ปัญหามันแก้ยาก ข้อเสนอก็เลยกลายเป็นลักษณะ “คลำช้าง” แล้วแต่ใครจับหางช้างก็ว่าอย่างหนึ่ง ใครจับหูช้างก็ว่าอย่างหนึ่ง ใครจับขาช้างก็เห็นอีกอย่างหนึ่ง รวมกันแล้วก็ยังไม่เห็นว่าตัวช้างคืออะไร

ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้เป็นเรื่องสำคัญสำหรับประเทศไทย ใครจะมาลงทุนในประเทศไทยไม่ว่าที่ไหนก็ต้องศึกษาประเทศไทยว่าสงบเรียบร้อยอย่างไร หรือไม่ และก็มีจุดนี้สะกิดใจอยู่บ้าง

ผมเองคิดว่าในระยะสั้น แก้ปัญหาเฉพาะหน้าก็คงมีวิธีเดียว ต้องหาทางตั้งโรงงานอะไรใหญ่ ๆ สักสองหมื่นล้านบาทเป็นอย่างน้อย ให้ความคุ้มครองทางสิทธิประโยชน์เต็มที่ และให้ความคุ้มครองทางด้านความปลอดภัย ทหารต้องดูแล รวมทั้งดูแลที่พักอาศัยสำหรับคนที่ทำงานในโรงงานถ้าต้องมีเป็นพิเศษ แต่ว่าแน่นอนล่ะ ต้องพยายามให้คนท้องถิ่นได้ทำงานในโรงงานนี้

ถามว่าโรงงานอะไร ก็มีปัญหาอยู่นะ เพราะบ้านเมือง 3 จังหวัดนี้สวยมาก เหมาะที่จะเป็นสถานที่สำหรับการท่องเที่ยว จะมีโรงงานอะไรก็ต้องวางให้เหมาะ และจริง ๆ แล้วเหมาะที่สุดก็น่าจะเป็นโรงงานที่เกี่ยวกับการจับปลาทางทะเล เพราะจุดนี้เป็นจุดของประเทศไทยซึ่งยื่นเข้าไปในทะเลมากที่สุด ประหยัดเวลา ประหยัดน้ำมัน ถ้าหาที่ที่สามารถควบคุมได้ ไม่ให้กระทบความสวยงามของถิ่นนี้ที่สวยงามมากเหลือเกิน และแน่นอนล่ะ อาหารฮาลาลย่อมเป็นจุดเด่นด้วย

ผมได้ปรารภไปว่าจริง ๆ แล้ว จะแก้ปัญหาอะไรใหญ่ ๆ ก็จะต้องนึกว่าในระยะยาว 10 ปี 50 ปี อนาคตของประเทศจะเป็นอย่างไร แล้วก็พยายามทำให้สิ่งดังกล่าวเกิดขึ้น และแก้ปัญหาเฉพาะหน้านี้เพื่อให้เดินไปกับแผนความหวังระยะยาวของเรา

400 กว่าปีที่แล้ว ยุโรปล้วนเป็นอาณาจักรเล็ก ๆ รบกันระหว่างศาสนาโปรเตสแตนต์และศาสนาคริสตัง และใน Thirty Years' War ตายไปถึง 8 ล้านคน เขาก็แก้ปัญหามา จน 400 ปีต่อมากลายเป็น EU (European Union) เป็นอาณาจักรเดียวกัน ต่างศาสนา ต่างภาษา ต่างเชื้อชาติ แต่ไม่มีพรหมแดนระหว่างกัน เดินทางผ่านไปผ่านมาไม่ต้องมี Passport ขนสินค้าก็ไปได้โดยเสรี มีระบบภาษีซึ่งเอื้ออำนวยให้การค้าเกิดขึ้นได้ตามนโยบายของแต่ละอาณาจักร โดยสามารถปฏิบัติตามกฎที่ตกลงกันทั่วไปในสภา EU (European Union)

อาเซียนจะเดินไปอย่างนั้นหรือเปล่า เรื่องยากนะครับ มีประเทศใหญ่ 2 ประเทศ ซึ่งไม่มีบริเวณติดต่อกับอาเซียนที่เหลือ คืออินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ ถ้าไม่เช่นนั้นก็คงจะง่ายมากเพราะจะเป็นเหมือนยุโรป หลังจากอังกฤษถอนตัวออกไปแล้ว

เอาเถอะ ปัญหาแก้ไม่ได้ในวันเดียว แต่ถ้าแก้ปัญหาปัจจุบันโดยไม่ดูอนาคต มันก็ยาก เพราะไม่รู้ว่ามันจะเดินไปไหนดี ไม่เห็นภาพ แก้ลุ่ม ๆ ดอน ๆ ไปโดยไม่มีภาพใหญ่เป็นเรื่องยากนะครับ.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"