ชาวบ้านยโสธรเดือดประกาศไม่ยอมรับมติอัปยศ!กกพ.ปล่อยผีโรงไฟฟ้าชีวมวล


เพิ่มเพื่อน    

24 ก.พ.62- มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องของกลุ่มชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบายตำบลเชียงเพ็งประมาณ 200 คน ร่วมกันทำกิจกรรมเผาพริกเผาเกลือสาปแช่งคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หลังอนุมัติผ่านโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาด 61 เมกะวัตต์ พร้อมประกาศไม่ยอมรับมติพิจารณาของ กกพ. ณ ศาลาประชาคม หมู่ 1 บ้านเชียงเพ็ง ตำบลเชียงเพ็ง อำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร

นางลำดวน เนินทราย อายุ 42 ปี    สมาชิกกลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบายเชียงเพ็ง กล่าวว่า หลังจากได้รับทราบข่าวว่าคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานอนุมัติให้โรงไฟฟ้าชีวมวลขนาด 61 เมกะวัตต์ผ่าน วันแรกก็ยังทำใจไม่ได้เพราะที่ผ่านมาเราก็ยืนยันข้อมูลเสมอว่าถ้ามีโรงไฟฟ้าชีวมวลจะส่งผลกระทบทั้งสุขภาพคน พืช และสัตว์เลี้ยง เพราะเป็นวิถีชีวิตของคนเชียงเพ็งที่พึ่งพาทรัพยากรมาตั้งแต่เกิดจนตาย วันนี้ทางกลุ่มจึงไม่พอใจกับการกระทำของ กกพ. ก็มาร่วมกันเผาพริกเผาเกลือสาปแช่ง กกพ.ที่ลักไก่พิจารณาโรงไฟฟ้าชีวมวล โดยไม่แจ้งให้คนในพื้นที่รับรู้ก่อนทั้งๆ ที่ทางกลุ่มก็ทำหนังสือแจ้งไปว่าก่อนพิจารณาจะต้องแจ้งให้ทางกลุ่มทราบก่อน 7 วัน และเราเตรียมที่จะเคลื่อนไหวต่อเนื่องเพื่อไม่ยอมรับมติพิจารณาของ กกพ.

ด้านนางมะลิจิตร เอกตาแสง อายุ 58 ปี กรรมการกลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบายตำบลเชียงเพ็ง อ่านแถลงการณ์ ประกาศ ไม่ยอมการพิจารณาของ กกพ. พร้อมท้า กกพ. ถ้าเกิดผลกระทบอันใกล้นี้ กกพ.จะรับผิดชอบหรือไม่  โดยมีเนื้อหาคำประกาศดังนี้ จากกรณีที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานได้นำโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลขาด 61 เมกะวัตต์ขึ้นมาพิจารณาเมื่อวันพุธที่ผ่านมา และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานอนุมัติผ่านไปแล้วนั้น ทางกลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบายตำบลเชียงเพ็ง ตั้งข้อสังเกตต่อกระบวนการที่ผ่านมาดังนี้ 

1.เป็นใบสั่งมาหรือไม่ เนื่องจากกลุ่มทุนน้ำตาลใหญ่เป็นกรรมการที่อยู่ในโครงสร้างประชารัฐ ซึ่งโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาด 61 เมกะวัตต์ ที่จะสร้างในพื้นที่ตำบลน้ำปลีก อำเภอเมืองอำนาจเจริญ รอยต่อ ตำบลเชียงเพ็ง อำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร มีรัศมี 5 กิโลเมตรอาจจะส่งผลกระทบด้านฝุ่นละอองทางอากาศและมลพิษทางน้ำ เป็นหนึ่งในโครงการประชารัฐ ทางกลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบายเชียงเพ็งจึงตั้งข้อสังเกตว่า เป็นใบสั่งมาหรือไม่ ทำไมคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานไม่รับฟังความเห็นต่างจากประชาชนที่จะได้รับผลกระทบ และไม่ชะลอการพิจารณาออกไปก่อนเพื่อให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยซึ่งชาวบ้านกำลังตั้งหน้าตั้งตารอการใช้สิทธิ์เลือกตั้ง และการใช้สิทธิในกระบวนการมีส่วนร่วมที่แท้จริงได้ 

นางมะลิจิตร ระบุต่อว่า 2. ปัญหาผลกระทบจากฝุ่น PM2.5 พิสูจน์ให้เห็นแล้วการที่สังคมไทยต้องเผชิญกับสภาวะฝุ่นเกินค่ามาตรฐานแต่รัฐไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ และหลายโครงการที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลก็ไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาได้ ผู้ที่รับชะตากรรมคือชาวบ้านในพื้นที่ ส่วน กกพ. ผู้พิจารณาอยู่ในห้องแอร์ลอยนวลเสมอ

"ดังนั้นทางกลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบายตำบลเชียงเพ็งจึงขอท้าคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ด้วยประการดังนี้1. ถ้าผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ กกพ. กล้ารับผิดชอบหรือไม่ 2. ปัญหาฝุ่นละอองที่จะเกิดขึ้นต่อระบบนิเวศและสุขภาพ กกพ. กล้ารับผิดชอบหรือไม่ สุดท้ายนี้ทางกลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบายขอประกาศว่า พวกเราจะไม่ยอมรับมติการพิจารณาของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น และทางกลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบายจะยังคงเดินหน้าคัดค้านโรงฟ้าชีวมวลต่อไป เพื่อสิทธิที่จะได้ใช้อากาศบริสุทธิ์ เพื่อสิทธิในการใช้น้ำที่สะอาด และรักษาทรัพยากรธรรมชาติอันเป็นวิถีชีวิตที่อยู่ร่วมกันอย่างแยกไม่ออกของชาวบ้าน" นางมะลิจิตร ระบุ


ทั้งนี้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานได้มีมติอนุมัติโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลขาด 61 เมกะวัตต์ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ท่ามกลางการคัดค้านของชาวบ้าน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เดินทางมากรุงเทพฯยื่นหนังสือที่ กกพ.และได้มีข้อตกลงในการลงพื้นที่เพื่อรับฟังความคิดเห็นของชาวบ้าน แต่สุดท้ายกกพ.ก็ยังเดินหน้าอนุมัติโครงการดังกล่าวในที่สุด.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"