'พท.' รุกนโยบายเต็มสูบ หวังโกยแต้มโค้งสุดท้าย


เพิ่มเพื่อน    

หากไม่เกิดปรากฏการณ์ช็อกโลก วันเลือกตั้งยังคงเป็น 24 มีนาคม กับระยะเวลาที่เหลือเพียง 19 วัน พรรคการเมือง นักการเมือง ต่างปรับโหมดเข้าสู่โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง ในเวลาที่เหลือไม่มากนัก เป็นจุดชี้วัด ชี้เป็น ชี้ตายทางการเมืองได้ พรรคการเมืองพรรคใด ใครยังมีไม้เด็ด ไม่ว่า นโยบายโค้งสุดท้าย แคมเปญโดนๆ ต้องปล่อยของออกมา กระตุ้นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเลือกให้ได้

พรรคเพื่อไทย ช่วงที่ผ่านมา แบ่งทีมขุนพลหลักของพรรคออกเป็นสายๆ กระจายลงพื้นที่ทั้งภาคเหนือ กลาง อีสาน บางพื้นที่ที่ยังไม่ชัวร์พบการแข่งขันสูงยิ่งต้องลงไปช่วงชิง บางพื้นที่คะแนนสูสีกับคู่แข่ง ยิ่งต้องเอาขุนพลหลักไปปราศรัยย้ำปักหมุดไม่ให้เสียที่นั่งไป เป็นการเดินเกมตรึงมวลชน พร้อมป่าวประกาศแนวคิด นโยบายตอกย้ำให้เห็นภาพมืออาชีพทำได้จริง

มาในวันนี้ พรรคเพื่อไทย เปิดนโยบายอีกระลอก เป็นการลงลึกในรายละเอียดเพิ่มมากขึ้น บางเรื่องแม้จะเคยบอกออกมาบ้างแล้ว แต่ยังไม่มีการอธิบายความ วันนี้จึงถือโอกาสมาอธิบายความเพิ่มเติม บางเรื่องพูดไปคนเข้าใจได้ทันที โดยเฉพาะวิธีแก้ไขปัญหาราคาพืชผลเกษตรตกต่ำ แก้ไขเศรษฐกิจ ก็ยังคงเน้นย้ำให้เห็น เพื่อไทยทำได้แน่ทำได้จริง เนื่องจากเคยทำมาแล้ว

เพื่อไทย เรียกผู้สมัคร ส.ส.ระบบเขตเลือกตั้ง ระบบบัญชีรายชื่อทั่วประเทศเข้ามาหารือ รับฟังการแถลงนโยบายแผนงานเร่งด่วนทั้งในระยะ 30 วัน 100 วัน และ 180 วัน แบ่งออกเป็น 3 ช่วงเวลา โดยครอบคลุมทุกกลุ่มฐานเสียงเพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ กลุ่มผู้ประกอบการ กลุ่มเจ้าของกิจการ กลุ่มวัยทำงาน กลุ่มเกษตรกร

ในแผนงานเร่งด่วน 30 วัน เพื่อไทย ให้ความสำคัญไปที่การตรวจสอบภาระหนี้รัฐบาลที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน พร้อมทั้งเข้าไปดูสินทรัพย์ภาครัฐที่ได้รับการบริหารจัดการอย่างไร้ประสิทธิภาพ กฎหมายที่ก่อความเสียหายทางเศรษฐกิจ และกลไกคอร์รัปชันของเจ้าหน้าที่รัฐในปัจจุบัน เพื่อเร่งดําเนินการปรับโครงสร้างงบประมาณแผ่นดินให้มีประสิทธิภาพ บริหารสินทรัพย์ภาครัฐให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชน

แผนงาน 100 วัน มุ่งเน้นไปที่เรื่องหนี้พักชำระหนี้เกษตรกร 3 ปี ให้เกษตรกรตั้งตัวได้ พร้อมปรับโครงสร้างหนี้ SME ปรับโครงสร้างหนี้สินครู นักเรียน นักศึกษา ประชาชนที่กู้เงินผ่านหน่วยงานของรัฐไปพร้อมกับการจัดตั้งสถาบันพัฒนารายได้ทั่วประเทศ ปล่อยกู้วงเงินสูงสุด 5 ล้านบาท ให้ทุนชาวนาเข้าโครงการปรับปรุงการผลิตเกวียนละ 5,000 บาท รับประกันขั้นต่ำ 36,000 บาท ไม่เกินครอบครัวละ 75,000 บาท พรรคเพื่อไทยจะเร่งเจรจาการค้ากับต่างประเทศ ปรับลดภาษีน้ำมัน ยกเว้นภาษีเงินได้ 2 ปีแก่ธุรกิจเกิดใหม่ ให้ SME เริ่มจดทะเบียนสามารถทำใบกำกับภาษีมูลค่าเพิ่มแบบเหมาจ่าย 1% นอกจากนี้จะปลดล็อกคราฟต์เบียร์และสุรากลั่นชุมชน กัญชงและพืชสมุนไพรทางการแพทย์เพื่อทำเป็นอุตสาหกรรมใหม่

สำหรับแผนเร่งด่วน 180 ที่วางแผนงาน ทั้งจะเดินทางไปเจรจากับประเทศที่มีศักยภาพ เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว ยกเลิกวีซ่า เพิ่มเส้นทางบินตรงลงสนามบินทั่วประเทศ 30 เส้นทาง ส่งเสริมสตรีทฟู้ดให้มีทุนและมีพื้นที่ในการค้าขาย ต่อยอด OTOP ให้เป็น 1 ตำบล 1 ของฝากนักท่องเที่ยว ส่งเสริมธุรกิจโฮมสเตย์และฟาร์มสเตย์ กระจายรายได้การท่องเที่ยวถึงคนไทยทุกระดับ ในส่วนของราคาสินค้าเกษตรขั้นต่ำอย่างน้อยต้องกลับไปอยู่ในระดับเดิมก่อนรัฐประหาร ข้าวเกวียนละ 15,000 บาท ยางกิโลกรัมละ 60 บาท อ้อยตันละ 1,200 บาท มันสำปะหลังกิโลกรัมละ 3 บาท ปาล์มกิโลกรัมละ 5 บาทขึ้นไป และจัดตั้งกองทุนปรับเปลี่ยนหน้าดิน โดยตั้งเป้าเพิ่มรายได้เกษตรกร 30%

  • ปักหมุดลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องทุกภูมิภาค เก็บทุกคะแนนเสียง ไปพร้อมกับประกาศแผนงานทางยุทธศาสตร์ ‘ปรับหนี้ เติมเงิน ลดภาษี สร้างเศรษฐีใหม่’ สิ่งเหล่านี้จะสัมฤทธิผลได้ดังหวัง ต้องชนะเลือกตั้ง จัดตั้งรัฐบาล..ให้ได้เสียก่อน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"