ให้ออก-ดำเนินคดี2ตม.ช่วยต่างด้าวซุกไทย


เพิ่มเพื่อน    

  ไล่ออก 2 ตำรวจ ตม.พร้อมดำเนินคดีข้อหาหนัก ร่วมกับหญิงสาวตั้งแก๊งประทับตราปลอมอนุญาตให้ต่างชาติลักลอบอยู่ในไทยโดยผิดกฎหมาย

    เมื่อวันที่ 5 มีนาคมนี้ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) แถลงว่า เมื่อวันที่ 15 ก.พ. เจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปชก.ตร.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ตม.สงขลา ได้ร่วมกันจับกุมนายคลินตัน นาสเซอร์รี อายุ 22 ปี ชาวแคเมอรูน ในความผิดฐานปลอมและใช้แผ่นปะตรวจลงตราปลอม รอยตราประทับการตรวจลงตราสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศปลอม และใช้เอกสารราชการปลอม พร้อมของกลาง หนังสือเดินทาง และใบเสร็จรับเงินของสถานทูตไทยปลอม นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
    จากการตรวจสอบหนังสือเดินทางของกลางพบว่า เป็นกรณีมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง สังกัดด่าน ตม.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้บันทึกข้อมูลการตรวจอนุญาตการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรในระบบสารสนเทศสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดยบุคคลต่างด้าวมิได้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรจริง ซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ บก.ตม.2 จึงได้ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจนกว่าคดีจะถึงที่สุด
    จากนั้น ศปชก.ตร.ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ตม.ดำเนินการสืบสวนขยายผลจับกุมบุคคลต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรโดยมิชอบด้วยกฎหมาย โดยใช้หนังสือเดินทางที่ประทับตราเข้าเมืองอันเป็นเท็จ จากขบวนการดังกล่าวโดยได้เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเพิ่มเติมอีก 4 ราย เป็นชาวแคเมอรูนทั้งหมด นอกจากนี้ยังได้รวบรวมพยานหลักฐานยื่นคำร้องขออนุมัติหมายจับเจ้าหน้าที่ และขบวนการจัดหาหนังสือเดินทางและประทับตราตรวจอนุญาตเข้าประเทศโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ซึ่งศาลอาญาฯ ได้อนุมัติหมายจับจำนวน 3 หมาย และสามารถจับกุมตัวได้ทั้งหมด ประกอบด้วย จ.ส.ต.นพดล บุญยะวัน อายุ 36 ปี อดีต ผบ.หมู่ ฝ่าย ตม.ขาเข้า ด่าน ตม.ทอ.สุวรรณภูมิ บก.ตม.2 ถูกคำสั่งออกจากราชการไว้ก่อนเมื่อวันที่ 5 พ.ย.2561, ด.ต.สมยศ ฟุ่มฟองฟู อายุ 38 ปี ผบ.หมู่ ตม.จว.เชียงราย บก.ตม.5 และ น.ส.พัณณิตา สรวยงาม อายุ 37 ปี 
    สำหรับความผิดของผู้ถูกจับกุม แยกออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนของเจ้าหน้าที่จะเป็นความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ (ป.อาญา ม.157) เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับ หรือยอมจะรับสินบน (ป.อาญา ม.149) มีอัตราโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต ส่วนพลเรือนมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานในการเรียกรับสินบน (ม.143 + 86) มีอัตราโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 5 ปี.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"