ร้องตร.ท่องเที่ยว จับไกด์โดยมิชอบ


เพิ่มเพื่อน    

นายกสมาคมมัคคุเทศก์ไทยร้อง ผบ.ตร.  ตรวจสอบตำรวจท่องเที่ยวกระบี่ปฏิบัติหน้าที่และบังคับใช้กฎหมายไม่เป็นธรรม หลังเข้าจับกุมไกด์ที่นำนักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชุมชนด้วยการอ้างกฎหมายโดยมิชอบ ปรับเงินคนละ 1 พันบาท
    เมื่อวันที่ 27 ก.ย.64 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  (ตร.) นายทิพากร จันทร์แถม นายกสมาคมมัคคุเทศก์ไทย (สมท.) ได้ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข  ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่และการบังคับใช้กฎหมายโดยไม่เป็นธรรมของตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ต่อมัคคุเทศก์  
    นายทิพากรกล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16  มีนาคม 2564 นายภูมิเอก ซับนุพงศ์ ซึ่งเป็นมัคคุเทศก์อื่นได้นำนักท่องเที่ยวชาวไทย 41 คนเข้าไปท่องเที่ยวในพื้นที่ตำบลแหลมสัก ซึ่งเป็นพื้นที่พิเศษตามประกาศของคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ และในมาตรา 51 วรรค 2  กำหนดไว้ว่า ในกรณีที่ในพื้นที่พิเศษมีมัคคุเทศก์ตามวรรค  1 (คือมัคคุเทศก์ท้องถิ่นที่มาตรา 51 กำหนดไว้)  ปฏิบัติหน้าที่อยู่ ห้ามมัคคุเทศก์อื่น (คือมัคคุเทศก์ที่นำนักท่องเที่ยวเข้าไปในชุมชน) ปฏิบัติหน้าที่ในเขตพื้นที่นั้น
    ทั้งนี้ บริษัทได้ทำการติดต่อกับผู้แทนชุมชนไว้ก่อนล่วงหน้าแล้วเพื่อขอใช้บริการมัคคุเทศก์ในท้องถิ่น ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 51 วรรค 2 ดังกล่าว แต่ชุมชนแหลมสักแจ้งว่าจะต้องใช้บริการท่องเที่ยวเหมารวมเท่านั้น ราคาท่านละ 900 บาท บริษัทไม่เห็นด้วยจึงไม่ตกลงตามที่ชุมชนต้องการ และแจ้งว่าต้องการมัคคุเทศก์เพียง  1 คนเท่านั้นมาดูแลคณะท่องเที่ยวตามที่กฎหมายกำหนด  แต่ชุมชนก็แจ้งกลับมาอีกว่า ถ้าไม่ใช้บริการแบบเหมารวมหัวละ 900 บาทก็จะไม่ให้มัคคุเทศก์มาบริการ
    เมื่อชุมชนแหลมสักไม่ส่งมัคคุเทศก์มาปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด ก็ถือว่าในพื้นที่นั้นไม่มีมัคคุเทศก์ปฏิบัติหน้าที่อยู่ มัคคุเทศก์อื่นจึงสามารถปฏิบัติหน้าที่ไปได้ตามปกติ โดยไม่สามารถนำมาตรา 51 วรรค 2 มาบังคับใช้ได้ แต่ตำรวจท่องเที่ยวกลับเข้าทำการจับกุมนายภูมิเอก ซับนุพงศ์ มัคคุเทศก์ที่นำนักท่องเที่ยวเข้าไปท่องเที่ยวยังชุมชนแห่งนั้น ด้วยข้อหาฝ่าฝืนมาตรา 51 วรรค  2 ในการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ที่มีมัคคุเทศก์ท้องถิ่นปฏิบัติหน้าที่อยู่ โดยเปรียบเทียบเสียค่าปรับคนละ 1,000  บาท มัคคุเทศก์จึงต้องจำยอมเสียค่าปรับไปก่อนเพราะยังมีนักท่องเที่ยวที่จะต้องดูแลรออยู่ และตำรวจท่องเที่ยวอ้างว่าการจับกุมมัคคุเทศก์นั้นถูกต้องตามกฎหมายแล้ว
    นายทิพากรกล่าวอีกว่า ตนได้ทำหนังสือร้องเรียนถึง  ผบ.ตร.เพื่อขอให้ดำเนินการตรวจสอบการทำงานของตำรวจท่องเที่ยว ส่วนการอ้างตามมาตรา 51 วรรค 2  เมื่อมีมัคคุเทศก์ท้องถิ่นปฏิบัติหน้าที่อยู่จึงห้ามมัคคุเทศก์อื่นปฏิบัติหน้าที่นั้น แต่ถ้ามัคคุเทศก์ท้องถิ่นที่มีในพื้นที่ไม่มาปฏิบัติหน้าที่ แล้วมัคคุเทศก์อื่นจะปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จะถือว่าเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 51 หรือไม่ หากถือว่าผิด มัคคุเทศก์ท้องถิ่นไม่มาปฏิบัติหน้าที่ มัคคุเทศก์อื่นก็ปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้อีก แล้วจะใช้มัคคุเทศก์จากที่ใดมาปฏิบัติหน้าที่ดูแลนักท่องเที่ยวในพื้นที่นั้น จึงขอความกรุณาเพื่อขอให้มีการประชุมร่วมระหว่างผู้แทนตำรวจท่องเที่ยวและฝ่ายมัคคุเทศก์เพื่อหาข้อยุติที่ชัดเจนร่วมกัน โดยมิต้องนำเรื่องขึ้นไปสู่ระดับที่สูงขึ้นไป เนื่องจากเห็นว่าปัญหานี้จะต้องเกิดกับชุมชนในพื้นที่พิเศษทั้ง 26 แห่งทั่วประเทศแน่นอนถ้ายังไม่มีความชัดเจน และเกรงว่าจะเกิดปัญหากระทบกระทั่งกันไม่จบสิ้น.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"