เล่นเอามึนซ์ซ์ซ์กันไปทั้งบาง


เพิ่มเพื่อน    

      อืมม์ม์ม์...คงต้องสารภาพตรงๆ ว่า อาจเป็นเพราะห่างวงการชาวยุทธ์มานาน ไม่มีโอกาสได้สัมผัสกับบรรดาพวก นักการเมือง เค้าซักเท่าไหร่นัก เลยนึกไม่ออก...ว่าเหตุใดท่านอดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ ท่านถึงได้ลุกขึ้นมาทุบหม้อ ทุบไห ทำท่าคล้ายๆ กะจะเข้าตีเมืองจันท์ให้แตกให้จงได้ อะไรที่เคยคาด เคยคิดเอาไว้ในตัวท่าน เลยน่าจะคาดผิด คิดผิด อยู่พอประมาณ...

                                                                -------------------------------------------------

      คือถ้าหากพรรคประชาธิปัตย์เขาได้มาประมาณ 90 ไม่ถึงกับครบ 100 อันนั้น...ก็อาจไม่ถึงกับต้องปวดเศียร เวียนเกล้า มากมายซักเท่าไหร่ เพราะท่านอดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ ท่านคงบ๊ายบาย ไปตามคำมั่นสัญญาของท่าน แต่ถ้าพรรคประชาธิปัตย์เค้าเกิดได้จำนวน ส.ส.ซัก 101 ขึ้นไป ในการเลือกตั้งคราวนี้ อันนี้...ต้องยอมรับว่า ชักจะ ยุ่ง อยู่พอสมควรเหมือนกัน เพราะการประกาศตัดญาติ ขาดมิตร รื้อสะพานถอยหลังลงไปเป็นแถบๆ ไม่ยอมร่วมสังฆกรรมใดๆ กับ บิ๊กตู่ โดยเด็ดขาด รวมทั้งไม่ยอมให้ เผาไทย กลับมาเผาบ้าน เผาช่อง อีกต่อไป แม้เป็นอะไรที่ถูกต้องตามหลักการเป็นแท่งๆ ด้ามๆ ชัดเจน สง่างาม หรือสง่างอม ก็ตามแต่ แต่ก็คงต้องยอมรับว่า...มันน่าจะส่งผลให้บรรยากาศแห่งการประนีประนอมยอมความ แทบไม่เหลือซาก เหลือเศษ อีกต่อไป...

                                                                  -------------------------------------------------

      เหลือแต่ประชาธิปัตย์ที่จะแลนด์สไลด์ หรือแอฝะลานช์ หรือไม่ เพียงใด ก็ยังมิอาจคาดคำนวณได้ คงต้องไปจับมือถือแขนกับ ภูมิใจไทย ที่หลังๆ นี้...ดูเหมือนว่า เสี่ยหนู ท่านออกจะ ของขึ้น อยู่พอสมควรเหมือนกัน แต่แม้ว่าประชาธิปัตย์กับภูมิใจไทยจะกลายเป็น ก๊กที่สาม ขึ้นมาจริงๆ คือไม่ใช่แค่ ก๊กเอาก็ไม่ใช่-ไม่เอาก็ไม่เชิง เท่านั้น แต่อาจไม่เอาใครเลยนอกจากหัวหน้าพรรคตัวเอง เค้าลางแห่งความ ยุ่ง มันก็น่าจะเริ่มต้นขึ้นมาได้ไม่ยากซ์ซ์ซ์ เพราะการที่จะต้องไปควานหาเสียงสนับสนุนกันในระดับเกินกว่า 375 เสียงขึ้นไป ในรัฐสภาทั้งรัฐสภา ยังไงๆ...มันคงต้องส่งผลให้ฝุ่นคลุ้ง ฝุ่นตลบ เกิดการเสียบ การล้าง เกิดงูเห่า งูเขียว งูบองหลา เลื้อยไป-เลื้อยมา อย่างมิอาจปฏิเสธได้...

                                                                    ------------------------------------------------------

      หรือถ้าหากภูมิใจไทยเขาไม่เอาด้วย หันไปหอบ บ้องกัญชา ขึ้นขบวนรถไฟกับ บิ๊กตู่ ประชาธิปัตย์จะปลีกตัวออกมาเป็นฝ่ายค้าน ก็หนีไม่พ้นที่จะต้องกลายเป็น แนวร่วม กับ เผาไทย กับ อนาคตใหม่ แม้ไม่คิดจะร่วม พาทักษิณกลับบ้าน แต่ยังไงๆ ก็คงต้องร่วมในลักษณะหนึ่ง ลักษณะใด ส่วนจะร่วมเจ็บ ร่วมแรง กันไปถึงขั้นไหน ก็ยากที่จะคาด ยากที่จะประเมินเอาไว้ก่อนล่วงหน้า แต่ที่แน่ๆ ก็คือ...มันน่าจะ ยุ่ง อย่างไม่พึงต้องสงสัย เพราะมันทำให้บรรยากาศแห่งการประนีประนอมยอมความ อันเป็นบรรยากาศที่ถูกถักทอ บูรณาการ กันมาพอสมควร แม้จะไม่สามารถ สมานฉันท์ หรือ ปรองดอง กันได้แบบจริงๆจังๆ ซักเท่าไหร่ แต่ก็ต้องถือเป็นบรรยากาศที่หลายต่อหลายฝ่าย พยายามทุ่มทุน ทุ่มเท ไว้พอสมควร ด้วยเหตุเพราะถือเป็นบรรยากาศที่ออกจะมีความสำคัญต่อช่วงเวลาที่เรียกว่า ระยะเปลี่ยนผ่าน มิใช่น้อย...

                                                                        ------------------------------------------------------

      พูดง่ายๆ ว่า...ภายใต้ช่วงระยะเวลาดังกล่าวนั้น อะไรที่พอยืดๆ หยุ่นๆ กันได้บ้าง ก็น่าจะ สุทธิชัย หยุ่น หรือ เทพชัย หย่อง เอาไว้ก่อน ไม่น่าจะถึงขั้นตัดญาติ ขาดมิตร กำ หลักการ เอาไว้เป็นแท่งๆ ด้ามๆ แม้ว่าบางสิ่ง บางอย่าง มันอาจไม่เป็นไปตามความปรารถนา ความต้องการ เป็นไปตามอุดมคติ อุดมการณ์ ของใครต่อใครไปซะทั้งหมด แต่ก็นึกไม่ออก บอกไม่ถูกอยู่เหมือนกัน ว่าเหตุใดท่านอดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ ที่เคยได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่อดทน อดกลั้น มิใช่น้อย เคยแสดงออกถึงสิ่งที่เรียกว่า ขันติธรรม เอาไว้พอสมควร ท่านถึงได้เกิดอาการ ของขึ้น ไปได้ถึงเพียงนั้น...

                                                                         --------------------------------------------------------

      เพราะแม้ว่าการประกาศตัดญาติ ขาดมิตร รื้อสะพานถอยหลังลงไปในคราวนี้...อาจเป็นอะไรที่น่ายกย่อง ชื่นชม สรรเสริญ ในแง่ของการเป็นนักการเมืองผู้มีอุดมการณ์ อุดมคติ ตามแนวทางที่ตัวเองยึดมั่น ยึดถือ แต่นั่นก็เป็นเกียรติยศ ศักดิ์ศรี ในทาง ส่วนตัว แต่ในแง่ ส่วนรวม แล้ว...มันน่าจะนำไปสู่เค้าลางแห่งความ ยุ่งฉิบหาย หรือ ยุ่งตายห่ะ ไม่มากก็น้อย หรือพูดง่ายๆ ว่า อะไรที่เคยคิดว่าจะราบรื่น ราบเรียบ อยู่พอสมควร คงหนีไม่พ้นที่จะต้อง สะดุดหัวแม่ตีนประชาธิปัตย์ ชนิดอาจล้มคว่ำ คะมำหงาย อาจต้องกลับมาเลือกตั้งกันใหม่อีกรอบ ภายในปีเดียวกันเอาเลยก็ไม่แน่!!!

                                                                           -------------------------------------------------------

      เฮ้ออ์อ์อ์...ก็เอาเถอะ ในเมื่ออันตัวข้าพเจ้าเอง ได้ล้างมือในอ่างพลาสติก ห่างจากวงการชาวยุทธ์มานานแสนนาน อาจคิดอะไรไม่ทัน หรือไม่ลึก เท่ากับสิ่งที่อดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ ท่านกำลังคิดอยู่ในทุกวันนี้ก็เป็นได้ แต่ก็คงต้องสารภาพเอาตรงๆ ว่า หลังจากเห็น คลิปวิดีโอ ประกาศศึก ประกาศจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์คราวนี้แล้ว เล่นเอา มึนซ์ซ์ซ์ ไปสามวัน แปดวัน อดไม่ได้ที่จะต้องหวนไปนึกถึงคำพูดของหัวหน้าพรรค พักรบ (พบรัก) อย่างอดีตนายกฯ บิ๊กจิ๋ว ที่ไปหยิบเอา สัญชาตญานดิบ ของบรรดานักการเมือง มาใช้เป็นเหตุผล ข้ออ้าง หรือใช้เป็น เงื่อนไข ในการชูธง ชักธง รัฐบาลเฉพาะกาล ขึ้นสู่ยอดเสา ชนิด ธง โด่ไม่รู้ล้ม ไปแล้วในทุกวันนี้...

                                                                          --------------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Anon (อีกครั้ง)... An idealist is one who, on noticing that a rose smells better than a cabbage, concludes that it will also make better soup.- นักอุดมคติ คือ ผู้ที่เห็นว่ากุหลาบนั้นมีกลิ่นหอมกว่ากะหล่ำปลี เลยสรุปว่า...การเอากุหลาบมาทำซุป ย่อมดีกว่าเป็นแน่...

                                                                           --------------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"