'เทพโจ๊ก'นำทีมปูพรมค้นภาคเหนือ4จว.ยึดทรัพย์ อดีตรองประธานสภาผู้แทนฯ พรรคเพื่อไทย' 170 ล้านฐานฉ้อโกงประชาชน


เพิ่มเพื่อน    

13 มี.ค.62-   พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม.ในฐานะรองผอ.ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปฉช.ตร.) ,พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.สส.สตม. , พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3 , นายพีระพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์ เลขานุการกรม สำนักงานปปง. พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง สนธิกำลัง ศปอส.ตร. - ตำรวจจบช.ภ.5 ปูพรมตรวจค้น 24 จุด 17 กลุ่มนายทุนใน 4 จังหวัด ทั้งเชียงใหม่ ลำปาง พะเยา และ ลำพูน ตามยุทธการ ขุดรากถอนโคนอาชญากรรม ทำบ้านเมืองให้น่าอยู่ ทวงคืนความเป็นธรรมให้ลูกหนี้เงินกู้นอกระบบ

ในจังหวัดพะเยา ตรวจค้น 999คาร์เซ็นเตอร์หรือพะเยา 999 ลิสซิ่ง ต.บ้านต๋อม อ.เมืองพะเยา เบื้องต้นพบการกระทำความผิดมีการแก้ไขข้อความในสัญญาเงินกู้ที่ลูกหนี้ได้การนำโฉนดที่ดินมาค้ำประกัน เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดโฉนดที่ดิน 35 ฉบับเนื้อที่รวม 110 ไร่ ราคาประมาณ 30 ล้านบาท ไปตรวจสอบ

เจ้าหน้ายังได้เข้ายึดอายัดทรัพย์สินของนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 2 จ.พะเยา กับพวก ในท้องที่อำเภอจุน และอำเภอเชียงคำ หลังพบความผิดในลักษณะร่วมกันฉ้อโกงประชาชน เนื่องจากพบการร้องเรียนจากผู้เสียหายที่ถูกนายวิสุทธิ์ กับพวก ชักชวนให้ร่วมลงทุนในหุ้นน้ำมัน 4 ประเทศ โดยได้ยึดอายัดทรัพย์สินเป็นบ้าน 3 หลัง รถยนต์ 4 คัน อายัดบัญชีธนาคาร 5 บัญชี ร้านคาร์แคร์ 1 แห่ง มูลค่ากว่า 170 ล้านบาท

ที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้เข้าตรวจค้น 10 จุด ซึ่งเป็นเครือข่ายนายทุน 4 กลุ่ม ประกอบไปด้วย บริษัทเมืองไทยแคปปิตอล เชียงใหม่,บริษัทชนะกิจลิสซิ่ง จำกัด , หจก.เวียงพิงค์ไอซ์ เลขที่238/18-20 หมู่ 6 หมู่บ้านศิริวัฒนานิเวศน์ ต.หนองหอย จ.เชียงใหม่ รวมทั้งตรวจค้นบ้านเลขที่ 12/3 หมู่6ตำบลและอำเภอสารภี จ.เชียงใหม่ เบื้องต้นยึดโฉนดที่ดินจำนวน 50 ฉบับ เนื้อที่รวม 120 ไร่ 2 งาน มูลค่าประมาณ 50 ล้านบาท และเอกสารสัญญาการกู้เงินและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่นเดียวกับจังหวัดลำปาง และลำพูนได้ยึดเอกสารสัญญาเงินกู้ที่เกี่ยวข้องไปทำการตรวจสอบ
  
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เผยว่า การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ถือเป็นวาระแห่งชาติที่รัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ความสำคัญ เร่งรัดขับเคลื่อนแก้ไข จึงได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันบูรณาการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและดำเนินการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบอย่างจริงจัง 
    
เขากล่าวว่าที่ผ่านมาได้ดำเนินการปราบปรามทั่วประเทศบังคับใช้กฎหมาย คืนที่ดินให้กับประชาชนเป็นจำนวนมากทำให้สถานการณ์ขณะนี้ในพื้นที่ภาคอีสานดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังพบว่าในพื้นที่ภาคเหนือชาวบ้านได้รับผลกระทบจากลิสซิ่งที่ปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ยที่เกินกว่ากฎหมาย ทำให้ตลอดระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ดำเนินการจับกุมยึดอายัดทรัพย์นายทุนในภาคเหนือ เพื่อนำโฉนดคืนกับพี่น้องประชาชน ซึ่งในวันนี้ได้ตรวจค้น 24 จุด ยึดอายัดทรัพย์ 3 จุด ที่พบว่าเป็นเรื่องหนี้นอกระบบและฉ้อโกงประชาชน

สำหรับพื้นที่จ.พะเยานั้น มีการตรวจค้นนายทุนเงินกู้ รวมทั้งมีการยึดทรัพย์ ผู้สมัครสส.พรรคการเมืองหนึ่ง ในจ.พะเยา หลังเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาตามฐานความผิดฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานฟอกเงิน โดยยึดทรัพย์ 170 ล้าน

“การทำงานวันนี้ยึดหลักประชาชนเป็นที่ตั้ง และไม่เลือกปฎิบัติจะบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เป็นธรรมและเท่าเทียม อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่าปัญหาหนี้นอกระบบได้สร้างปัญหาก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำในสังคม โฉนดที่ดินตกอยู่ในกลุ่มนายทุนเพียงไม่กี่คน หนำซ้ำยังเอาเปรียบลูกหนี้ โดยรัฐบาลมีความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างจริงจังเพื่อให้ประชาชนได้กลับมาทำภาคการเกษตร เพื่อมีที่ทำกินเลี้ยงชีพ และอยู่กันพร้อมหน้าเหมือนสังคมเมื่อก่อน ซึ่งหลังจากนี้จะเพิ่มมาตรการความเข้มข้นในการดำเนินการ โดยนำมาตรการทางกฎหมายเข้ามาใช้สามส่วนประกอบไปด้วย มาตรการทางภาษีของกรมสรรพากร มาตรการยึดทรัพย์ของสำนักงาน ปปง. และมาตรการกฎหมายอาญาฟอกเงิน เพื่อให้สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่เน้นแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ”

สำหรับนายวิสุทธิ์ ​ไชยณรุณ มีตำแหน่งเป็นถึง อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ของพรรคเพื่อไทย เป็นสมาชิกกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ในจังหวัดพะเยา


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"