‘ศรี’ลุยร้องกกต.! พรรคแจกแหลก แจงที่มางบฯด้วย


เพิ่มเพื่อน    

  "ศรีสุวรรณ" เอาจริง เตรียมร้องเรียน กกต.วันจันทร์นี้ หลังพบว่าพรรคการเมืองหาเสียงลดแลกแจกแถม แต่ไม่ระบุที่มาของเงินที่ต้องใช้ดำเนินการ  ซึ่งไม่เป็นไปตามกฎหมายพรรคการเมือง โทษปรับไม่เกิน 5 แสน 

    นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ออกแถลงการณ์สมาคมฯ เรื่อง “นโยบายแข่งกันแจกเงินของพรรคการเมืองส่อขัดรัฐธรรมนูญ” ระบุว่า ด้วยขณะนี้ปรากฏเป็นการทั่วไปในการโฆษณาหาเสียงของพรรคการเมืองต่างๆ นั้น ส่วนใหญ่ของนโยบายจะมีลักษณะการใช้เงิน การแจกเงิน อย่างมากมาย เข้าข่ายเป็นนโยบายประชานิยม เช่น การขึ้นค่าแรง 400-425 บาท, ปริญญาตรี 18,000-20,000 บาท, เบี้ยเด็ก 1,200 บาท, เบี้ยวัยรุ่น 2,000 บาท, เบี้ยคนชรา 1,800 บาท, ข้าวหอมตันละ 18,000 บาท ฯลฯ 
    ซึ่งการกำหนดนโยบายและการโฆษณาหาเสียงดังกล่าว จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามบทบัญญัติที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ 2560 ว่าด้วยการปฏิรูปประเทศ ด้านการเมือง ม.258 ก. (3) ประกอบ ม.57 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ด้วย กล่าวคือ นโยบายใดที่ต้องใช้จ่ายเงิน การประกาศโฆษณานโยบายนั้น อย่างน้อยต้องมีรายการดังต่อไปนี้ (1) วงเงินที่ต้องใช้และที่มาของเงินที่จะใช้ในการดําเนินการ (2) ความคุ้มค่าและประโยชน์ในการดําเนินนโยบาย และ (3) ผลกระทบและความเสี่ยงในการดําเนินนโยบาย เพื่อที่จะทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ตัดสินใจที่จะลงคะแนนให้กับผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใดได้
          แต่ปรากฏว่านับตั้งแต่มี พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.ออกมา พรรคการเมืองส่วนใหญ่ที่ลงชิงชัยในการเลือกตั้งครั้งนี้ ยังไม่ดำเนินการให้เป็นไปตาม ม.57 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 เลย และอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ ม.62 ประกอบ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ 2561 ซึ่งสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศล้มเหลวเหมือนดั่งประเทศเวเนซุเอลาในขณะนี้ได้
        ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จำต้องนำความไปร้องเรียนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในวันจันทร์ที่ 18 มี.ค. 2562 เวลา 13.00 น. เพื่อขอให้สั่งพรรคการเมืองต่าง ๆ ดําเนินการให้ครบถ้วนและถูกต้องภายในระยะเวลาที่ กกต.กําหนดก่อนการลงคะแนนเลือกตั้ง ซึ่งหากพรรคการเมืองใดไม่ปฏิบัติตามคําสั่งของ กกต. ให้มีโทษปรับไม่เกิน 5 แสนบาท และปรับอีกวันละ 1 หมื่นบาท ตลอดระยะเวลาที่ยังมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง ตามมาตรา 121 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ต่อไป
         ซึ่งหาก กกต.ยังเพิกเฉยต่อการแจ้งและบังคับให้พรรคการเมืองต่างๆ ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายข้างต้นแล้ว อาจทำให้การเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคม 2562 นี้ เป็นการเลือกตั้งที่ไม่สุจริตและเที่ยงธรรม ซึ่งสมาคมฯ อาจพิจารณานำไปสู่การฟ้องร้องเพื่อขอให้ศาลสั่งให้การเลือกตั้งทั่วไปในครั้งนี้เป็น “โมฆะ” ต่อไป
    อย่างไรก็ตาม พบว่าหลายพรรคการเมืองยังคงปราศรัย และยืนกรานว่านโยบายของตนเองนั้นไม่ผิดกฎหมายแต่อย่างใด 
    นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ปราศรัยที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ว่า พรรคมีนโยบายที่ตอบโจทย์ประชาชนทั้งเรื่องสวัสดิการ อย่าง บัตรประชารัฐ ที่หากมีโอกาสเข้าไปบริหารประเทศ จะเพิ่มบัตรให้คนตกหล่นอย่างครอบคลุมและทั่วถึง ขยายสิทธิไปยังผู้พิการ ผู้สูงอายุ ตามกลุ่ม ยังมีนโยบายมารดาประชารัฐ ที่ดูแลตั้งแต่แม่ตั้งครรภ์เดือนละ 3,000 จำนวน 9 เดือน ค่าคลอด 10,000 บาท และช่วยค่าเลี้ยงดูจนถึง 6 ปี อีกเดือนละ 2,000 บาท  
    ดังนั้น วันนี้เราต้องเปลี่ยนแปลง เพื่อโอกาสที่เป็นจริง พรรคเราไม่ขัดแย้งกับใคร เราไม่พูดว่าปรองดองเพราะไม่เคยทะเลาะกับใคร เรามาทำงานให้พี่น้อง เรามาเพราะบ้านเมืองต้องการความสงบ ถ้ายังตีกันจะอยู่กันได้อย่างไร พรรคจึงเสนอตัวเข้ามาทำงานรับใช้ ที่สำคัญต้องมีผู้นำที่เหมาะสม 
    "นาทีนี้ต้องลุงตู่เท่านั้น ใครจะพูดไม่เอาลุงตู่ แต่เราเอา ใจคนหัวหินอยู่กับลุงตู่ เราไม่มีจุดประสงอื่น ถ้าบ้านเมืองไม่เป็นแบบนี้ พรรคพลังประชารัฐคงไม่เกิด วันนี้ประเทศกำลังเปลี่ยนผ่าน เราจะไม่เดินไปบนถนนเส้นเดิมที่ขัดแย้ง แต่เราจะก้าวไปสู่อนาคตที่สดใสร่วมกัน ดังนั้น 24 มีนา. กาพลังประชารัฐ เลือกลุงตู่ เป็นนายกฯ "
    ที่จังหวัดกำแพงเพชร คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย นำทีมปราศรัยยืนยันว่า ราคาข้าวขาว 5% ต้องไม่ต่ำกว่า 12,000 บาทต่อตัน ราคาอ้อยจะต้องไม่ต่ำกว่า 1,000 บาทต่อตัน จะใช้เวลา 6 เดือน ทำตามคำมั่น ให้ราคาสินค้าเกษตรดีขึ้น 
    ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า บัตรทุกบัตรเป็นเงินภาษีอากรของประชาชน ดังนั้นเขาให้บัตรอะไรมา ไม่ต้องไปเกรงใจ เพราะพี่น้องยากจนมามากแล้ว ขอให้ออกไปเลือกพรรคเพื่อไทยอย่างถล่มทลายเท่านั้น จึงจะเอาชนะกติกาที่ฝ่ายผู้มีอำนาจสร้างขึ้นมาเพื่อเอาเปรียบได้ 
    นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ปราศรัยที่จังหวัดตากว่า ตลอด 4-5 ปีที่ผ่านมา การค้าขายทรุดโทรม เศรษฐกิจของประเทศตกต่ำ ถือเป็นครึ่งทศวรรษแห่งความถดถอย-ล้าหลังของชาวจังหวัดตากและประชาชนไทยทั้งประเทศ ซึ่งพรรคเพื่อไทยมีแนวทางในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและนโยบายพัฒนาประเทศ ซึ่งการเลือกตั้งรอบนี้จำเป็นต้องได้เสียงสนับสนุนจากประชาชนจำนวนมาก เพื่อให้สามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเข้าไปบริหารประเทศได้ 
    โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวด้วยว่า พรรคเพื่อไทยจะเข้ามาแก้ไขกฎหมายการค้าชายแดนให้คึกคักและขจัดเงื่อนไขที่เป็นข้อจำกัดในการทำมาหากินของประชาชนตามแนวชายแดน โดยยืนยันว่าจะแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ภายใน 3 เดือน และในกรอบ 6 เดือน จะลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ให้ประชาชนทุกสาขาอาชีพ รวมถึงการมีทุนให้ผู้ประกอบการด้วยดอกเบี้ยต่ำ มีกองทุนเพื่อการประกอบอาชีพเพื่อสร้างเศรษฐีใหม่ นอกเหนือจากการพักชำระหนี้เกษตรกรและอื่นๆ 
    ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรค ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงและผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค กล่าวว่า วันที่ 24 มีนาคม เป็นโอกาสที่ชาวจังหวัดตากและคนไทยทั้งประเทศจะส่งลุงผู้มีอำนาจให้กลับไปเลี้ยงหลาน ขอให้ชาวตากเปลี่ยนแปลงใน 2 เรื่องคือ หนึ่ง ให้รัฐบาลชุดนี้กลับบ้านไปเลี้ยงหลาน และสอง คือพรรคเพื่อไทยไม่เคยปักธงในเขต 3 จังหวัดตากได้ 
    ที่จังหวัดสกลนคร บรรยากาศการหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้ง นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และประธานกรรมการนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะ เปิดเวทีปราศรัย โดยนายกรณ์ชูนโยบายแก้จนครบวงจร ตั้งแต่เข้าถึงปัญหาพื้นฐานคือการดูแลต้นทุนปัจจัยการผลิต ไถปั๊บรับสองพัน ต่อยอดสอดรับกับประกันรายได้เกษตรกร ไม่บิดเบือนกลไกตลาด ดูแลไม่ให้ชาวบ้านขาดทุนจากการผลิตสินค้าเกษตร ดูแลแก้จนบรรเทาปัญหาปากท้องด้วยสวัสดิการพื้นฐาน เบี้ยผู้ยากไร้ เบี้ยผู้สูงอายุ และเบี้ยเด็กแรกเกิด เงินหลานน้อย เป็นชุดนโยบายแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
       นายกรณ์ยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์พร้อมดูแลพี่น้องอีสานให้พัฒนาอย่างยั่งยืนด้วยชุดนโยบาย "สร้างคน" เกิดปั๊บรับสิทธิ์เงินแสน เพื่อการดูแลพัฒนาการเด็กแรกเกิดมีเงินกินนมและอาหาร ตามด้วย English For all เด็กไทยพูดภาษาอังกฤษได้ เรียนฟรี ปวส.เสริมทักษะชั้นสูงอาชีวะสร้างชาติ ไปจนถึงฝึกทักษะด้วยคูปองทักษะของคนทุกวัย.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"