3กระทรวงมีมติร่วม"แบนพาราควอต"!


เพิ่มเพื่อน    


       

"สธ.-ก.ษ-อุต"ชงต่อให้คณะอนุกก.กลั่นกรองอีก/ก่อนส่งให้บอร์ดวัตถุอันตรายตัดสินใจ3กระทรวง"สธ.-กษ-อุตฯ" มีมติร่วม"แบนพาราควอต"   แต่จะส่งให้คณะอนุกรรมกรรมการเฉพาะกิจกลั่นกรองอีกครั้ง คาดรู้ผลภายในปลายเดือนนมี.ค.  หลังจากนั้นส่งให้คณะกรรมการวัตถุอันตรายตัดสินใจ ว่าจะต่ออายุหรือระงับ  ด้านเครือข่ายต้านสารเคมี ลั่นจะติดตามสารเคมีที่ทดแทนพาราควอตต่อไป

15 ก.พ.- ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสมบูรณ์ ยินดียั่งยืน รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม  นักวิชาการ และตัวแทนภาคประชาชนที่ทำงานด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ประชุมหาข้อสรุปการระงับใช้พาราควอตในภาคเกษตรกร ซึ่งมาจากจากการที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งการ ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา ให้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับพาราควอตและผลกระทบจากการใช้สารเคมีกำจัดวัชพืชดังกล่าว เพื่อรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบโดยเร็ว และเพื่อเสนอต่อ คณะอนุกรรมกรรมการเฉพาะกิจ ที่กระทรวงอุตสาหกรรมตั้งขึ้น  
    โดย ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล กล่าวภายหลังการประชุม ว่า การประชุมยินยันมติเดิมของคณะกรรมการขับเคลื่อนปัญหาการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งประกอบด้วย 5 กระทรวงหลัก และจากการสั่งการของท่านนายยกรัฐมนตรีที่มีความเป็นห่วงสุขภาพของประชาชนให้มีการระงับสารพาราควอตภายใน 2 ปี พร้อมทั้งให้มีการหาสารทดแทน โดย การประชุมวันนี้เป็นการประชุมเพื่อหาข้อมูลผลกระทบจากการใช้พาราควอตร่วมกันของ 3 กระทรวง คือกระทรวงสาธารณสุข กระทวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงอุตสาหกรรม นักวิชาการ และตัวแทนภาคประชาชนที่ทำงานด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งข้อสรุปไปยังคณะอนุกรรมกรรมการเฉพาะกิจ ที่กระทรวงอุตสาหกรรมตั้งขึ้น เพื่อพิจารณาว่าจะมีการต่อใบอนุญาตหรือระงับการใช้พาราควอต โดยมี นายภักดี โพธิศิริ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการวัตถุอันตราย เป็นประธาน ซึ่งจะมีการพิจารณา ภายในเดือนมีนาคม ก่อนส่งไปยังคณะกรรมการวัตถุอันตรายพิจารณาต่อไป


“ ในการประชุม โดยมีการยืนยันตามมติเดิมให้มีการระงับการใช้พาราควอต  ซึ่งการหยุดไปเลยจะส่งผลกระทบ ดังนั้นจึงต้องมีการกำหนดช่วงเวลา มีมาตรการและต้องมีการหาสารทดแทนให้ชัดเจน โดยจากมติคณะกรรมการฯ ก็กำหนดว่าต้องระงับการใช้ภายใน 2 ปี  ซึ่งก็มีฝ่ายที่คัดค้านอ้างตามงานวิจัยว่าการใช้พาราควอตตามข้อกำหนดจะไม่ทำให้กระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่เป็นงานวิจัยตั้งแต่ปี พ.ศ.2540 หรือ 20 ปีที่แล้ว ซึ่งงานวิจัยของปัจจุบันพบว่ากระทบต่อสิ่งแวดล้อมชัดเจน ดังนั้นเมื่อมีมติระงับก็ต้องมีการดำเนินการต่อไป หากบอกว่าการใช้สารทดแทนแพงกว่าก็ต้องเลือกเอาระหว่างการใช้สารอื่นที่แพงกว่าแต่ดีกับสุขภาพประชาชน หรือ พาราควอตที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพประชาชน” รมว.สธ. กล่าว.


 นายเลิศวิโรจน์ กล่าวว่า เมื่อที่ประชุมมีมติว่าต้องมีการระงับดังกล่าว ก็ต้องเร่งในการหาสารทดแทน ซึ่งทางกรมวิชาการเกษตรก็อยู่ระหว่างการดำเนินการศึกษาทางวิชาการเพิ่มเติมอยู่ โดยทางกระทรวงเกษตรฯ ก็มีนโยบายชัดเจนในการดำเนินการเรื่องเกษตรปลอดภัย ให้ได้ร้อยละ 65 ภายในปี 2565 และการทำเกษตรอินทรีย์ให้ได้อย่างน้อย 35 % ในปี 2570 


นายสมบูรณ์ กล่าวว่า หลังจากได้ข้อสรุปในวันนี้ ทางอนุกรรมการฯ จะมีการพิจารณาเพื่อส่งเรื่องไปยัง พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกฯ ซึ่งจะดูทั้งหมดในเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และจะทำอย่างไรในการค่อยๆลดละ เลิกสารดังกล่าว


นางสาวปรกชล อู๋ทรัพย์ ผู้ประสานงาน เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่การประชุมในวันนี้มีการยืนยันตามมติเดิม และเห็นแก่สุขภาพของประชาชน ซึ่งมีความชัดเจนจากท่านอธิบดีกรมวิชาการเกษตรเองที่มีการแถลงว่าขณะนี้มีสารทดแทนการใช้พาราควอตแล้ว โดยหลังจากนี้ทางเครือข่ายก็จะมีการติดตามการทำงานของคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดต่อไป .
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"