จากอนาคตใหม่สู่อนาคตไหม้???


เพิ่มเพื่อน    

      ใครคิดจะประกาศจัดตั้งรัฐบาลตามมาตรฐานเสียง ส.ส. หรือเสียงป๊อปปูลาร์ โหวต...ก็คงต้องปล่อยให้เพ้อๆ ไปตามประสาพ่อเจ้าประคุณรุนช่อง หรือแม่เจ้าประคุณรุนหม้อ กันตามเรื่อง ตามราว อย่าไปหยิบมาเป็นปัญหา ให้ต้องปวดเศียร เวียนเกล้า หรือต้องเมื่อยเนื้อ เมื่อยตัว โดยใช่เหตุ เพราะอย่างที่ ป๋าเปลว สีเงิน ท่านได้แจกแจงขั้นตอน รายละเอียด เป็นฉากๆ ไปแล้วนั่นแหละว่า มันคงต้องอาศัยช่วงเวลา การชิงจังหวะ ชิงไหว-ชิงพริบกันอีกเยอะ...

                                                              ------------------------------------------------------

      หรือหลังจากชิงไป-ชิงมา...ต่างฝ่ายต่างมีเสียง ปริ่มน้ำ ไปด้วยกันทั้งคู่ ก็คงต้องถือเป็นแค่ ปัญหาทางเทคนิค อีกนั่นแหละ และโดย ธรรมชาติทางการเมือง มันยังเหลือทางออก ทางไป อีกไม่รู้กี่ช่อง กี่ทาง ยิ่งถ้าหากไม่มีฝ่ายหนึ่ง ฝ่ายใด สามารถจัดตั้งรัฐบาลที่มีเสียง พ้นน้ำ ขึ้นมาได้แบบจริงๆ จังๆ ก็ยิ่งเท่ากับทำให้ รัฐบาล คสช. ซึ่งมี บิ๊กตู่ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว แถมยังมี มาตราฉี่ฉิบฉี่ เอาไว้ในมืออีกต่างหาก สามารถอยู่ยาวว์ว์ว์ยิ่งขึ้นไปเท่านั้น ด้วยเหตุนี้...อย่าถึงกับต้องไปปวดเศียร เวียนเกล้า อะไรมากมายนัก...

                                                              ------------------------------------------------------

      แต่สิ่งที่ควรหยิบมาเป็นปัญหา หรือเป็น โจทย์ใหญ่ของสังคมไทยในวันนี้ ดังที่อาจารย์ หรือนักวิชาการอิสระท่านหนึ่ง ผู้มีนามกรว่า Kittitouch Chaiprasith หรือ ดร.  กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ อาจารย์ด้านสถาปัตยกรรมและปรัชญาการเมือง ท่านได้โพสต์ไว้ในเฟซบุ๊กของท่าน และเว็บไซต์ ไทยโพสต์ เขาไปหยิบเอามาเป็นข่าวไปเมื่อวัน-สองวันนี้ โดยตั้งเป็นประเด็นเอาไว้ซะยืดยาวว่าด้วย การแบ่งแยกให้เกิดสงครามระหว่างวัย และการสร้างความชิงชังระหว่างคนไทย ความสำเร็จอันหนึ่งในการหาเสียงของพรรคอนาคตใหม่และเครือข่ายของพวกเขา อันนี้นี่แหละ...ที่น่าสนใจ และน่าคิด น่าสะกิดใจเอามากๆ...

                                                                  ------------------------------------------------------

      คือแม้ว่า คนแก่ อย่าง ท่านขุนน้อย จะไม่ค่อยมีโอกาสรับรู้เรื่องราว ความเป็นไปในโลก โซเชียลมีเดีย  มากมายซักเท่าไหร่ แต่โดยบรรยากาศที่ ดร. กิตติธัช  ท่านถึงกับสรุปเอาไว้ประมาณว่า สงครามระหว่างวัยครั้งนี้รุนแรงมาก ชนิดไม่เคยเกิดมาก่อนในประเทศไทย  ดูๆ แล้ว...มันก็พอมีหลักฐาน ข้อพิสูจน์ ที่ออกจะมีน้ำหนักอยู่พอสมควร ไม่ว่าจากกรณีที่คนแก่หลายต่อหลายรายส่งเสียงโอดครวญกันไปเป็นแถบๆ ถึงการถูกแจกกล้วย แจกซังข้าวโพด โดยบรรดาเด็กรุ่นใหม่ที่ เกิดการรวมตัว ตามเข้าไปถล่มตามเพจต่างๆ ด้วยลักษณะอาการหยาบช้า กักขฬะ ต่อใครก็ตามที่ไม่สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่  ดังที่ ดร. กิตติธัช ท่านว่าไว้ หรือดังที่ ดร.อีกรายหนึ่ง อย่าง ดร. เอนก เหล่าธรรมทัศน์ ถึงกับ ไปไม่เป็น มาก่อนหน้านี้ จนนำมาซึ่งคะแนนเสียง คะแนนนิยมระดับ 7 ล้าน 8 ล้าน ของพรรคการเมืองพรรคนี้ แบบเต็มเม็ด เต็มสูบ...

                                                                    -----------------------------------------------------

      พูดง่ายๆ ว่า...ความขัดแย้งที่ก่อให้เกิด ปัญหา สำหรับสังคมไทยมาโดยตลอดนับทศวรรษๆ ที่ผ่านมา คือความขัดแย้งระหว่าง เหลืองกับแดง นอกจากยังไม่ได้หมดไป หรือไม่ได้คลายๆ จางๆ ลงไปอย่างเท่าที่ควรจะเป็น จากการเลือกตั้งครั้งนี้ กลับก่อให้เกิดความขัดแย้งในรูปใหม่ ระหว่าง ไดโนเสาร์กับกะปอม หรือระหว่าง คนรุ่นเก่า กับ คนรุ่นใหม่ ระดับที่สามารถมองเห็นได้ชัด จนอาจารย์ นักวิชาการ อย่าง ดร. กิตติธัช ท่านถึงกับถือเป็น โจทย์ใหญ่ของสังคมไทย ไปเลยถึงขั้นนั้น และก็คงไม่ได้ถือเป็นการมองโลกในแง่ร้ายจนเกินไป เพราะความขัดแย้งในลักษณะที่ว่า มันเป็นสิ่งที่สามารถอุบัติขึ้นมาได้เสมอๆ ในแทบทุกๆ สังคมนั่นแหละ แม้แต่ สังคมไทย ของเราเอง ความขัดแย้งดังกล่าวก็ไม่ได้ถือเป็น เรื่องใหม่ แต่เคยปรากฏให้เห็นมาแล้วก่อนหน้านี้ ชนิดสามารถย้อนหลังกลับไปเมื่อ 40 กว่าปีที่แล้วโน่นเลย...

                                                                    ---------------------------------------------------

      นั่นคือความขัดแย้งระหว่างคนรุ่นใหม่ที่มีแนวคิดออกไปทาง ฝ่ายซ้าย หรือออกจะนิยมชมชอบ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย กับคนรุ่นเก่าที่มีแนวคิดออกไปทาง ฝ่ายขวา หรือฝ่ายอนุรักษ์ฯ เมื่อช่วงระหว่างปี พ.ศ.2519 หรือช่วงระยะที่ พรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งมีอิทธิพลไม่น้อยต่อพรรคคอมมิวนิสต์ไทย ยังถูกครอบงำด้วยบรรดาผู้นำที่มีแนวคิดแบบ สุดโต่ง โดยมีบรรดาพวก Red Guard หรือพวก ยุวชนแดง ทั้งหลายเป็นเครื่องมือ และจะด้วยเหตุผลกลใดก็แล้วแต่ ภายใต้ประวัติศาสตร์การเมืองช่วงนี้ จึงทำให้ สงครามระหว่างวัย ที่มีแนวคิดทางการเมืองเข้ามาเป็นตัวสอดแทรก มันจึงจบลงด้วย โศกนาฏกรรม อันสุดแสนขนลุก ขนพอง น่าสยองขวัญเอามากๆ นั่นคือ โศกนาฏกรรม 6 ตุลาคม 2519...

                                                                      ---------------------------------------------------

      ด้วยเหตุเพราะไม่ว่า ฝ่ายซ้าย หรือ ฝ่ายขวา ต่างพร้อมที่จะใช้ประโยชน์จากความ สุดโต่ง ของพวกเด็กๆด้วยกันทั้งสิ้น ขณะที่พวกฝ่ายขวาเกิดอาการเปรี้ยวมือ เปรี้ยวตีน พร้อมที่กระทืบพวกเด็กๆ ได้ทุกเมื่อ พวกฝ่ายซ้ายก็พร้อมที่จะยุพวกเด็กๆ ให้ กวนตีน ให้มากๆ เข้าไว้ เพราะถ้าเกิดการปะทะขั้นแตกหักขึ้นมาเมื่อไหร่ โอกาสที่ยุวชนแดง ทั้งหลาย จะต้อง หนีเข้าป่า หรือหนีไปซบตักพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย อันจะส่งผลให้พรรคการเมืองใต้ดินพรรคนี้ มีโอกาสมาแรง แซงโค้ง ไม่น้อยไปกว่า พรรคอนาคตใหม่ ในปัจจุบันนั่นเอง...

                                                                      ----------------------------------------------------

      ดังนั้น...ไม่ว่า ยุวชนส้ม หรือ Orange Guard ที่ออกอาการ หยาบช้า-กักขฬะ ดังที่ ดร. กิตติธัช ท่านว่าไว้...จะสามารถก่อให้เกิด อนาคตใหม่ สำหรับสังคมไทยวันข้างหน้าหรือไม่ อย่างไร ก็ตาม แต่การเปิดฉาก สงครามระหว่างวัย จะด้วยเหตุเพราะความเกรียน ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือเพราะถูกยุ ถูกเชียร์ โดยพวกผู้ใหญ่ที่หวังใช้เด็กๆ เป็นเครื่องมือทางการเมือง จึงกลายเป็น โจทย์ใหญ่ของสังคมไทย ดังที่ ดร. กิตติธัช ท่านตั้งไว้เป็นประเด็นขึ้นมาแล้วจริงๆ ชนิดไม่ว่าใครก็เถอะ...ถ้าไม่อยากจะเห็น โศกนาฏกรรม อันสุดแสนสยดสยอง หวนกลับมาสู่สังคมไทยอีกครั้ง คงต้องหาทางช่วยรั้งๆ พวกเด็กๆ เหล่านี้ไว้มั่ง แม้แต่ผู้ได้รับการสนับสนุนจากเด็กๆ อย่าง พรรคอนาคตใหม่ ก็ตาม ถ้ายังหลงเหลือผู้หลัก-ผู้ใหญ่ ผู้ที่พอมีวุฒิภาวะอยู่ภายในกลุ่มก้อนองค์กรของตัวเอง ก็อย่าถึงกับต้องนำพาเด็กๆ และนำพาประเทศไทยไปสู่ อนาคตไหม้  ต่อไปอีกเลย...

                                                                      -----------------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก English proverb... Knowledge makes humble; ignorance makes proud.- ความรู้ก่อให้เกิดความอ่อนน้อม อวิชชาก่อให้เกิดความยโส...

                                                                      -------------------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"