ทิ้งทวน!ระวังวิกฤติวาทกรรมขัดแย้ง


เพิ่มเพื่อน    

 “ประยุทธ์” ทิ้งทวนรายการศาสตร์พระราชาฯ เตือนสติอย่าเอาเรื่อง “ประชาธิปไตย-คนต่างรุ่น” มาแบ่งแยกสร้างความขัดแย้งให้เป็นวิกฤติรอบใหม่ แนะทุกฝ่ายทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี มองประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว โดยยึด 3 สถาบันหลักของชาติที่มีมายาวนานกว่า 1,400 ปี

    เมื่อช่วงค่ำวันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ซึ่งจัดเป็นครั้งสุดท้ายว่า ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่สนใจติดตามรายการคืนความสุขให้คนในชาติ และรายการศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน มาโดยตลอดช่วงเวลา 5 ปีที่ผ่านมา 
“ผมถือว่าเป็นช่องทางสื่อสารที่สำคัญของนายกฯ กับพลเมืองไทยทุกคน ทุกอาชีพ และทุกวัย ในการแถลงแนวคิด นโยบาย รายงานผลการดำเนินงาน และแจ้งเตือนภัย อีกทั้งปลูกต้นไม้ในใจคนไทย ด้วยการกระตุ้นเตือนด้านคุณธรรมจริยธรรมที่เริ่มแห้งเหือดไปจากสังคมไทย เป็นการปลูกจิตสำนึก ความรักบ้านเมืองแผ่นดินเกิด ความสามัคคีปรองดองของคนในชาติ และอุดมการณ์ประชาธิปไตยที่ถูกต้องสอดคล้องกับความเป็นไทยภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
     นายกฯ ยังกล่าวอีกว่า การเดินหน้าประเทศตลอดเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ตามโรดแมปของ คสช.นั้น ตั้งแต่การฝ่าทางตันทางการเมือง การก้าวข้ามความขัดแย้ง การปลดล็อกด้านงบประมาณเพื่อคืนความสุขให้กับคนไทย คืนรอยยิ้มให้แผ่นดินเรา การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และการผ่านประชามติ ตามหลักการประชาธิปไตย เพื่อแก้ปัญหาในอดีต การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติและแผนปฏิรูปประเทศ เพื่อขับเคลื่อนประเทศไปสู่อนาคตไปสู่ยุคดิจิทัล ไปจนถึงการกอบกู้ภาพลักษณ์ของประเทศ และยกระดับความมั่นใจในเสถียรภาพของประเทศในสายตาชาวโลก ซึ่งผลการจัดอันดับด้านต่างๆ ก็ดีขึ้นตามลำดับ 
“สิ่งต่างๆ ที่กล่าวมานี้ ทุกคนคงทราบและจำได้ดีว่าเราทุกคนได้ร่วมกันฝ่าฟันอุปสรรค และสิ่งที่ส่งผลร้ายแรงต่อชาติบ้านเมืองอะไรกันมาบ้างนะครับ ท่ามกลางความขัดแย้งในแทบทุกมิติ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคง กระบวนการยุติธรรม ท่ามกลางการสร้างแนวความคิดใหม่ๆ ซึ่งไม่ได้มาจากความต้องการที่แท้จริงของประชาชน หาประโยชน์จากประชาชนบ้าง ให้มีความหวังโดยไม่คำนึงถึงวิธีการ ข้อเท็จจริง ปัญหาทับซ้อน รวมทั้ง บริบทโลกที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจนำไปสู่การสูญเสีย หรือละทิ้งโอกาสที่รัฐบาลนี้ได้สร้างไว้ด้วยความไม่เข้าใจ ทั้งโดยเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
นายกฯ ยังกล่าวว่า ขอขอบคุณพี่น้องข้าราชการ พลเรือน ตำรวจ ทหารทุกคนที่ได้ร่วมกันเป็นสะพานให้ประชาชนได้ก้าวข้ามกับดักต่างๆ ในอดีต ก้าวหน้าไปสู่อนาคตที่ดีกว่า และขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมมือร่วมแรงร่วมใจกัน จับมือจูงมือกันนำพาประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ตามแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป ซึ่งชีวิตนั้นไม่อาจหยุดนิ่ง ประเทศชาติก็ไม่อาจหยุดเดิน โดยปัญหาน้อยใหญ่ยังรอการแก้อย่างยั่งยืน ซึ่งในระหว่างที่ยังไม่มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศ ขอให้ประชาชนได้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทุกช่องทางที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ เพื่อประกอบการตัดสินใจและเพิ่มการมีส่วนร่วมในการเดินหน้าประเทศของเรา
“ผมจะยังปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อบริหารราชการแผ่นดินต่อไป ให้บ้านเมืองของเราสามารถเปลี่ยนผ่านไปได้ด้วยความสงบสุข ได้ดำเนินการตามนโยบายยุทธศาสตร์ชาติ แผนการปฏิรูป 11 ด้าน และแผนแม่บทต่างๆ อย่างต่อเนื่องไม่สะดุด ไม่หยุดชะงัก ภายใต้บริบทของโลกที่ยังคงผันผวนและอยู่เหนือการควบคุม ทั้งนี้ก็เพื่อจะรักษาเสถียรภาพ ความมั่นคงของประเทศไว้ให้ดีที่สุด”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า เรายังมีทั้งวิกฤติและโอกาสอยู่ใกล้ตัวพวกเราทุกคนอยู่ ซึ่งสิ่งที่เป็นห่วงในปัจจุบันคือความพยายามสร้างเงื่อนไขในสังคมเพื่อประโยชน์ในการทางการเมือง ซึ่งอาจนำมาสู่ความขัดแย้งครั้งใหม่ในอนาคต ได้แก่ 1.ความเป็นประชาธิปไตยและไม่เป็นประชาธิปไตย ซึ่งควรยุติได้แล้ว เพราะเราผ่านการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.มาแล้ว และทุกพรรคการเมืองได้รับเสียงได้รับการสนับสนุนจากประชาชน ตามครรลองประชาธิปไตยที่เรารอคอย เป็นไปตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ผ่านการลงประชามติมาแล้ว 2.คนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ก็เป็นอีกวาทกรรมสร้างความแตกแยก แบ่งคนในสังคม รวมทั้งในครอบครัว ซึ่งเป็นสถาบันพื้นฐาน ขอให้ลองทบทวนดู แม้เราอ่านหนังสือเล่มเดียวกัน เรียนตำราเล่มเดียวกัน แต่อาจมีความเห็นที่แตกต่างได้ เนื่องจากผ่านประสบการณ์ ผ่านร้อนผ่านหนาวมาต่างกัน
“คนอายุ 50 ปีขึ้นไป นอกจากมีภาพจำดีๆ ยุคโชติช่วงชัชวาล และเปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้าที่ไทยเกือบจะก้าวไปเป็นเสือตัวที่ 5 ของเอเชียมาแล้ว แต่ก็มีภาพจำที่ไม่ดี เช่น เหตุการณ์ 14 ตุลา 16, เหตุการณ์ 6 ตุลา 19 แล้วก็พฤษภาทมิฬปี 35 นะครับ วิกฤตการณ์ต้มยำกุ้ง การลอยตัวค่าเงินบาท การเป็นหนี้ IMF การชุมนุมและการสลายการชุมชนทางการเมืองห้วง 10 ปีที่ผ่านมา เป็นต้น ในขณะที่ต่างคน ต่างช่วงวัยก็ย่อมผ่านชีวิต มีภาพจำทั้งที่ดี-ไม่ดี มากน้อยแตกต่างกันไป เช่น เด็กอายุ 18 ปี ที่เพิ่งมีสิทธิเลือกตั้ง ครั้งนี้ อาจไม่เคยสนใจการบริหารบ้านเมืองของรัฐบาลและ คสช.ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เพราะมุ่งศึกษาเล่าเรียนตามหน้าที่ของตน แต่ก็ขอขอบคุณ และเคารพทุกคนที่ออกมาใช้เสียงเลือกตั้ง โดยเฉพาะความตื่นตัวของคนรุ่นใหม่ ขอให้ทุกคนเคารพเสียงของประชาชน และมีสติในการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง ซึ่งผมเคารพในความตัดสินใจของประชาชนเสมอ ถือว่าเป็นวิถีของประชาธิปไตย ผมขอให้เราทุกคนรักบ้านเกิดเมืองนอนของเราให้มาก” นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวอีกว่า การจะร่วมกันนำพาบ้านเมืองเดินไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องได้นั้น ต้องศึกษาประวัติศาสตร์ ต้องคำนึงถึงอัตลักษณ์ความเป็นไทยของเรา และต้องยึดมั่นในสถาบันหลักของบ้านเมือง ได้แก่ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งมีมาอย่างยาวนานกว่า 1,400 ปี เราต้องทำเพื่อส่วนรวมมากกว่าทำเพื่อประโยชน์ส่วนตนเพียงอย่างเดียว ซึ่งสิ่งที่ต้องการฝากให้รัฐบาลใหม่ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องจากที่รัฐบาลนี้ได้เริ่มไว้แล้ว เพื่อประโยชน์ของคนในชาติ อาทิ การจัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษกให้สมพระเกียรติ การทำหน้าที่ประธานอาเซียนให้สมบูรณ์ รวมทั้งการดูแลพี่น้องประชาชนทุกกลุ่มและทุกสาขาอาชีพ ซึ่ง 5 ปีที่ผ่านมา นโยบายเดิมของรัฐบาลก่อนหน้า อะไรที่ดี ที่ประชาชนได้รับประโยชน์ ตนเองก็ได้ต่อยอดพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพให้สูงให้ดีขึ้น โดยยึดความเจริญก้าวหน้าของชาติบ้านเมืองเป็นหลักชัย
“ขอให้พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน นักการเมือง พรรคการเมือง ช่วยกันทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด เพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าไปได้ ขอให้ปวงชนชาวไทยยึดมั่นในความเป็นประชาธิปไตยที่เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ยุติความขัดแย้ง ขจัดเงื่อนไขความแตกแยกในสังคม เพราะเรายิ่งขัดแย้งกันนานเท่าไหร่ ประเทศชาติและประชาชนก็จะยิ่งเสียหาย และเสียโอกาสมากขึ้นเท่านั้น จนอาจทำให้ศักยภาพของเราถดถอย เป็นวิกฤติในทุกมิติ เราต้องร่วมมือกันสร้างภูมิคุ้มกันให้กับสังคมและประชาชน ด้วยความรู้คู่คุณธรรมให้มากที่สุดตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"