(น้ำปั่นวิตามินซีสูงที่หาได้จากผลไม้ในท้องถิ่นอย่าง น้ำมะเขือเทศ, มัลเบอร์รี, สตรอว์เบอร์รี, แก้วมังกร, ฝรั่ง อาหารต้านฝุ่นควันพิษผู้สูงอายุทางภาคเหนือ)

 

      ลดดีกรีปัญหาจากกรุงเทพฯ ก็ไปเปิดพื้นที่เล่นงานผู้สูงอายุและคนที่อาศัยอยู่ทางภาคเหนือ อาทิ จ.เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน น่าน ฯลฯ สำหรับ “ฝุ่นควันพิษจิ๋ว” ที่ถือได้ว่าเป็นปัญหาสุขภาพ ที่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ และกระตุ้นโรคปอดกำเริบ ที่สำคัญหากผู้สูงอายุสูดดมควันพิษเป็นเวลานานๆ ก็อาจเป็นสาเหตุก่อโรคมะเร็งในระยะยาวได้เช่นกัน แม้ว่าปัจจุบันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำการฉีดพ่นละอองน้ำเพื่อให้ปัญหาดังกล่าวคลี่คลาย ตลอดจนรณรงค์ไม่ให้คนในพื้นที่เผาเศษใบไม้ หรือไม่ผ่าป่า เพื่อลดฝุ่นควันขนาดเล็กที่เกิน 2.5 ไมครอน ที่นับวันจะพุ่งสูงขึ้น แต่การบริโภคอาหารที่มีวิตามินซีสูง ที่ได้จากการผลไม้ประจำถิ่นอย่าง สตรอว์เบอร์รี และมัลเบอร์รี (ลูกหม่อน) และแกงเลียง ซึ่งเป็นอาหารของคนภาคเหนือ ที่มีสรรพคุณช่วยให้ทางเดินหายใจโล่งสบาย ซึ่งสามารถรับมือกับฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ดี

(อ.สมร คงพันธุ์)

      อ.สมร คงพันธุ์ กูรูอาหารไทยและเจ้าของ โรงเรียนการเรือนยิ่งเจริญ บอกว่า “อาหารที่ต้านฝุ่นควันพิษขนาดเล็กได้ดีที่สุดคือ กลุ่มของ “วิตามินซี” ที่หาได้ในกลุ่มของผักผลไม้สด ประกอบกับผู้สูงอายุมักจะมีปัญหาการเคี้ยว เนื่องจากหลายคนต้องใส่ฟันปลอม ดังนั้นอาหารที่เหมาะสำหรับต้านฝุ่นควันพิษจิ๋วได้ต้องทำให้อยู่ในรูปแบบของ “น้ำปั่น” จากผลไม้รสเปรี้ยว วิตามินซีสูงที่หาได้ในท้องถิ่น อาทิ “สตรอว์เบอร์รี” และ “ลูกมัลเบอร์รี” หรือ (ลูกหม่อนที่ปลูกได้ในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคอื่นๆ) รวมถึง “มะเขือเทศ” ที่ชาวสวนชอบปลูก กระทั่ง “ฝรั่ง” และ “แก้วมังกร” ก็สามารถเด็ดมาทำเป็นเครื่องดื่มได้ 

      ทั้งนี้ต้องล้างให้สะอาดก่อนนำมาปั่นเป็นเครื่องดื่ม โดยการใส่เกลือลงไปไปแช่ แนะนำว่ากะให้พอเค็ม เพราะความเค็มจะช่วยชำละล้างฝุ่นละอองที่อยู่ในผักผลไม้ให้ออกไป จากนั้นล้างให้สะอาดอีกครั้งจึงนำมาปั่นโดยใส่น้ำผึ้งลงไปเล็กน้อย เพื่อให้รับประทานได้ง่าย หรือใส่น้ำมะนาวลงไปก็จะช่วยทำให้ชุ่มคอ แก้อาการไอจากฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ และในน้ำมะนาวยังช่วยเพิ่มพละกำลังให้ผู้สูงวัยที่ดื่มได้ ซึ่งวิธีการปั่นนั้นจะใส่น้ำแข็ง หรือไม่ใส่ก็ได้แล้วแต่ความชอบ แต่ถ้าผู้สูงอายุต้องการดื่มน้ำปั่นรสเปรี้ยว ที่คล้ายกับไอศกรีมเชอร์เบต หรืออยู่ในรูปแบบเกร็ด หลังจากที่ปั่นน้ำผลไม้รสเปรี้ยวแล้ว ก็สามารถนำไปแช่ในช่องแช่เย็น และหยิบมารับประทาน ที่สำคัญแนะนำว่าให้ผู้สูงอายุหลีกเลี่ยง “อาหารมัน” หรือมีไขมันเป็นส่วนประกอบสูง เช่น หมูทอด แกงกะทิต่างๆ เพราะจะยิ่งกระตุ้นให้ผู้สูงวัยไอและเจ็บคอมากขึ้นจากการได้รับฝุ่นควันพิษอยู่เป็นประจำในช่วงนี้

(“แกงเลียง” อาหารพื้นบ้านที่ช่วยทำให้ผู้สูงอายุหายใจโล่งสะดวกจากการสูดดมฝุ่นควันพิษเป็นเวลานานๆ)

 

      นอกนี้ “แกงเลียง” ที่คนภาคเหนือชอบรับประทาน และเป็นอาหารที่วิตามินสูงจากผักริมรั้วนานาชนิด อีกทั้งความเผ็ดร้อนจากส่วนผสมของพริกไทย, หัวหอม, พริกแห้ง และกระชาย ตรงนี้ไม่เพียงช่วยทำให้หายใจโล่งจากการที่ผู้สูงอายุได้รับฝุ่นควันพิษเป็นเวลานานๆ แต่ในผักตำลึงที่ใส่ลงไปยังลดน้ำตาลในเลือดให้กับผู้สูงอายุได้ และส่วนผสมของผักอีก 2 ชนิดอย่าง ลูกบวบ และน้ำเต้า ยังมีสรรพคุณเป็นยาเย็น เหมาะสำหรับช่วงอากาศร้อนเช่นเดียวกัน ที่สำคัญเมนูนี้ผู้สูงอายุทางภาคเหนือจะมีพลิกแพลงโดยการใส่เนื้อปลาช่อนย่างแทนกุ้งแห้ง เพื่อทำให้รสชาติน้ำแกงกลมกล่อม และจะไม่ใส่ใบแมงลัก

(“ส้มตำไทยใส่มะเขือเทศ” อาหารต้านอนุมูลอิสระ ไล่ฝุ่นควันพิษของผู้สูงอายุที่อยู่ภาคเหนือ)

 

      สุดท้ายเป็นเมนู “ส้มตำไทย” ที่ถือเป็นอาหารต้านอนุมูลอิสระ รับปัญหาฝุ่นละอองควันพิษจากมะละกอ และส่วนผสมอย่าง มะเขือเทศ ที่มีวิตามินซีสูง เพียงแต่ว่าขั้นตอนในการปรุงนั้น ผู้สูงอายุจะต้องหั่นชิ้นมะละกอให้เล็กที่สุด เพื่อให้การบดเคี้ยวง่ายขึ้น รวมถึงชิ้นมะเขือเทศ ที่อาจต้องตำให้นิ่มเล็กน้อย เพื่อให้ผู้สูงอายุรับประทานได้ง่ายขึ้น และถ้าจะเพิ่มวิตามินซีให้กับผู้สูงวัย สามารถบีบน้ำมะนาวหรือน้ำมะขามเปียกลงไปเล็กน้อย บวกกับเติมน้ำตาลปี๊ปอีกนิดหน่อย ก็จะทำให้รสชาติส้มตำไทยกลมกล่อมอร่อย และช่วยให้ผู้สูงวัยบริโภคเมนูวิตามินซีสูงนี้ได้มากขึ้น เพื่อต่อสู่กับปัญหามลพิษดังกล่าวได้ค่ะ”

        บางครั้งอาหารใกล้ตัวที่ผู้สูงอายุรู้จักและคุ้นเคยกันดี ก็เป็นอีกตัวช่วยให้ผู้สูงวัยทางภาคเหนือ รับมือกับหมอกควันพิษที่ต้องเผชิญในช่วงหน้าร้อนอย่างนี้เป็นประจำทุกปี ซึ่งต้องทำควบคู่ไปกับการลดการเผาเศษใบไม้ หรือหยุดการเผาป่าลง ...เห็นด้วยไหมค่ะ.