คบเด็กสร้างบ้าน-คบหัวล้านสร้างเมือง


เพิ่มเพื่อน    

      ช่วงระหว่างนี้...ก็น่าจะได้เวลาสาดน้ำ-สาดท่ากันมั่งแล้ว หรือจะค่อยๆ ประจงริน ประจงรด บริเวณหลัง บริเวณไหล่ ก็แล้วแต่ แต่ถ้าลองได้ชื่อว่าเป็นไปตามวัฒนธรรม ประเพณี อันดีงาม ตามแบบฉบับ สงกรานต์ แบบไทยๆแล้ว ยังไงๆ...ย่อมต้องชื่นมื่น ชื่นสะดือ ช่วยให้เกิดการดับร้อน ผ่อนกระหาย ได้เป็นอย่างดี...

                                                             ------------------------------------------------

      ส่วนประเภทที่ยังสนุกสนาน เมามันซ์ซ์ซ์ อยู่กับการสาดคลง-สาดโคลน อันนั้น...ก็คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามรสนิยม หรือตาม วิบากกรรม ของใคร-ของมัน ที่จะต้องไปว่ากันเอาเอง เพราะมันไม่ได้เกี่ยวกับวัฒนธรรม ประเพณี อันดีงามเอาเลยแม้แต่น้อย แต่ถือเป็นเรื่องส่วนตั๊ว-ส่วนตัว หรือเป็น ผลประโยชน์ส่วนตัว ล้วนๆ ซะเป็นหลักใหญ่ แต่ก็มีบางรายที่ทั้งๆ ที่คนอื่นเขาไม่ได้คิดจะสาดโคลน ป้ายสี ป้ายโคลน ใส่ตัวเองเอาเลยแม้แต่น้อย แต่ตัวเองนั่นแหละ...ดันหยิบเอาโคลนมาป้ายเนื้อ ป้ายตัว ซะจนเลอะเทอะ เปรอะเปื้อน กันไปเป็นแผงๆ...

                                                             --------------------------------------------------

      อย่างเช่นคุณน้อง ฟ้ารักพ่อ แห่งพรรคอนาคตหมด อนาคตไหม้ อะไรประมาณนั้น...อยู่ดีๆ-ไม่ว่าดี ดันไปเปิดประเด็นคิดจะยกเลิกคำเรียก คำนำหน้า คำสรรพนาม ที่เคยใช้ๆ มาในสังคมไทย หรือแม้แต่สังคมอื่นๆ ที่มีวัฒนธรรม ประเพณี อันดีงามเคียงคู่มาโดยตลอด จนเกิดคำนิยามถึงผู้ที่มีความใกล้ชิด ผูกพัน ไม่ว่าภายในครอบครัว หรือนอกครอบครัวก็แล้วแต่ ไล่เรียงไปตั้งแต่คุณพ่อ คุณแม่ พี่ ป้า น้า อา ลุงๆ หลานๆ ที่นอกจากไม่ได้ หนักหัวกบาลใคร เอาเลยแม้แต่น้อย แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความอบอุ่น ความเป็นมิตร-ไมตรี ความมีเยื่อใย-สายใย ระหว่างกันและกัน แต่ดันถูกคุณน้อง ฟ้ารักพ่อ ตีความ แปลความ ให้กลายเป็นการแสดงออกถึง ฐานะทางชนชั้น เป็นอำนาจ บารมี ไปซะนี่...

                                                             -----------------------------------------------------

      เรียกว่า...กะจะถึงขั้น ยกเลิกคำพูด คำจา คำเรียกขานทำนองนี้ ให้หายเกลี้ยงเอาเลยถึงขั้นนั้น โดยเฉพาะถ้าเกิดผงาดขึ้นมามีอำนาจในสังคมไทยขึ้นมาเมื่อไหร่ อันนี้...เลยกลายเป็นการสาดโคลน ละเลงโคลน เข้าใส่ตัวเองแบบเต็มๆ ทั้งๆ ที่โคลนอีกหลายโคลนยังไม่ทันจะแห้ง ยังไม่ทันจะล้างให้เกลี้ยงดี แต่อย่างว่านั่นแหละ...ขึ้นชื่อว่าเด็กๆ ซะอย่าง ยังไงๆ มันคงต้องออกมาในแนวนี้นั่นแล ทั้งๆ ที่ปากยังไม่ทันสิ้นกลิ่นน้ำนม ดันลุกขึ้นมาตบปากตัวเองเอาดื้อๆ จำนวนเสียง จำนวน ส.ส.ที่ได้มาเพราะบุญหล่นทับใส่หัวแม่เท้า ชนิดชักหัวแม่ตีนหลบแทบไม่ทัน ระดับปาเข้าไปเกือบครึ่งร้อย กว่าครึ่งร้อยในสภาฯ มันจึงออกจะ ไร้ราคา ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มต้นทำหน้าที่เอาเลยก็ว่าได้...

                                                            ----------------------------------------------------------

      คืออะไรมันจะคบยาก คบเย็น เท่านี้...ย่อมไม่มีอีกแล้ว ขนาดแค่เรียกพี่ เรียกน้อง เรียกพ่อ เรียกแม่ เรียกลุง-ป้า-น้า-อา ยังเป็นอะไรที่ขัดหู-ขัดตา ท่านผู้นำแห่ง ฟ้ารักพ่อ ขึ้นมาจนได้ แล้วยังงี้...ใครจะไปคบด้วย ไปร่วมหัว-จมท้าย ร่วมจับมือเป็นพันธมิตรทางการเมือง ซึ่งมันต้องมีอะไรยิ่งไปกว่าความเป็นพี่ๆ-น้องๆ ความเป็นลุง-ป้า-น้า-อา อีกเยอะแยะมากมาย แค่เจอกับ วัฒนธรรมการเมือง ของพวก ฟ้ารักพ่อ ที่ออกมาในแนวนี้ ก็ต้องเรียกว่า...แทบคบไม่ได้ หรือไม่น่าจะคบด้วย เพราะออกจะเป็นอะไรที่ขัดแย้งกับวัฒนธรรม ประเพณี ในระดับพื้นฐาน รากฐาน ของความเป็นมนุษย์เอาเลยก็ว่าได้...

                                                            ----------------------------------------------------------

      อันนี้นี่แหละ...ที่ต้องถือว่าน่าเสียดายเอามากๆ สำหรับการกระทำตนเองให้กลายเป็น เผือกร้อน โดยใช่เหตุ คือแค่เรื่องที่ออกไปในแนว ฟ้าเดียวกัน แค่เรื่องเดียวเท่านั้น ก็น่าจะร้อนพออยู่แล้ว ส่งผลให้ผู้นำพรรค ผู้บริหารพรรค ออกอาการปากสั่น ขาสั่น แทบยืนหยัด ยืนยัน แทบไม่ไหว ต้องเลี้ยวโน่น เลี้ยวนี่ ต้องแฉลบออกข้าง เมื่อต้องเปลี่ยนสถานะจาก นักวิชาการ มาเป็น นักการเมือง แถมยังเป็นการเมืองภายใต้ ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ซะอีก ไม่ใช่ประชาธิปไตยเฉยๆ แต่แทนที่จะเกิดสติ เกิดวุฒิภาวะ หาทางลดความร้อนให้มันเบาๆ ลงหน่อย ดันไปหยิบเอาเรื่องลุง-ป้า-น้า-อา ที่แทบไม่ได้เป็นเรื่อง-เป็นราว หรือได้เรื่อง-ได้ราว อะไรเอาเลยแม้แต่น้อย มาทำให้กลาย เป็นเรื่อง ขึ้นมาจนได้...

                                                             ---------------------------------------------------------------

      หรือทำให้ วัฒนธรรมการเมือง ของตัวเอง พรรคตัวเอง กลายเป็นอะไรที่ขัดแย้งกับวัฒนธรรม ประเพณี อันดีงาม ของสังคมไทยโดยใช่เหตุ ทำให้เผือกร้อนๆ ยิ่งเป็นอะไรที่ร้อนๆ ยิ่งขึ้นไปใหญ่ ด้วยเหตุนี้...แม้ว่าจะ หักปากกาเซียน ได้แรงโง่ แรงเชียร์ จากประดาพวกคนรุ่นใหม่ เข้ามาระดับครึ่งร้อย หรือร่วมร้อย แต่สุดท้าย...ก็ชักออกอาการแบบเดียวกับคตินิยม ค่านิยม ที่กลายมาเป็นภาษิต ตามธรรมเนียม วัฒนธรรมแบบไทยๆ นั่นเอง คือออกไปทาง คบเด็กสร้างบ้าน-คบหัวล้านสร้างเมือง โอกาสที่จะวูบหายไปจากวงการชาวยุทธ์ จากยุทธจักร ภายในระยะเวลาอันใกล้ ต้องเรียกว่า...มีแนวโน้มสูงเอามากๆ...

                                                            ----------------------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Mihaela losof... Children are the most expensive from of entertainment.- เด็กเป็นรูปแบบความบันเทิง ที่มีราคาแพงที่สุด...

                                                              ------------------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"