สถิติมีให้ดู แต่เมาแล้วไม่กลัว?


เพิ่มเพื่อน    

             

                สถิติที่น่ากลัว แต่...ไม่ค่อยมีใครกลัว

                สรุปตัวเลข ๗ วันอันตรายในวันแรก(๑๒ เมษายน)

                เสียชีวิต ๔๖ ราย

                บาดเจ็บ ๔๘๒  คน

                สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด  ดื่มแล้วขับ ร้อยละ ๓๔.๖๒ ขับรถเร็ว ร้อยละ ๒๖.๙๒

                ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ จักรยานยนต์ ร้อยละ ๗๘.๔๗

                ย้อนกลับไปดูสถิติหลายปีที่ผ่านมา  ตัวเลขก็ประมาณนี้

                ไม่มีพัฒนาการไปในทางที่ดีขึ้น

                จำไข้หวัดนกได้มั๊ยครับ

                ระบาดเข้ามาสู่ประเทศไทย ปี ๒๕๔๗  ป่วย ๑๗ ราย เสียชีวิต ๑๒ คน

                ปี พ.ศ.๒๕๔๘  ป่วย ๕ ราย เสียชีวิต ๒ ราย

                ปี พ.ศ.๒๕๔๙  ป่วย ๓ ราย เสียชีวิต ๓ ราย

                เห็นตัวเลขเหมือนไม่มีอะไร เพราะโรคอื่นๆยังเสียชีวิตมากกว่านี้หลายเท่าตัว...ก็ใช่ครับ

                แต่จำให้หรือเปล่าว่า ตื่นตระหนกกันทั้งประเทศ!

                หุ้นตก

                ไก่ขายแทบไม่ออก 

                ธุรกิจท่องเที่ยวได้รับผลกระทบ

                ผู้คนกลัวตายเพราะไข้หวัดนก

                พากันท่องคาถา กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ

                แต่ก็แปลก รณรงค์กันแล้วรณรงค์กันอีก  ใช้รถใช้ถนนช่วง ๗ วันอันตราย ปีใหม่ สงกรานต์ ดื่มอย่าขับ เพราะเกิดอุบัติเหตุ เจ็บ ตาย ได้

                ผลคือเทศกาลละ ๓๐๐-๕๐๐ ศพ

                ทุกปี       

                จนไทยกลายเป็นประเทศที่มีประชากรเสียชีวิตจากอุบัติเหตุลำดับต้นๆของโลก

                แถมด้วยสถิติไทยเป็นประเทศที่ประชาชนดื่มสุรา เครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ มากเป็นลำดับต้นๆของโลกเช่นกัน

                หลายคนถามหาวิธีแก้ปัญหา  ทั้งๆที่มีการนำเสนอจนแทบจะท่วมประเทศกันอยู่แล้ว

                ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาด้วยกฎหมาย  ด้วยการเปลี่ยนวิธีคิด เปลี่ยนนิสัย ฯลฯ

                แต่ขาดคือ การพร้อมใจกันแก้ปัญหา

                สำคัญที่สุดคือ คนก่อปัญหาไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ยังคิดว่า เทศกาลปีใหม่ สงกรานต์ คือเทศกาลแห่งการเมาขับแห่งชาติ

                คนพวกนี้เมาขับแล้วตายยังพอเข้าใจได้

                แต่สำหรับคนที่ไม่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่  เป็นแค่เพื่อนร่วมทางแต่ต้องมารับเคราะห์ด้วย  อย่างเช่นกรณี  กรณีนักธุรกิจเมาแล้วขับ ขับรถชนตำรวจและภรรยาเสียชีวิต ขณะที่ลูกสาววัย ๑๖  บาดเจ็บสาหัส

                อย่าว่า ๒ ชีวิตเลย กรณีเช่นแค่เสี้ยวชีวิต ก็ไม่อาจชดเชยอะไรได้เลย 

                สรุปหากเปลี่ยนนิสัยกันไม่ได้ ยังต้องสังเวยต่อไปเทศกาลละ ๓๐๐-๕๐๐ ศพ

                เดินทางอย่าประมาท ดื่มอย่าขับ  ขอให้โชคดีครับ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"