'ฮุนเซน'หนุน'บิ๊กตู่'นั่งนายกฯต่อ ลั่นไม่ยอมให้ใครใช้กัมพูชาเป็นฐานโจมตีรัฐบาลไทย!


เพิ่มเพื่อน    

22 เม.ย.62  - ที่โรงแรมอินโดจีน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช. ) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ว่า วันนี้ถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ โครงการรถไฟไทย-กัมพูชา ซึ่งไทยมีการเดินรถไฟมา 45 ปีแล้ว ไทย-กัมพูชามีความสัมพันธ์มายาวนาน จะครบรอบ 70 ปีในปีหน้านี้แล้ว ถือเป็นการฉลองการเริ่มต้น ในปีหน้า ซึ่งวันนี้ได้มีการมอบตู้รถไฟดีเซลรางไป 4 ตู้ และมีการดำเนินการสร้างสะพานใหม่ และเส้นทางใหม่ที่หนองเอียน พร้อมกับการเปิดสถานีรถไฟบ้านคลองลึก ซึ่งวันข้างหน้าจะอำนวยความสะดวกมากยิ่งขึ้นในการโดยสารรถไฟ และวันนี้ทราบว่ามีเส้นทางสามารถเดินทางไปถึงกรุงพนมเปญ โดยเราจะไปช่วยดูแลในเรื่องความปลอดภัย ต่างๆต่อไปในอนาคต

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า จากการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา บอกว่าวันนี้ถือเป็นยุคที่มีความก้าวหน้ามากที่สุด ในการร่วมมือทำงานกับรัฐบาลช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เพราะสมเด็จฮุนเซน เป็นนายกรัฐมนตรีกัมพูชา มายาวนาน ทำงานกับรัฐบาลไทยมา 12 รัฐบาล 12 นายกรัฐมนตรีแล้ว เขาบอกว่ารัฐบาลนี้ทำดีที่สุด ซึ่งถือว่าเขาเข้าใจสถานการณ์ ภายในของเรา

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรีกัมพูชาขอความร่วมมืออะไรกับรัฐบาลไทยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มีเรื่องการสัญจรไปมาข้ามแดน และการกำหนดจำนวนรถผ่านแดนต่างๆเหล่านี้ ซึ่งเราก็ดำเนินการอยู่แล้ว ที่สำคัญได้มีการประชุมร่วม 3 ฝ่าย ตนได้บอกทางกัมพูชาไปว่า ถ้าเราทำเรื่องกฎกติกา ระเบียบข้ามแดน เฉพาะเรากับกัมพูชา มันก็ไปไหนไม่ได้อีก จึงเสนอให้เขาประสานประชุมร่วมกับทางเวียดนามด้วย ที่มีการประชุมไปแล้วในเรื่องการขนส่งทางทะเล เช่นเดียวกับเส้นทางใหม่ที่จะเกิดขึ้นที่หนองเอียน ระหว่างนี้ยังเปิดไม่ได้ เพราะฝั่งโน้นยังสร้างไม่เสร็จ เส้นทางยังมาไม่ถึง นี่ก็จะมีการเจรจาแก้ปัญหาให้ครบเรียบร้อย โดยมีกฎระเบียบออกมา เมื่อพร้อมก็สามารถเปิดเส้นทางได้เลย นอกจากนี้เขาขอหารือในเรื่องการเปิดจุดผ่านแดนถาวรทางอีสาน จุดอานม้า ซึ่งทางฝ่ายความมั่นคงจะต้องคุยกัน 

“ประการสุดท้ายที่เขาย้ำคือ เขาจะไม่ยอมให้ใครมา ใช้ดินแดนของเขาในการเคลื่อนไหว ต่อต้านรัฐบาลไทย ซึ่งตอนนี้เขาได้มีการส่งข่าวให้ฝ่ายไทยหลายทีแล้ว เราต้องไว้ใจซึ่งกันและกัน เพราะผลประโยชน์ของชาติถือเป็นอันดับแรก อย่างไรก็ตาม ก็ต้องเคารพกระบวนการยุติธรรมของเรา ต่างคนต่างฝ่ายต้องเคารพซึ่งกันและกัน หลักการต้องไว้เนื้อเชื่อใจ ลดความหวาดระแวง และผลประโยชน์เท่าเทียม เราต้องดูแลเขา ให้ความช่วยเหลือบ้างในฐานะที่เป็นมิตรกัน เพราะเราเป็นเพื่อนบ้านใกล้ชิดกันยาวนานทางการทูตกว่า 70 ปี ซึ่งจริงแล้ว เรามีประวัติศาสตร์กันมายาวนาน 800 -1,000 ปี แล้ว อุปสรรคก็มีทั้งฝั่งเขาและเรา” นายกฯกล่าว

เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้ให้กำลังใจอะไรต่อตัวนายกฯหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เขาให้กำลังใจเรา โดยขอให้ได้เป็นนายกรัฐนตรี เพื่อบริหารประเทศชาติต่อ ซึ่งตนก็บอกไปว่า แล้วแต่ เป็นเรื่องกลไกทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย แต่เขาเชื่อมั่นว่าหลายๆอย่างดีขึ้นในสมัยรัฐบาลนี้ และอยากให้ดำรงสิ่งเหล่านี้ต่อไปในอนาคตด้วย ซึ่งตนบอกว่าเราได้ทำยุทธศาสตร์เอาไว้แล้ว ไม่ว่าใครจะเป็นอะไรก็ตาม ต้องสามารถที่จะทำต่อได้ ซึ่งเขาก็อยากที่จะสานต่อ 

เมื่อถามว่า นายกฯเจอกับสมเด็จฮุน เซน จะกอดกันทุกครั้ง มีความรู้สึกอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นธรรมเนียมของเขา เราเป็นคนไทย เมื่อเขาแสดงมิตรไมตรีมา ก็ต้องรับอยู่แล้ว เพราะเราไม่ได้มีอะไรกัน มันคือประเพณีของเขา 

เมื่อถามว่า สมเด็จฮุน เซน มองบรรยากาศบ้านเมืองของเราอย่างไรหรือไม่ พล.อประยุทธ์ ตอบว่า ไม่มอง เขาเห็นว่าบ้านเมืองของเราสงบเรียบร้อยดี เป็นสิ่งที่เขาชอบ และเขาก็เห็นว่าการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีปัญหา ไม่มีความขัดแย้งรุนแรงเกิดขึ้นอย่างช่วงที่ผ่านมา เขามองในภาพนั้น เขามองว่าความสงบสุขร่มเย็นของประชาชน ที่ไม่มีความรุนแรงหรือใช้อาวุธอะไรต่างๆ จะเป็นบ่อเกิดการพัฒนาความสัมพันธ์ ระหว่างกัน ส่งผลให้เศรษฐกิจต่างๆเดินไปได้ ถ้าเอาการเมืองมาขับเคลื่อนทุกอย่าง จะไปไม่ได้หมด คนที่เสียโอกาสคือประชาชน ไม่ใช่ตนเอง เข้าใจหรือไม่ ประชาชนจะเสียโอกาสในการพัฒนาตนเอง ซึ่งวันนี้ตนได้พูดกับชาว จ.สระแก้วไปแล้ว ทุกคนต้องกลับมาดูว่าจะทำอาชีพอะไร ที่จะให้เกิดการพัฒนา โดยเฉพาะอาชีพการเกษตร และค้าขาย ซึ่งตนได้เตือนไปหลายครั้งแล้ว เพราะพฤติกรรมของมนุษย์เปลี่ยนไป ทุกคนจะต้องพยายามไปสู่การค้าขายออนไลน์ให้ได้ และวันนี้ตนเห็นว่ามีหลายหมื่นรายแล้ว ตรงนี้จะแก้ปัญหาธุรกิจและการค้าขายไม่ดี พฤติกรรมคนต้องการความสะดวกมากขึ้น 

เมื่อถามว่า อากาศร้อนๆจะพูดอะไรกับประชาชนหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า อากาศร้อนต้องทำให้ใจเย็นลง จะไปร้อนตามอากาศไม่ได้ ต้องใจเย็นๆ อย่าไปปลุกความขัดแย้งขึ้นมาอีก ตนเห็นว่าวันนี้ความเกลียดชังยังมีอีกเยอะ พวกเฮดสปีชในโซเซียล มันทำให้สังคมปั่นป่วน เข้าใจหรือไม่ คนเราถ้ามีความรู้ มีข้อมูลอะไรต่างๆ คงไม่เขียนแบบนั้นหรอก แต่นี้ไม่มีความรู้และคิดเอง แล้วเขียนว่ากันไปมา มันไม่เกิดอะไรเลย มีแต่สร้างความขัดแย้งมากขึ้น แล้วตนจะไปหยุดความขัดแย้งเหล่านี้ได้หรือไม่ เพราะมันไม่ได้ผ่านมาที่ตน เมื่อถามว่าวันนี้นายกฯห่วงอะไรมากที่สุดหลังการเลือกตั้ง นายกฯ กล่าวว่า ความสงบเรียบร้อย ความมีเสถียรภาพของบ้านเมือง 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"