มิตรภาพไทย-กัมพูชาชื่นมื่น ฮุนเซ็นหนุนบิ๊กตู่นั่งนายกต่อ


เพิ่มเพื่อน    

    "ประยุทธ์-สมเด็จฯ ฮุน เซน" ร่วมฉลองความสำเร็จก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา  พร้อมลงนามเดินรถไฟ 2 ประเทศ "บิ๊กตู่" แต่งเพลง "มิตรภาพ" เชื่อมสายใยมั่นคง ฟุ้งนายกฯ กัมพูชาเชียร์นั่งนายกฯ ต่อ ชมรัฐบาลนี้ทำดีที่สุดในรอบ 12 รัฐบาล ขอคนสระแก้วรักสามัคคีกัน ชี้ประชาธิปไตยเลือกตั้งแล้วต้องสงบ ระบุสังคมไทยต้องเคารพปู่ยาตายายพี่น้อง อย่าให้ใครมาเปลี่ยนแปลง ย้ำรัชกาลนี้ต้องสงบสุข 
    ที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว วันที่ 22 เม.ย. เวลา 08.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วยสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโชฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เป็นประธานร่วมและกล่าวสุนทรพจน์แสดงความยินดี ในพิธีฉลองความสำเร็จในการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา (บ้านหนองเอี่ยน-สตึงบท) 
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติและยินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นประธานร่วมในพิธีฉลองความสำเร็จในการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา (บ้านหนองเอี่ยน-สตึงบท) รวมทั้งเป็นโอกาสที่ได้พบเจรจากับสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโชฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาอีกครั้ง ซึ่งความสำเร็จของการสร้างสะพานแห่งนี้นับเป็นสะพานแห่งแรกที่มีความยาวที่สุดเชื่อมสองประเทศ เป็นประจักษ์พยานที่ชัดเจนถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและใกล้ชิดมาอย่างยาวนานระหว่างไทยและกัมพูชา 
    "หวังว่าทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันดำเนินการให้สะพานแห่งนี้เปิดใช้งานได้เต็มรูปแบบในอนาคตอันใกล้  ซึ่งรัฐบาลได้เร่งรัดให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเริ่มต้นก่อสร้างด่านพรมแดนแห่งที่สอง ควบคู่ไปกับการก่อสร้างถนนเชื่อมต่อสะพานและถนนสายหลักของกัมพูชา รวมทั้งเจรจากันในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกฎระเบียบการข้ามแดน เพื่อแก้ปัญหาความแออัดการจราจรบริเวณด่านพรมแดนปัจจุบันที่บ้านคลองลึก  และเปิดเส้นทางขนส่งสินค้าข้ามแดนใหม่ให้สะดวกขึ้น อันจะนำไปสู่การเชื่อมต่อห่วงโซ่อุปทานระหว่างเขตเศรษฐกิจพิเศษของกัมพูชาและเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ของไทย และเชื่อมต่อไปยังการส่งออกสินค้าสู่ตลาดโลกต่อไป" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
    นายกฯ กล่าวว่า การก่อสร้างสะพานแห่งนี้เป็นการเติมเต็มเส้นทางที่ขาดหายไป ภายใต้กรอบความร่วมมือในระดับภูมิภาคและอนุภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการคมนาคมขนส่งภายใต้กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) กรอบยุทธศาสตร์ความร่วมมืออิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS) อันจะนำไปสู่การประสานความร่วมมือในด้านต่างๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจ ความเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคม สังคมและวัฒนธรรม การศึกษา การเกษตร และการท่องเที่ยว สู่การพัฒนาที่ยั่งยืนและเจริญเติบโตไปด้วยกัน
    "แนวทางความร่วมมือระหว่างไทยและกัมพูชาจะยังคงต่อเนื่อง จริงใจ ใกล้ชิด และมั่นคงต่อไป  และยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ในปีหน้าไทยและกัมพูชาจะมีความสัมพันธ์ทางทูตครบ 70 ปี ซึ่งจะตรงกับความคืบหน้าในการก่อสร้างและเปิดจุดผ่านแดนแห่งใหม่นี้" นายกฯ กล่าว
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพิธีฉลองความสำเร็จในการก่อสร้างสะพานครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์และสมเด็จฯฮุน เซน ได้มีการแต่งเพลงเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ โดยสมเด็จฯ ฮุน เซน ได้ประพันธ์บทเพลง 4 เพลง ตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับ พล.อ.ประยุทธ์และนำมาบรรเลงในงานนี้ ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ก็ได้ประพันธ์เพลง "มิตรภาพ" เพื่อใช้ฉลองความสำเร็จของ 2 ประเทศในงานนี้ด้วยเช่นกัน 
หุ้นส่วนเพื่อสันติภาพ
    พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการหารือว่า ทั้งสองฝ่ายยินดีที่ความร่วมมือไทยและกัมพูชาในช่วงที่ผ่านมาดำเนินไปด้วยดีทุกด้าน ซึ่งจะช่วยให้ทั้งสองฝ่ายเป็นหุ้นส่วนเพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันอย่างแท้จริง ซึ่งในระหว่างการหารือทั้งสองฝ่ายเน้นย้ำถึงการพัฒนาพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาให้เป็นพื้นที่แห่งสันติภาพและการพัฒนาร่วมกัน ผ่านโครงการความร่วมมือต่างๆ เช่น การเปิดและยกระดับจุดผ่านแดน และการสร้างความเชื่อมโยงทางราง  โดยนายกฯ ระบุว่า ประเด็นเขตแดนต้องไม่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา โดยให้เขตแดนเป็นเรื่องเทคนิคและเจรจากันในกรอบและกลไกที่เกี่ยวข้องต่อไป เช่น การประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) 
    "ในด้านการค้าทั้งสองฝ่ายยินดีที่มูลค่าการค้าระหว่างกันเพิ่มขึ้นอย่างมาก และยังหารือถึงความร่วมมือทางด้านแรงงาน ซึ่งนายกฯ เน้นย้ำว่ารัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการดูแลแรงงานกัมพูชาในประเทศไทยอย่างเท่าเทียมกับแรงงานทุกชาติ ซึ่งนายกฯ กัมพูชาก็ยังยืนยันที่จะสนับสนุนไทยในฐานะประธานอาเซียนด้วย" รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ระบุ
    จากนั้นเวลา 09.15 น. หลังจากพิธีฉลองความสำเร็จในการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา (บ้านหนองเอี่ยน-สตึงบท) พล.อ.ประยุทธ์ได้พบปะกับชาวสระแก้วที่มาให้การต้อนรับ โดยประชาชนส่งเสียงให้กำลังใจ "สู้ๆ" 
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวขอบคุณทุกๆ คนว่า วันนี้มีความเป็นห่วง 2 เรื่องคือการค้าขายปลีก เพราะพฤติกรรมคนเปลี่ยนไป คนไทยต้องรักกัน ต้องเคารพกัน เคารพปู่ ย่า ตา ยาย พี่ ป้า น้า อา เพราะนั่นคือสังคมไทย อย่าให้ใครมาเปลี่ยนแปลง นายกฯ รักทุกคน ขอให้ทุกคนช่วยกันพัฒนาตัวเอง ข้าราชการทุกคนต้องคิดว่าจะทำอะไรให้เกิดประโยชน์ระยะยาว ประเทศไทยจะต้องขับเคลื่อนไปด้วยคนทุกเพศทุกวัย สิ่งสำคัญที่สุดต้องรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ วันนี้ต้องช่วยกัน นายกฯ คนเดียวก็ลำบาก วันนี้เราต้องช่วยกันทำเพื่อคนรุ่นใหม่ อย่าหวังให้ใครมาช่วยเรา ทุกอย่างมีแผนแม่บท พื้นที่สระแก้วผมรู้จักทั้งนั้น เคยทำงานบูรพามาก่อน ประเทศไทยต้องขับเคลื่อนด้วยคนทุกช่วงวัย ภายใต้สถาบันชาติ  ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ทุกคนต้องช่วยกันสู้
    ต่อมาเวลา 10.15 น. นายกฯ เดินทางถึงสถานีรถไฟด่านพรมแดนบ้านคลองลึก เพื่อเป็นประธานในพิธีเปิดสถานีรถไฟด่านพรมแดนบ้านคลองลึก โดยกดปุ่มเปิดผ้าแพรคลุมป้ายสถานีรถไฟด่านพรมแดนบ้านคลองลึก พร้อมกล่าวกับประชาชนบริเวณสถานีรถไฟ โดยกล่าวสวัสดีเป็นภาษากัมพูชาว่า "ซัวสะเดย" เราคนไทยด้วยกัน ต้องรักกัน สู้ๆ ทุกคนเรารักกันอยู่แล้ว ตนรักทุกคน วันนี้มาเพื่อพี่น้องทุกคน และไม่ได้จบแค่นี้ มันจะเกิดต่อยอดอีก ในพื้นที่สระแก้วรัฐบาลได้ให้งบประมาณลงมาทางผู้ว่าราชการจังหวัดแล้ว
    นายกฯ กล่าวว่า ประชาธิปไตยคือการเลือกตั้งไปแล้วก็ต้องเกิดความสงบ ให้เลือกตั้งแล้วยังไม่สงบก็ไม่ได้ ปีนี้เป็นปีมหามงคล พระราชพิธีบรมราชาภิเษกกำลังใกล้เข้ามา ขอให้ช่วยกันทำบ้านเมืองให้สุขสงบ พัฒนาร่วมกัน ความหวังความฝันของทุกคนต้องใช้เวลาสักนิด
    "ขอให้ฟังผมไว้ รัฐบาลนี้ยืนยันสิ่งต่างๆ ที่วางไว้จะเดินหน้าต่อไปทีละ 5 ปีจนถึง 20 ปีตามยุทธศาสตร์ชาติ หากทุกคนเคารพกฎหมาย กติกา ทุกอย่างไปได้หมด เพลงที่เปิดนี้เป็นเพลงมิตรภาพที่ผมแต่งขึ้นมา สมเด็จฯ ฮุน เซน แต่งมา 4 เพลง วันนี้ผู้ใหญ่เด็กถ้าทะเลาะกัน วันหน้าก็อยู่กันไม่ได้  พระราชพิธีบรมราชาภิเษกกำลังจะเกิดขึ้นต้นเดือนหน้าทำให้สงบ รัชกาลนี้จะต้องเกิดความสงบสุข ใครทำผิดจะต้องถูกลงโทษ ซึ่งผมไม่อยากให้ใครถูกลงโทษ ถ้าทำความดีไม่มีถูกลงโทษ สังคมประเทศไทยต้องอยู่ด้วยคนทุกช่วงวัย เราต้องเลิกในสิ่งที่ไม่ดี สังคมเรามีปัญหาพอสมควรแล้ว" นายกฯ กล่าว
'ฮุน เซน' หนุนนายกฯ ตู่
    เวลา 10.45 น. พล.อ.ประยุทธ์และสมเด็จฯ ฮุน เซน เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความตกลงว่าด้วยการเดินรถไฟร่วมกัน ระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา  และพิธีส่งมอบรถไฟดีเซลราง จากนั้นนายกฯ ทั้งสองประเทศได้ออกเดินทางโดยรถไฟขบวนพิเศษ จากสถานีรถไฟด่านพรมแดนบ้านคลองลึกไปยังสถานีปอยเปต
    กระทั่งเวลา 13.30 น. ภายหลังจาก พล.อ.ประยุทธ์เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันสมเด็จฯ ฮุน เซน ที่โรงแรมอินโดจีน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ว่า จากการพูดคุยกัน นายกฯ กัมพูชาบอกวันนี้ถือเป็นยุคที่มีความก้าวหน้ามากที่สุด ในการร่วมมือทำงานกับรัฐบาลช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เพราะสมเด็จฯ ฮุน เซน เป็นนายกรัฐมนตรีกัมพูชามายาวนาน ทำงานกับรัฐบาลไทยมา 12  รัฐบาล 12 นายกรัฐมนตรีแล้ว เขาบอกว่ารัฐบาลนี้ทำดีที่สุด ซึ่งถือว่าเขาเข้าใจสถานการณ์ภายในของเรา
    ถามว่า นายกฯ กัมพูชาขอความร่วมมืออะไรจากรัฐบาลไทยบ้าง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า มีเรื่องการสัญจรไปมาข้ามแดน และการกำหนดจำนวนรถผ่านแดนต่างๆ เหล่านี้ ซึ่งเราก็ดำเนินการอยู่แล้ว ที่สำคัญได้มีการประชุมร่วม 3 ฝ่าย ตนได้บอกกัมพูชาไปว่าถ้าเราทำเรื่องกฎกติกา ระเบียบข้ามแดน เฉพาะเรากับกัมพูชามันก็ไปไหนไม่ได้อีก จึงเสนอให้เขาประสานประชุมร่วมกับทางเวียดนามด้วยที่มีการประชุมไปแล้วในเรื่องการขนส่งทางทะเล 
    "ประการสุดท้ายที่เขาย้ำคือ เขาจะไม่ยอมให้ใครมาใช้ดินแดนของเขาในการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลไทย ซึ่งตอนนี้เขาได้มีการส่งข่าวให้ฝ่ายไทยหลายทีแล้ว เราต้องไว้ใจซึ่งกันและกัน เพราะผลประโยชน์ของชาติถือเป็นอันดับแรก อย่างไรก็ตามก็ต้องเคารพกระบวนการยุติธรรมของเรา ต่างคนต่างฝ่ายต้องเคารพซึ่งกันและกัน หลักการต้องไว้เนื้อเชื่อใจ ลดความหวาดระแวงและผลประโยชน์เท่าเทียม  เราต้องดูแลเขา ให้ความช่วยเหลือบ้างในฐานะที่เป็นมิตรกัน เพราะเราเป็นเพื่อนบ้านใกล้ชิดกันยาวนานทางการทูตกว่า 70 ปี ซึ่งที่จริงแล้วเรามีประวัติศาสตร์กันมายาวนาน 800-1,000 ปีแล้ว อุปสรรคก็มีทั้งฝั่งเขาและเรา" นายกฯ กล่าว
    ซักว่า สมเด็จฯ ฮุน เซน ได้ให้กำลังใจอะไรท่านนายกฯ หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เขาให้กำลังใจเรา ขอให้ได้เป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อบริหารประเทศชาติต่อ ซึ่งตนก็บอกไปว่าเป็นเรื่องกลไกทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย แต่เขาเชื่อมั่นว่าหลายๆ อย่างดีขึ้นในสมัยรัฐบาลนี้ และอยากให้ดำรงสิ่งเหล่านี้ต่อไปในอนาคตด้วย ซึ่งตนบอกว่าเราได้ทำยุทธศาสตร์เอาไว้แล้ว ไม่ว่าใครจะเป็นอะไรก็ตาม ต้องสามารถที่จะทำต่อได้ ซึ่งเขาก็อยากที่จะสานต่อ 
    เมื่อถามว่า นายกฯ เจอกับสมเด็จฯ ฮุน เซน จะกอดกันทุกครั้ง มีความรู้สึกอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นธรรมเนียมของเขา เราเป็นคนไทย เมื่อเขาแสดงมิตรไมตรีมาก็ต้องรับอยู่แล้ว เพราะเราไม่ได้มีอะไรกัน มันคือประเพณีของเขา 
    ถามว่า สมเด็จฯ ฮุน เซน มองบรรยากาศบ้านเมืองของเราอย่างไร พล.อประยุทธ์กล่าวว่าไม่มอง  เขาเห็นว่าบ้านเมืองของเราสงบเรียบร้อยดี เป็นสิ่งที่เขาชอบ และเขาก็เห็นว่าการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีปัญหา ไม่มีความขัดแย้งรุนแรงเกิดขึ้นอย่างช่วงที่ผ่านมา เขามองในภาพนั้น เขามองว่าความสงบสุขร่มเย็นของประชาชนที่ไม่มีความรุนแรงหรือใช้อาวุธอะไรต่างๆ จะเป็นบ่อเกิดแห่งการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างกัน ส่งผลให้เศรษฐกิจต่างๆ เดินไปได้ 
    "ถ้าเอาการเมืองมาขับเคลื่อนทุกอย่างจะไปไม่ได้หมด คนที่เสียโอกาสคือประชาชน ไม่ใช่ผม เข้าใจหรือไม่ ประชาชนจะเสียโอกาสในการพัฒนาตนเอง ซึ่งวันนี้ผมได้พูดกับชาวสระแก้วไปแล้ว ทุกคนต้องกลับมาดูว่าจะทำอาชีพอะไรที่จะให้เกิดการพัฒนา โดยเฉพาะอาชีพการเกษตรและค้าขาย เพราะพฤติกรรมของมนุษย์เปลี่ยนไป ทุกคนจะต้องพยายามไปสู่การค้าขายออนไลน์ให้ได้ และวันนี้ผมเห็นว่ามีหลายหมื่นรายแล้ว ตรงนี้จะแก้ปัญหาธุรกิจและการค้าขายไม่ดี พฤติกรรมคนต้องการความสะดวกมากขึ้น" นายกฯ กล่าว. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"