“พาณิชย์” รับข้าวไทยราคาแพง ทำส่งออกลดลง 15%


เพิ่มเพื่อน    

24 เมษายน 2562  นางมนัสนิตย์ จิรวัฒน์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ เตรียมประชุมคณะทำงานพิจารณาการระบายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาล เพื่อเปิดระบายข้าวสารในส่วนที่เหลือ และยังไม่เคยนำออกมาประมูล รวม 41,000 ตัน แบ่งเป็นข้าวดีสำหรับคนบริโภค ประมาณ 13,000 ตัน ซึ่งเป็นข้าวที่เหลือจากการขายให้กับกรมราชทัณฑ์ และข้าวเสื่อมสำหรับเข้าสู่อุตสาหกรรมอีกประมาณ 28,000 ตัน คาดว่า จะออกประกาศเงื่อนไขและหลักเกณฑ์การประมูล (ทีโออาร์) ได้ในช่วงต้นเดือนพ.ค.2562 และน่าจะระบายให้แล้วเสร็จ พร้อมนำเสนอให้คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) พิจารณาอนุมัติได้ภายในสิ้นเดือนพ.ค.2562 ตามที่ นบข. ได้ให้หลักการไว้

“ข้าวสำหรับการบริโภคกว่าหมื่นตัน เป็นข้าวที่เหลือจากการขายให้กับกรมราชทัณฑ์ส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งประมาณพันกว่าตัน เป็นข้าวที่เหลือจากการขายของรัฐบาลชุดก่อนแล้วผู้ชนะประมูลมารับมอบไม่หมด ซึ่งยังไม่เคยนำออกมาประมูลเลย ส่วนข้าวเข้าอุตสาหกรรม ก็ยังไม่เคยเปิดประมูลเช่นกัน เพราะมีการย้ายคลังเก็บ จึงให้ผู้รับผิดชอบไปเคลียร์ให้เรียบร้อยก่อน เมื่อเคลียร์ได้แล้วก็เอามาเปิดประมูลในครั้งนี้”

ทั้งนี้ คาดว่า จะมีผู้สนใจเข้าร่วมประมูลจำนวนมาก ทั้งข้าวดี และข้าวเข้าอุตสาหกรรม เพราะขณะนี้ราคาข้าวของไทยสูงมาก จากผลผลิตข้าวนาปรังลดลง ประกอบกับราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ชนิดอื่นสูงขึ้นด้วย ดังนั้น การประมูลเพื่อนำข้าวในสต๊อกไปใช้ ทั้งเพื่อการบริโภคและทำอาหารสัตว์ จะทำให้มีต้นทุนต่ำลง แต่เชื่อว่า ราคาประมูลน่าจะไม่สูงมากนัก เพราะเป็นการขายตามสภาพ และเป็นข้าวที่เก็บมาหลายปีแล้ว

นางมนัสนิตย์กล่าวว่า ส่วนข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลที่เปิดประมูลไปแล้วในช่วงที่ผ่านมา แต่ผู้ชนะประมูลไม่มารับมอบ เพราะอ้างปัญหาคุณภาพ และบางรายค้างชำระเงิน ขณะนี้เหลือประมาณกว่า 100,000 ตัน จากก่อนหน้านี้มีมากถึงกว่า 300,000 ตัน เพราะองค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ได้พยายามแก้ปัญหาให้กับผู้ชนะประมูล เพื่อให้มารับมอบข้าวให้ได้ และล่าสุด นบข.ได้สั่งการให้ทั้ง 2 หน่วยงานไปเร่งแก้ปัญหาให้เสร็จโดยเร็ว แต่เชื่อว่า น่าจะนำข้าวส่วนนี้ออกมาประมูลไม่ทันเดือนพ.ค.นี้

สำหรับสถานการณ์การส่งออกข้าวไทยตามใบอนุญาตส่งออกที่ผู้ส่งออกมาขออนุญาตจากกรมฯ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-17 เม.ย.2562 ส่งออกได้แล้ว 2.75 ล้านตัน ลดลง 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ส่งออกได้ 3.23 ล้านตัน มูลค่า 1,429 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 11.71% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีมูลค่า 1,619 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยราคาเฉลี่ยอยู่ที่ตันละ 500 กว่าเหรียญสหรัฐ ขณะที่ราคาส่งออกข้าวไทยยังอยู่ในระดับสูง โดยข้าวขาว 5% ตันละ 416-417 เหรียญสหรัฐ ข้าวหอมมะลิ ปีการผลิต 2560/61 ตันละ 1,155-1,158 เหรียญสหรัฐ ส่วนปีการผลิต 2561/62 ตันละ 1,139-1,141 เหรียญสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ปลายเดือนมี.ค. จนถึงขณะนี้ ไทยมีคำสั่งซื้อข้าวเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่คึกคักมากนัก เพราะราคาข้าวไทยแพงกว่าประเทศคู่แข่งมาก จากผลผลิตข้าวไทยลดลง ประเทศผู้ซื้อจึงซื้อเฉพาะที่จำเป็น ไม่ได้ซื้อไปกักตุนเหมือนที่ผ่านๆ มา ส่งผลให้ปริมาณการส่งออกข้าวไทยตั้งแต่ต้นปีลดลง 15% แล้ว และยังมีแนวโน้มที่ราคาข้าวไทยจะสูงขึ้นได้อีก แต่ไม่น่าจะมากกว่าในช่วงนี้มากนัก เพราะถ้ายิ่งราคาแพงก็จะยิ่งขายยาก

ขณะที่การขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ให้กับรัฐบาลจีน จากที่ทำสัญญาซื้อขายไปแล้ว 1 ล้านตัน ล่าสุดได้ส่งมอบให้จีนแล้ว 700,000 ตัน หรือ 7 ล๊อตๆ ละ 100,000 ตัน ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาซื้อขายล๊อตที่ 8 อีก 100,000 ตัน
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"