'เรืองไกร'ร้องผู้ตรวจการฯสอบ'กกต.'เอาผิด'ธนาธร'ถือหุ้นสื่อไม่ชอบ


เพิ่มเพื่อน    

29 เม.ย.62- ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักษาชาติ เข้ายื่นหนังสือถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อเสนอความเห็นต่อศาลปกครองว่า กฎ คำสั่ง การกระทำของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายหรือไม่ เนื่องจาก กกต. ได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ในฐานะผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 เป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามไม่ให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. โดยเป็นเจ้าของหรือถือหุ้นสื่อ ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ 

นอกจากนี้ กกต. ยังได้ยื่นฟ้องผู้สมัคร ส.ส.จากพรรคการเมืองต่างๆ ต่อศาลฎีกาแล้ว 11 ราย แต่ กกต.กลับวินิจฉัยกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเปิดเฟซบุ๊ก อินสตราแกรม ทวิตเตอร์ และเว็บไซต์ส่วนตัวเพื่อสื่อสารกับสาธารณชน ไม่เข้าข่ายเป็นเจ้าของสื่อมวลชนใดๆ

 นายเรืองไกร กล่าวว่า การปฏิบัติที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดของ กกต. ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ กับนายธนาธร อาจทำให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่เลือกพรรคอนาคตใหม่ไปกว่า 6 ล้านเสียง มองว่าเป็นเจตนาเพื่อให้ส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้งทั่วไปของพรรคอนาคตใหม่ และอาจถูกตั้งข้อสังเกตว่านายกฯ เป็นเจ้าของสื่อไม่ผิด แต่นายธนาธรเป็นผู้ถือหุ้นสื่อกลับผิด ตนจึงยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจฯ ให้เสนอความเห็นไปยังศาลปกครองว่าการกระทำของ กกต.มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายหรือไม่ กกต. กล่าวหานายธนาธร แต่มองข้าม พล.อ.ประยุทธ์ ไปได้อย่างไร ถึงไม่ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย

นายเรืองไกร กล่าวด้วยว่า ตนมองว่าความหมายของสื่อมวลชนกว้างมาก วันนี้สำนักข่าวอิศราและโพสต์ทูเดย์ไม่ได้ตีพิมพ์ แต่ก็ยังมีฐานะเป็นสื่อมวลชน และเมื่อตรวจสอบประวัติการร่างรัฐธรรมนูญ เรื่องนี้ไม่เคยปรากฏในร่างรัฐธรรมนูญชุดของนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ และร่างรัฐธรรมนูญของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)ในช่วงแรก แต่ต่อมาสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เป็นผู้เสนอเพิ่มเติมจึงปรากฏขึ้น ซึ่งแม้แต่ พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ สมาชิก สนช.ก็เห็นแย้ง บอกว่าการห้ามถือหุ้นสื่อจะกระทบต่อสิทธิของผู้สมัครจำนวนมาก เพราะมีกิจการสื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์จำนวนมาก และไม่เป็นไปตามหลักสากล

"ผมมองว่ากฎหมายเขียนเอาไว้ยุ่งจริงๆ ถ้าเป็นไปได้ควรทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ส่วนประเด็นที่นายชีพ จุลมนต์ ประธานศาลฎีกาพูด ตนยังไม่อยากโต้ แต่ขอให้ไปดูกฎหมายขององค์กรอิสระก่อนว่ามันครบเครื่องแล้วหรือไม่ และก่อนที่ กกต.จะประกาศรับรอง ส.ส.ขอให้ กกต.ใช้อำนาจตรวจสอบว่าที่ ส.ส.ทั้ง 350 คน ว่ามีคุณสมบัติครบถ้วนหรือไม่ ทำไม่ยาก แค่แจ้งไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) เพื่อตรวจสอบยืนยัน"

ถามว่า กกต. อาจคิดว่าเจ้าของเฟซบุ๊กคือมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ทำให้พิจารณาว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช้เจ้าของสื่อ นายเรืองไกร กล่าวว่า ถ้าอย่างนั้นกิจการโทรทัศน์ โทรคมนาคม หรือว่าทางด่วน ก็เป็นของประเทศชาติ ไม่มีใครเป็นเจ้าของเช่นกัน แต่ไปขอสัมปทานจากรัฐ จึงมองว่าการเป็นเจ้าของสื่อทุกประเภท เข้าข่ายขาดคุณสมบัติทั้งหมด


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"