ทำงานร่วมกันวันสุดท้าย'บิ๊กตู่'ใจหาย! 15 รัฐมนตรีลาออก


เพิ่มเพื่อน    

7 พ.ค.62- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยกล่าวทักทายสื่อมวลชนอย่างอารมณ์ดีทันทีว่า ตื่นเต้นอะไรกันหรือ มีอะไรตื่นเต้นกันนักหนา 

เมื่อผู้สื่อข่าวระบุว่าตื่นเต้นที่มีรัฐมนตรีลาออกถึง 15 คน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวตอบพร้อมยิ้มว่า ยังไม่ชินกันอีกหรือ ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่รัฐมนตรีลาออกหลายกระทรวงจะมีผลกระทบต่อการทำงานหรือไม่ นายกฯตอบว่า วันนี้ถือเป็นวันสุดท้ายที่ทำงานร่วมกันในการประชุมครม.เต็มคณะครบ ถือเป็นครั้งสุดท้าย ก็ต้องลาออกไป สำหรับการมอบหมายกระทรวงที่ไม่มีรัฐมนตรีอยู่นั้น ก็จะมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีที่รับผิดชอบในการบริหารรวมทั้งทำหน้าที่ขับเคลื่อน และรับผิดชอบเหมือนเดิม

นายกฯ กล่าวอีกว่าในส่วนของคสช.จากเดิมมี 15 คน เหลือ 11 คน ในส่วนของครม.เดิมมี 36 คน เหลือ 17 คน รวมถึงตนในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วย เพราะมีการลาออกในครั้งที่แล้วจำนวน 4 คน วันนี้อีก 15 คน ทำให้มีรัฐมนตรีคงเหลือปัจจุบัน 17 คน ก็ยังมีการประชุมได้ตามปกติ สำหรับการประชุมร่วมครม.และคสช. ยังสามารถดำเนินการได้ตามกฎหมาย ตราบใดที่ยังมีคสช.อยู่ก็ยังประชุมได้ในช่วงที่มีความสำคัญ แต่ถ้าไม่สำคัญก็จะไม่มีการประชุม ไม่ต้องกังวลอะไร และไม่ว่าจะมีจำนวนเหลืออยู่เท่าไหร่ก็ตาม รัฐบาล รัฐมนตรีที่เหลือ ก็ยังบริหารงานต่อไปได้ โดยมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เหลือมารับผิดชอบงานเพิ่มเติม กระทรวงใดที่รัฐมนตรีว่าการยังอยู่ รัฐมนตรีช่วยออกไป ก็ต้องทำหน้าที่แทนงานที่เคยมอบหมายไป รัฐบาลได้วางแผนการทำงานมาโดยตลอดตามระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน

 ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่มีรัฐมนตรีและสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เข้าไปเป็นสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จะถูกครหาว่าเป็นเงาของคสช.หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็อย่ามองว่าบุคคลที่เข้าไปเป็นส.ว.นั้นเป็นศัตรูกับใคร ต้องมองว่าตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ทุกคนได้ทำงานอะไรมาบ้าง ดังนั้นในอนาคตวันข้างหน้าการวางพื้นฐานประเทศในทุกๆด้าน ก็ควรจะต้องได้คนที่รู้เรื่องการทำงานในช่วงที่ผ่านมาเข้ามาอยู่ในส.ว.ด้วย เพื่อให้เกิดการดำเนินงานต่อไป ซึ่งก็สุดแล้วแต่รัฐบาลชุดต่อไปจะดำเนินการ เพราะส.ว.ก็มีหน้าที่ในการดำเนินการด้านกฎหมายเป็นหลัก ขอร้องว่าให้มองในทางสร้างสรรค์กันหน่อย หน้าที่ของทุกคน อย่ามองว่าทุกคนเป็นศัตรู เพราะคสช.ไม่เคยเป็นศัตรูกับใครเลย

“5 ปี ไม่ใช่เวลาอันสั้นๆ วันนี้ผมก็รู้สึกใจหาย ได้เห็นหน้าเห็นตากันครบถ้วน ก็หายไปหลายคน และวันนี้อยากจะขอร้องว่า สถานการณ์ความสงบเรียบร้อย ความมีมิตรไมตรีต่างๆในสังคมทุกระดับในสังคมที่ผ่านมา ไม่ว่าจะสังคมโซเชียลมีเดียก็ได้ลดความรุนแรง ลดเฮชสปีดลงไป ถ้าเราทำได้อย่างนี้ต่อไปบ้านเมืองก็จะสงบเอง เพราะเรื่องความปรองดองเป็นเรื่องจิตใจของทุกคน ถ้าเรายึดมั่นในตัวเราเอง คิดเอาเองมันแก้ไขอะไรไม่ได้ แม้กระทั่งตัวผมเอง ผมก็ยังเอาสิ่งที่ผมคิดและอยากจะทำ มาทำเองไม่ได้ ต้องนำไปหารือในครม.และคสช.ทุกเรื่อง ว่าควรหรือไม่ควร ทำได้หรือไม่ได้ อย่างวันนี้จะเห็นได้ว่าประชุมตั้งแต่ 09.00 น. ทั้งคสช.และครม.ร่วมกัน จากนั้นเป็นการประชุมครม.จนเลิกในเวลา 15.00 น. ไปดูสถิติก็แล้วกันว่ามีรัฐบาลไหนประชุมแบบนี้บ้าง ต้องนำทุกเรื่องมาหารือกัน” นายกฯ กล่าว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"